วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2558

ฟิคกระเรียน: ตอนที่ 6

ฟิคกระเรียน = เกรียนฟิค

#ฟิคกระเรียน


-6-
Lover




          “วันช็อต” ผมบอกก่อนที่ทั้งผมและมันจะกระดก ABSINTHE สีเขียวซีดๆนั่นให้ไหลลงคอไปจนหมดแก้ว


          ไอ้เหี้ยยยยยย


          แม่งแรงงงงงง


          ผมวางแก้วในมือลง... ร้อนคอแทบไหม้ หันมองอีกคนที่เพิ่งจะวางแก้วลงที่โต๊ะเช่นกัน ตอนนี้หน้ามันแบบเหมือนคนเมายากันยุง มันเอามือลูบที่คอตัวเองราวกับกินของร้อน


          ก่อนที่มันจะหันมามองหน้าผมแล้วเอามือมาจับไหล่ผมไว้ข้างหนึ่ง.. มันไม่ได้จะทำอะไรผมหรอกนะผมว่า... มันแค่จะหาที่ยึดเฉยๆ ไอ้เชี่ยยยย แล้วมึงมายึดกูด้วยนะ ถามหน่อยเหอะ มึงแดกเองมึงยังเป็นขนาดนี้ กูก็แดกนะได้ข่าว... แต่ขอโทษ พี่มันเซียนแล้วไอ้น้องเอ้ย จะมอมเหล้าพี่ยังเร็วไปอีกสิบชาติ ไอ้เหล้าปีศาจที่เค้าว่า มันก็ไม่เท่าไหร่นี่หว่า...




          ฟุบ


          อย่าตกใจไม่ใช่กูหรอกที่ล้มพับลงไปแต่เป็นไอ้หน้าม่อเมื่อกี้นี้ต่างหากล่ะ สมน้ำหน้า.. ผมก้มลงไปมองดูมันที่ตอนนี้นอนครางหน้าแนบเคาท์เตอร์อยู่ ไอ้สัส เป็นไงล่ะ หลอนเลยอ่ะดิ่มึง ผมหัวเราะน้อยๆแล้วยักคิ้วให้บาเทนเดอร์ทีนึง ซึ่งบาร์เทนเดอร์ก็เอ่ยชมผมพร้อยยกนิ้วโป้งให้สองนิ้วเลย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากูเก่ง


          หมับ


          จู่ๆก็มีมือมากระชากแขนผมให้ลุกออกจากตรงนั้น มันลากผมฝ่าผู้คนมากมายที่ยังดิ้นกันไม่เลิกก่อนจะเหวี่ยงผมลงที่โซฟา และเมื่อผมเห็นชัดแล้วว่าคนเหวี่ยงเป็นใคร ผมก็ต้องสตั๊นไป เมื่อไอ้คนที่เพิ่งเหวี่ยงผมมาเนี่ย... มันเดินเข้ามาแล้วขึ้นคร่อมผมทันที


          “เฮ้ยพี่มาร์ค!! ทำอะไรของพี่!!?” หน้าพี่มันตอนนี้อย่างกับไปกินรังแตนที่ไหนมา “พี่เมาป้ะเนี่ย?” ผมพยายามมองไปทั่วๆโต๊ะเพื่อหาคนที่เหลือ แต่ก็เห็นมีแต่พี่หวังที่มันยืนเต้นอยู่ไกลๆโน่น ไอ้สัส หายไปไหนกันหมดวะแม่ง


          “.....” พี่มาร์คไม่ได้ทำอะไรนอกจากนั่งคร่อมอยู่แบบนั้น แต่สายตาดุๆที่พี่มันมองมาก็ทำเอาผมต้องหลบสายตาอย่างกำลังกลัวความผิด... แต่เฮ้ย! กูผิดอะไร ตอบ!!!


          “พี่มาร์ค...” ผมเอื้อมมือตัวเองขึ้นไปแตะที่หน้าอกพี่มันเบาๆ “พี่เมาแล้วใช่ป้ะ?”


          “อือ” มันครางตอบในลำคอ... เชี่ย มึงเอาอีกแล้วนะ กูบอกแล้วไงว่าคนเมาที่ไหนจะยอมรับว่าตัวเองเมา


          “โอเคๆ พี่ลุกก่อนได้มั้ย? ผมจะอ้วก” ผมยกมือขึ้นสองข้างเป็นเชิงว่ายอมแพ้ ไม่อยากจะเถียงด้วยแล้ว พี่มันนิ่งไปสักพักก่อนจะค่อยลุกออกไปจากตัวผม ผมพยุงตัