วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2558

FIND III

Short Fiction : FIND




          มาร์คลังเลใจว่าจะกดรับดีมั๊ย? เพราะถ้าเป็นแฟนของแบมแบมโทรมาแล้วเขาเกิดรับไป แฟนเด็กนี่ก็อาจจะเข้าใจผิดได้ แต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ... แต่ถึงยังไงก็ต้องอธิบายให้ฟัง ...มาร์คคิดได้ดังนั้นจึงกดรับ


          “แบมแบมมมมมม ทำไมถึงเพิ่งรับห๊ะ?” ไม่ทันให้มาร์คได้เอ่ยคำทักทายอะไร เสียงปลายสายก็ดังขึ้นต่อว่าเสียแล้ว


          “ขอโทษครับ คือแบมแบมหลับอยู่” มาร์คเอ่ยเสียงนิ่งๆ แต่ในใจก็สั่นๆ กลัวว่าตนเองจะพูดอะไรไม่ดีออกไป


          “พี่คุณเหรอครับ?” ปลายสายเอ่ย ...คุณไหนอีก? มาร์คสงสัยแต่ก็ตอบกลับไปอย่างสุภาพ


          “ไม่ใช่ครับ คือผมชื่อมาร์ค ตอนนี้...” มาร์คยังพูดไม่ทันจบปลายสายก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน


          “ห๊า?? พี่มาร์ค!!!” เมื่อได้ยินปลายสายเอ่ยเรียกมาร์คว่าพี่แบบนั้น เขาจึงค่อนข้างน่าใจว่าอีกคนต้องอายุน้อยกว่าเขาแน่ๆ


          “รู้จักฉันด้วยเหรอ?” สรรพนามที่ใช้เรียกแทนตัวเองจึงถูกเปลี่ยนไปทันที...


          “แล้วพี่ทำไมไปอยู่กับแบมแบมอ่ะ พี่ทำอะไรเพื่อนผม!!” ปลายสายไม่เพียงไม่ตอบคำถามแต่ยังโวยวายใส่มาร์คอีก


          “ฉันเปล่า... แบมแบมไม่ค่อยสบาย ตอนนี้อยู่บ้านฉัน” มาร์คพยายามอธิบายอย่างใจเย็น


          “เห้ย! ทำไมงั้นอ่ะ แล้วทำไมแบมแบมถึงไปอยู่บ้านพี่ได้อ่ะ”


          “ก็ฉันไม่รู้ว่าบ้านเพื่อนนายอยู่ไหนนี่... อยู่ๆเพื่อนนายก็หลับไป ฉันก็เลยต้องอุ้มกลับมาที่บ้านนี่แหละ”


          “พี่! บ้านพี่อยู่ไหนอ่ะ เดี๋ยวผมจะไปหา”


          “หมู่บ้าน Gotseven นายรู้จักรึเปล่า?”


          “หมู่บ้าน Gotseven!! บ้านผมอยู่ก่อนถึงหมู่บ้านพี่อ่ะ พี่อยู่หลังไหน”


          “100/100 ซอย 10” มาร์คเอ่ย


          “ได้เลยพี่... เดี๋ยวผมไป ฝากพี่ดูแลแบมแบมก่อนนะครับ” ปลายสายตัดไป มาร์คจึงเดินไปเตรียมน้ำอุ่นและผ้าขนหนู เขาวางอ่างน้ำอุ่นเอาไว้บนโต๊ะแล้วใช้ผ้าชุบน้ำแล้วบิดเตรียมเช็ดหน้าให้แบมแบม แต่เขาก็ชะงักมือไว้แค่นั้น


          “รอเพื่อนนายมาเช็ดให้ดีกว่านะ” มาร์ควางผ้าลงและเดินออกจากห้องไป


          ไม่นานเขาก็เดินกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง เพราะลังเลใจ


          “ถ้าเพื่อนนายมาช้า แล้วนายไข้ขึ้นหนักกว่านี้ มันต้องแย่แน่ๆเลย” คิดได้ดังนั้นเขาก็หยิบผ้าขนหนูขึ้นมาอีกครั้งแล้วค่อยๆเช็ดหน้าแบมแบมอย่างเบามือ


          แต่เหมือนมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาไม่สามารถละสายตาไปจากดวงหน้าน่ารักนั่นได้เลย ...แบมแบมเหมือนเด็กที่ไร้เดียงสา น่าปกป้อง น่าทะนุถนอม ...ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกดี จนมาร์คเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว





          AAAaaaaaaaaaaaaaa


          มาร์คสะดุ้งตกใจเพราะเสียงออดหน้าบ้านของตนดังขึ้น


          “สงสัยจะมาแล้ว...” เขาเอ่ยก่อนจะมองหน้าแบมแบมอีกครั้งพลางถอนหายใจ


          มาร์คเดินออกมาจนถึงประตูรั้วก็พบกับเด็กหนุ่มหน้าตาดี ยืนรออยู่ด้วยความกระวนกระวาย... เด็กนี่คงจะเป็น จูเนียร์ สินะ


          “พี่มาร์คคคคคคค เปิดเร็วๆสิครับ... แบมแบมเป็นไงบ้าง” ทันทีที่มาร์คเปิดประตูจูเนียร์ก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้านของมาร์คอย่างถือวิสาสะ


          จูเนียร์วิ่งเข้าไปยังห้องรับแขก ห้องครัว และห้องน้ำ แต่ก็ไม่พบแบมแบมเลย เขาจึงหันไปโวยวายกับมาร์ค


          “พี่มาร์ค!! แบมแบมล่ะ! พี่เอาเพื่อนผมไปไว้ไหน? บอกมานะ!!!” จูเนียร์มองมาร์คอย่างเคืองๆ


          “อยู่ข้างบน” มาร์คตอบสั้นๆ


          “เอ้า! แล้วทำไมพี่เพิ่งจะบอกผมล่ะ” จูเนียร์ส่ายหัวเล็กๆ


          “ฉันบอกทันมั้ยล่ะ?... นายเล่นวิ่งเข้ามาเร็วซะขนาดนั้น จะให้ฉันพูดตอนไหน?”


          “อ่อ...” จูเนียร์เกาหัวแก้เก้อ “เอ่อพี่! แบมแบมอยู่ห้องไหน? พาผมไปหน่อยดิ่”


          “เฮ้อ~” มาร์คถอนหายใจ แต่ก็เดินนำจูเนียร์ขึ้นมายังห้องที่ตนเองพาแบมแบมมานอนพัก


          “แบมแบม!” จูเนียร์ที่เห็นเพื่อนรักของตนนอนสลบไสลไม่ได้สติก็รีบวิ่งเข้าไปดูอาการ เขาใช้มือทาบที่หน้าผาก แล้วทำหน้าตาตื่นตระหนก


          “ตายแล้ว! ตัวร้อนขนาดนี้เลย...” จูเนียร์หันไปหามาร์ค “ทำไมพี่ไม่เช็ดตัวให้แบมก่อน ไข้จะได้ไม่สูงขนาดนี้!!” จูเนียร์โวยวาย


          “นี่นาย! หยุดโวยวายสักทีจะได้มั๊ย?!” จูเนียร์เงียบ “เฮ้อ... ฉันกำลังเช็ดตัวให้แบมแบม แล้วนายก็มานี่แหละ” มาร์คเอ่ยเซ็งๆ


          “เหรอ...งั้นเดี๋ยวผมเช็ดตัวให้แบมแบมต่อเอง... พี่มียาลดไข้มั๊ย? ผมขอหน่อยสิ... แล้วก็ฝากพี่หาอะไรร้อนๆ เอ่อ...ผมขอเป็นข้าวต้มสักถ้วย จะให้แบมแบมกินก่อนกินยา อ้อ! ข้าวต้มอย่าใส่พริกไทยนะพี่ แบมแบมแพ้...แล้วก็...” จูเนียร์ร่ายยาว


          “เอาอะไรอีกมั๊ย?” มาร์คเอ่ย


          “เอ่อ... ไม่เอาแล้วก็ได้ครับ ขอบคุณมาก” จูเนียร์ยิ้มแห้งๆ ก่อนจะเริ่มเช็ดตัวให้แบมแบม


          มาร์คลงมายังห้องครัวอย่างกังวลใจ


          “แล้วข้าวต้มที่ฉันทำมันจะกินได้มั๊ยเนี่ย?” ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่มาร์คก็ตั้งหม้อเตรียมทำอาหารเต็มที่



          เวลาผ่านไปสักพักข้าวต้มฝีมือมาร์ค ต้วน ก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี มาร์คตักข้าวต้มใส่ชาม และเดินไปหยิบยาลดไข้ในตู้ยามาวางไว้ในถาด ข้างๆชามข้าวต้ม


          “นายจะอาการหนักขึ้นเพราะกินอาหารฝีมือฉันรึเปล่านะ?” มาร์คพึมพำกับตัวเอง และเดินยกข้าวต้มกับยาลดไข้ขึ้นไปบนห้อง


          “เอ่อ... นี่ข้าวต้มกับยา” มาร์คว่าพลางวางถาดลงบนโต๊ะ


          “ขอบคุณครับ” จูเนียร์เอ่ย


          “เพื่อนนายเป็นไงบ้าง?”


          “ผมเช็ดตัวให้แล้ว... แต่ไข้ก็ยังไม่ลดอยู่ดี เดี๋ยวคงต้องหาทางปลุกแบมแบมให้ลุกขึ้นมากินยาซะแล้วล่ะครับ”


          “เฮ้อ~” มาร์คถอนหายใจเบาๆ พลางคิดในใจ... แบมแบม...ถ้าฉันไม่เรียกนาย นายก็คงไม่ต้องรีบวิ่งมาจนเหนื่อย แถมยังได้แผลอีก นี่มันความผิดฉันชัดๆเลย!


          “เอ่อ...แล้วอาจารย์ใหญ่ไปไหนเหรอครับ?” จูเนียร์ว่า


          “ไม่อยู่หรอก ไปต่างประเทศกับแม่น่ะ”


          “งั้นพี่ก็อยู่บ้านคนเดียวน่ะสิ!” จูเนียร์ดูตกใจไม่น้อย


          “อื้ม...ทำไม? นายจะปล้นฉันรึไง?” มาร์คเอ่ยเสียงเรียบ


          “จะบ้าเหรอพี่! ผมก็แค่ถามดูเฉยๆ”


          “อืม ฉันก็พูดเล่นไปงั้นแหละ” จูเนียร์อึ้ง เพราะแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าคนอย่างมาร์คจะพูดเล่นกับใครเค้าเป็น มาร์คเดินออกมานอกระเบียงของห้องนอน แล้วยืนรับลมเย็นๆ


          “พี่มาร์ค... ผมขอยืนด้วยคนได้มั๊ยครับ?” มาร์คมองหน้าจูเนียร์แล้วพยักหน้า “เฮ้อ~” จูเนียร์ถอนหายใจแล้วขมวดคิ้ว


          “เป็นห่วงเพื่อนเหรอ?” มาร์คเอ่ย


          “ครับ... จะไม่ให้ห่วงได้ไงล่ะพี่ แบมแบมเป็นเพื่อนรักผมนะ” จูเนียร์ยิ้มให้มาร์คอย่างเปิดเผย


          “ตอนแรกฉันก็คิดว่านายเป็นแฟนแบมแบมซะอีก”


          “ฮ่าๆๆ หลายๆคนก็มักจะคิดแบบนี้แหละครับ ผมชินแล้ว” จูเนียร์หัวเราะน้อยๆ


          “แล้วนายไม่มีแฟนเหรอ?”


          “อยากมี... แต่ก็ไม่อยากมีอ่ะพี่” จูเนียร์เอ่ย มาร์คทำสีหน้างงอย่างเห็นได้ชัดจนจูเนียร์ถึงกับหลุดหัวเราะ


          “ขำอะไร? ฉันแค่ไม่เข้าใจที่นายพูด... อะไรคืออยากมี...แต่ก็ไม่อยากมี?” มาร์คเอ่ยถามเพราะคลางแคลงใจ


          “ก็...ผมน่ะอยากมีแฟนนะ เหมือนกับที่ทุกๆคนเค้าก็อยากมีกันนั่นแหละ แต่แฟนน่ะมีแล้วก็เรื่องมาก ผมเลยไม่อยากมี” จูเนียร์เอ่ยยิ้มๆ


          “นายไม่ชอบคนเรื่องมากเหรอ?... แต่ฉันว่านายน่ะ เรื่องมากที่สุดเลยนะ” มาร์คเหน็บแนมจูเนียร์ เพราะตั้งแต่เจอหน้าจูเนียร์จนถึงตอนนี้ จูเนียร์ก็ใช้เขาทำโน่นทำนี่ สั่งโน่นสั่งนี่ ไปซะเยอะแยะเลย


          “ก็เพราะผมเป็นแบบนี้ไง... ผมเลยไม่อยากมีแฟน เดี๋ยวเค้าจะรับผมไม่ได้”


          “แล้วทำไมไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองล่ะ”


          “ผมไม่เปลี่ยนเพื่อให้ใครมาชอบผมหรอก ...ถ้าเค้าจะชอบผม เค้าก็ต้องยอมรับตัวตนของผมได้” จูเนียร์เอ่ย “แล้วพี่อ่ะ? ถามผมซะเยอะแยะ ชอบผมป่าวเนี่ย?” จูเนียร์แซวมาร์ค แต่ก็ได้รับเพียงเสียงหัวเราะในลำคอของมาร์คเท่านั้น


          “ฉันยังอยากมีอนาคตที่ดีนะ” มาร์คว่า

       
          “ผมล้อเล่นหรอก... เล่นผมกลับซะแรงเลยนะ” จูเนียร์หัวเราะน้อยๆ “แล้วพี่ไม่คิดจะมีแฟนบ้างเหรอ?”


          “ไม่รู้สิ... มันยังไม่เจอ...” มาร์คทอดสายตามองไปยังท้องฟ้ายามเย็น


          “บางทีพี่อาจจะเจอแล้ว...”


          “......” มาร์คหรี่ตามองจูเนียร์


          “พี่เคยมองคนรอบๆตัวพี่บ้างป้ะล่ะ? ถ้าพี่ลองมองดูดีๆ บางที...พี่อาจจะเจอคนๆนั้นก็ได้นะ”


          “ช่างเถอะ! ถ้ามันจะมี เดี๋ยวมันก็มีเอง... ฉันว่าปลุกแบมแบมขึ้นมากินข้าวได้แล้วจะได้กินยา”


          “ครับ...” จูเนียร์รับคำ ก่อนจะเดินมาที่เตียง “แบมแบม... แบมแบม” จูเนียร์เขย่าแขนแบมแบมเบาๆ แต่แบมแบมก็ยังไม่ตื่น เขาจึงตบไปที่หน้าของแบมแบมเบาๆ แต่แบมแบมก็ยังไม่ตื่นอยู่ดี


          “เพื่อนนายนี่ขี้เซาจริงๆ” มาร์คว่า แต่ในใจก็กลัวว่าแบมแบมจะเป็นอะไรไป เขาจึงขยับเข้าไปแทนที่จูเนียร์แล้วปลุกแบมแบมด้วยตัวเอง


          “แบมแบม... แบม” มาร์คตบไปที่แก้มของแบมแบมเบาๆหลายครั้ง แต่แบมแบมก็ยังคงนอนนิ่ง “ทำไมไม่ตื่นสักทีนะ”


          “นั่นสิพี่! ...อืม...ผมว่าลองปลุกแบบเจ้าหญิงนิทราดูม๊ะ?” จูเนียร์เอ่ยยิ้มๆ แต่มาร์คกลับหน้าขึ้นสี ...ปลุกแบบเจ้าหญิงนิทรา



          มันก็ต้องจุมพิตน่ะสิ


          “นายก็พูดไปเรื่อย...” มาร์คไก๋ทำเป็นเขย่าตัวปลุกแบมแบมโดยพยายามไม่คิดถึงประโยคที่จูเนียร์พูดไปเมื่อครู่


          “ไม่แน่นะพี่...ลองดูดิ่ เผื่อจะฟื้น” จูเนียร์ยังคงยุให้มาร์คทำตาม


          RRRrrrrrrrrrrrrrrr


          เสียงโทรศัพท์ที่บ้านของมาร์คดังขึ้นที่ชั้นล่างของบ้าน


          “เดี๋ยวผมไปรับให้! พี่ดูแบมแบมไปก่อนนะ” ว่าแล้วจูเนียร์ก็รีบวิ่งลงไปชั้นล่างอย่างรวดเร็วโดยไม่รอฟังคำของมาร์คเสียก่อน


          “เฮ้อ~” มาร์คส่ายหัวน้อยๆกับความซนของจูเนียร์ แล้วก็หันมาให้ความสนใจกับแบมแบมอีกครั้ง “ตื่นสิแบมแบม...” มาร์คว่าพลางจ้องดวงหน้าใสที่ยังคงไม่ได้สติ


          ‘ผมว่าลองปลุกแบบเจ้าหญิงนิทราดูม๊ะ?’


          มาร์คคิดถึงคำพูดของจูเนียร์... ถ้าฉันทำแบบนั้น แล้วนายจะฟื้นจริงๆใช่มั๊ย? สมองของเขาคิด แต่ร่างกายของเขากำลังค่อยๆเคลื่อนเข้าไปใกล้ๆแบมแบม... ใกล้จนกระทั่งใบหน้าของทั้งสองอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ และเพียงเสี้ยววินาทีที่มาร์คหลับตาลง ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูก็ถูกกดทับด้วยริมฝีปากหนา...


          มาร์คผละออกจากแบมแบม ท่าทางหน้าตาดูตกใจไม่น้อยที่ตนเองได้เผลอไผล ไปตามคำพูดของจูเนียร์


          “ไอ้มาร์ค! ไอ้บ้าเอ้ย!” มาร์คตบปากตัวเองแรงๆหลายที พลางพ่นคำต่อว่าตัวเองออกมามากมาย


          “พี่มาร์ค! เจ เอ้ย! พี่เจบีบอกว่าให้โทรกลับด่วนเลย” จูเนียร์ที่จู่ๆก็พรวดพราดเข้ามาในห้อง จนมาร์คสะดุ้งตกใจ “พี่ทำอะไรอ่ะ...ตบปากตัวเองทำไม?” จูเนียร์สังเกตเห็นที่บริเวณปากของมาร์คเกิดเป็นรอยแดงแล้วก็ยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ว่าเค้าจะทำร้ายตัวเองทำไม?


          “เอ่อ...เปล่า ตบยุงน่ะ ยุงกัด...เจบีโทรมาเหรอ?” มาร์คเปลี่ยนเรื่อง


          “ครับ...เค้า...บอกให้พี่โทรกลับไปหาเค้าด่วนเลย มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย” จูเนียร์ว่า


          “ทำไมมันไม่โทรเข้ามือถือวะ?” มาร์คพึมพำกับตัวเองเบาๆ


          “เห็นเค้าบ่นว่าพี่ปิดเครื่องอ่ะ” จูเนียร์เอ่ยก่อนจะเดินไปดูแบมแบม “แบมแบม...แบมแบม” จูเนียร์ปลุกแบมแบมด้วยการเขย่าเบาๆ ซึ่งก็ได้ผล แบมแบมขยับตัวน้อยๆ พลางเลื่อนมือขึ้นกุมขมับ แล้วค่อยๆขยับเปลือกตาของตัวเองขึ้น การเคลื่อนไหวร่างกายของแบมแบมอยู่ในสายตาของมาร์คตลอด เขาดีใจที่แบมแบมตื่น... แต่ก็ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด หัวใจถึงได้เต้นแรงจนจะหลุดออกมาเมื่อมองไปยังริมฝีปากบางนั่น ที่กำลังพยายามขยับเพื่อที่จะเอื้อนเอ่ยคำพูดออกมา


          “พี่มาร์ค!! แบมแบมฟื้นแล้ว ...พี่ไม่ต้องปลุกแบบเจ้าหญิงนิทราแล้วล่ะ ฮ่าๆๆๆ” จูเนียร์หัวเราะอย่างสนุกสนานกับคำพูดเล่นๆของตน แต่มาร์คนั้นถึงกับหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาเลยทีเดียว...



          ก็มัน...ไม่ทันแล้วล่ะ เพราะเขาปลุกไปแล้ว



          มาร์คเดินออกจากห้องลงไปยังชั้นล่างด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด เขาใช้มือกุมไปที่หน้าอกข้างซ้าย แล้วหายใจเข้าออกลึกๆ เผื่อว่าจะช่วยให้ก้อนเนื้อข้างในมันจะเต้นช้าลงได้บ้าง แต่เห็นทีจะไม่ได้ผลสักเท่าไหร่ เขาจึงพยายามเปลี่ยนความสนใจของตัวเองจากแบมแบมเป็นอย่างอื่น


          “ใช่! เจบี... เจบีบอกให้โทรกลับ” มาร์คหยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นมา แต่ก็พบว่ามือถือของตนนั้นแบตฯหมด เขาจึงใช้โทรศัพท์บ้านโทรไปหาเจบีแทน


          (ไอ้มาร์ค! ทำไมเพิ่งโทรกลับวะ?) ปลายสายต่อว่า


          “โทษทีว่ะ พอดี... เอ่อ พอดีมีปัญหานิดหน่อย”


          (ปัญหาไรของแก? แล้วเมื่อตะกี้ใครรับโทสับวะ? เสียงหวานเชียว)


          “เมื่อกี้...คือ เรื่องมันยาวว่ะ แล้วแกมีอะไร?”


          (ยาวแค่ไหนฉันก็มีเวลาฟัง ...เล่าเรื่องยาวๆของแกมาก่อน ฉันถึงจะพูดธุระของฉัน)


          “เฮ้อ~ ก็คือว่า... แบมแบมของแกไม่สบาย ฉันเลยพามาพักที่บ้านเพราะไม่รู้ว่าบ้านน้องเค้าอยู่ไหน... แล้วคนเมื่อกี้ที่รับโทรศัพท์แกก็เป็นเพื่อนแบมแบม เค้ามาดูอาการเพื่อนเค้า”


          (นี่ยาววววววววววววววววของแกแล้วใช่มั๊ย?)


          “เออ! ฉันไม่อยากให้แกรอนานเลยย่อให้สั้นๆ”


          (อ๋อ เหรอออออออออออออออ)


          “เอออออออออออออออออออออออออ”


          (ฮ่าๆๆ ว่าแต่...วันนี้แกทำอะไรไว้เนี่ย? ไม่กลัวไมโครโฟนแล้วรึไงวะถึงได้ประกาศเรียกแบมแบมอ่ะ?) มาร์คอ้าปากค้าง เพราะลืมนึกไปว่าตัวเองกลัวไมโครโฟน แต่ดันประกาศออกไมค์โรงเรียนซะงั้น


          “นี่คือธุระที่แกจะพูดใช่มั๊ย?!”


          (ฮ่าๆๆ เปล่าเว้ย!! ธุระของฉันก็คือ... ฉันจะบอกแก ...ว่าวันพรุ่งนี้ ฉันจะเปิดตัวเจ้าของสมุดบันทึกเล่มนั้น)


          “เปิดตัว!! เหอะ! แกจะเปิดตัวแบมแบม ทั้งๆที่ตอนนี้น้องเค้าไม่สบายอย่างนั้นเหรอ?” มาร์คส่ายหัวอย่างเบื่อหน่ายในนิสัยของเพื่อนรัก ...แบมแบมกำลังไม่สบาย แต่เจบีกำลังจะบอกกับคนทั้งโรงเรียนว่าแบมแบมเป็นเจ้าของสมุดบันทึกนั่น... เป็นหัวขโมยที่ขโมยของบ้าบออะไรก็ไม่รู้ตามที่เจบีสร้างเรื่องขึ้นมา... และสุดท้ายก็คงไม่พ้น แบมแบมจะโดนคนทั้งโรงเรียนต่อว่า ดูหมิ่น เหยียดหยาม เกลียดชัง!


          (มันเกี่ยวอะไรกันวะเนี่ย?! เออๆ พูดไปแกก็ไม่ฟังฉันอยู่ดี พรุ่งนี้รอดูแล้วกัน! แค่นี้นะ บาย!) เจบีวางสายไป มาร์คถอนหายใจในความดื้อรั้นของเจบี ...นอกจากดื้อแล้ว ฉันว่า...แกมันใจแคบที่สุดในโลกเลย




          มาร์คเดินขึ้นชั้นสองเพื่อจะไปดูอาการของแบมแบม เขาก้าวเข้าห้องซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่จูเนียร์กำลังป้อนข้าวต้มคนป่วยอยู่ เขาลอบมองแบมแบมด้วยความอยากรู้ว่ารสชาติของข้าวต้มมันจะออกมาแย่รึเปล่า


          “พี่มาร์ค... ขอบคุณมากนะครับ” เสียงแหบพร่าของแบมแบมดังขึ้นทันทีที่เห็นมาร์ค


          “ขะ...ขอบคุณทำไม?” มาร์คทำสีหน้าไม่ถูกที่จู่ๆแบมแบมก็กล่าวขอบคุณตน เขาเดินไปนั่งที่เก้าอี้ที่วางอยู่ด้านหลังจูเนียร์ แต่ก็ยังพอเห็นหน้าแบมแบม “ฉันต้องขอโทษนายสิถึงจะถูก” มาร์คเอ่ยด้วยความรู้สึกผิด


          “ขอโทษผมทำไมกันครับ?” แบมแบมแสดงความสงสัยออกมาอย่างปิดไม่มิด มาร์คเห็นแล้วก็ยิ้มน้อยๆ ...ขนาดป่วยยังน่ารักเสียขนาดนี้


          “ก็ที่ฉันเร่งนายให้มาพบ จนนายได้แผล... แล้วก็...นายไม่สบาย ฉันก็ไม่ได้พานายไปส่งบ้านตามที่ตกลง อีกอย่าง...”


          ...ขอโทษที่ฉันเผลอจูบนายไป

       


          แค่คิดนะ...แต่ไม่ได้พูดออกไปแบบนั้น


          “ขอโทษเรื่องข้าวต้ม รสชาติมันคงจะห่วยมาก แต่ก็ทนกินไปหน่อยนะ จะได้กินยา” แบมแบมได้ฟังดังนั้นก็ส่ายหน้าน้อยๆ


          “ไม่ใช่ความผิดพี่หรอก... อย่าโทษตัวเองเลยครับ แล้ว...ข้าวต้มนี่ก็อร่อยมาก ขอบคุณครับ” แบมแบมยิ้มบางๆ พลางยกนิ้วโป้งให้สองข้าง แล้วหันไปอ้าปากรับข้าวต้มในช้อนที่จูเนียร์ป้อนเข้าปาก


          “........” มาร์คไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก เขากำลังมองไปยังดวงหน้าน่ารักที่กำลังเคี้ยวข้าวตุ้ยๆนั่นด้วยความรู้สึกบางอย่าง... แบมแบมเป็นคนดีจริงๆ รอยยิ้มของนายทำเอาฉันอยากยิ้มตามไปซะทุกที น่ารักเสียจนไม่อยากละสายตาไปไหน ความรู้สึกแบบนี้... หัวใจเต้นแรงแบบนี้... ฉันว่า...ฉันอาจจะชอบนายเข้าให้แล้วล่ะ แบมแบม...


          มาร์คยิ้มกับตัวเองได้ไม่นาน หน้าของเจบีก็ลอยเข้ามาในสมอง... แต่แบมแบมชอบเจบีนี่... แล้วเจบีก็ดูเหมือนว่าจะสนใจของขวัญที่แบมแบมส่งให้ทุกชิ้น... และมีทีท่าว่าเค้าสองคนคงจะใจตรงกันในอีกไม่ช้า ...แล้วฉันจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองยังไงล่ะ?


          “พี่มาร์ค...!” จูเนียร์สะกิดเรียกมาร์คเมื่อมาร์คเหม่อลอย ไม่ได้ยินที่จูเนียร์พูด


          “หืม? มีอะไร?” มาร์คที่เพิ่งจะมีสติเอ่ยอย่างงงๆ


          “ตามผมมานี่หน่อยสิ” จูเนียร์เอ่ยเบาๆ แล้วเดินออกจากห้องไป มาร์คขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เขาหันไปทางแบมแบมที่นอนหลับอยู่บนเตียงก็เข้าใจว่าจูเนียร์คงไม่อยากให้เสียงของการสนทนาของพวกเขา ดังรบกวนการนอนของเด็กน้อย


          “พี่!” จูเนียร์เอ่ยเมื่อมาร์คเดินตามออกมาจนถึงห้องรับแขกด้านล่างแล้ว


          “อืม...ว่าไง?”


          “ผมให้แบมแบมกินยาแล้ว ตอนนี้ผมว่าผมจะกลับแล้วล่ะ... แต่เดี๋ยวผมจะเอาชุดนักเรียนของผมมาเผื่อไว้ให้แบมแบมไปโรงเรียนพรุ่งนี้ ถ้าแบมแบมหายนะ... ฝากพี่ดูแลเพื่อนผมด้วยนะ”


          “แล้วนายไม่อยู่ดูแลเพื่อนนายเหรอ?”


          “ผมรู้ว่าพี่ดูแลแบมแบมได้ ฝากเช็คไข้ของแบมแบมบ่อยๆด้วยนะพี่”


          “นายหยุดเรียนมาดูแลเพื่อนนายสักวันคงไม่เป็นไรหรอก”


          “ผมหยุดไม่ได้หรอกพี่... พรุ่งนี้ ผมต้องไปจริงๆ” จูเนียร์โค้งให้มาร์คก่อนจะเดินออกจากบ้านไป


          มาร์คถอนหายใจ... ให้ดูแลคนป่วยน่ะ มันไม่หนักใจเท่าไหร่ แต่นี่ต้องมาดูแลแบมแบม คนที่ตัวเองคิดว่ารู้สึกดีๆด้วยแล้ว ...อาการหนักแน่ๆ มาร์คเอ้ย


          ผ่านไปไม่นานจูเนียร์ก็เอาชุดนักเรียนที่ว่ามาให้ มาร์ครับมาแล้วนำมันไปวางไว้ข้างๆกับชุดนักเรียนของตน


          “ถ้านายไม่หาย... ฉันคงไม่ใจร้ายทิ้งนายไว้แล้วไปโรงเรียนคนเดียวหรอก แบมแบม...” มาร์คพึมพำกับร่างไร้สติของแบมแบม พลางใช้มือปัดไรผมที่ปรกหน้าใสๆนั่นอย่างแผ่วเบา


          “สงสัยฉันคงจะชอบนายจริงๆซะแล้วล่ะ... เด็กน้อย...”


          มาร์คจัดการธุระส่วนตัวของตนเองจนเรียบร้อย จากนั้นเขาก็ใช้ผ้านวมผืนใหญ่ปูลงบนพื้นพรมสีน้ำตาลอ่อนข้างๆเตียง จากนั้นจึงวางหมอนลงพลางตบลงไปที่หมอนหนุนเบาๆ


          “ราตรีสวัสดิ์นะแบมแบม...” มาร์คว่าก่อนจะเอนตัวลงนอน


          ตอนกลางดึกของคืนนั้นเอง มาร์คลุกขึ้นจากที่นอนเพื่อที่จะไปเข้าห้องน้ำ เขาจัดการธุระส่วนตัวเสร็จแล้วจึงจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง แต่ก็ต้องตาสว่างเมื่อสังเกตเห็นแบมแบมว่ากำลังขยับตัว และพยายามเบียดตัวเข้าหาผ้าห่ม

       
          “หนาวเหรอ?” มาร์คว่าพลางดึงผ้าห่มขึ้นคลุมกายร่างบาง แต่ร่างกายของแบมแบมก็ยังคงสั่นเทาอยู่ภายใต้ผ้าห่มนั่น มาร์คจึงใช้ผ้านวมที่ตนเองได้ปูลงกับพรมเพื่อเป็นที่นอนห่มคลุมให้กับแบมแบมอีกชั้น แต่แบมแบมก็ยังไม่หยุดสั่น เขาจึงตัดสินใจขยับตัวของแบมแบมและแทรกตัวเองขึ้นไปบนเตียงข้างๆร่างบางอย่างระวัง ด้วยเกรงว่าจะไปโดนแผลของแบมแบมเข้า มาร์คนอนกอดแบมแบมเอาไว้และแบมแบมก็กอดเขาตอบเช่นกัน เขาหวังว่าความอบอุ่นจากร่างกายของตนจะสามารถแผ่ไปถึงแบมแบมได้...


          “ฝันดีนะเด็กน้อย...” มาร์คกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นและจูบลงบนหน้าผากของแบมแบมเพื่อเป็นการบอกราตรีสวัสดิ์อีกครั้ง


#ฟิคสั้นมาร์คแบม

1 ความคิดเห็น:

  1. ว้ายตายแล้ว มาร์คทำจริงๆ

    เออนี่ก้คิดว่าสมุดไม่น่าใช่ของแบมแหละดูจากข้อความในกระดาษ ดูไม่ใช่แบมเลย

    ของจูเนียร์?

    ตอบลบ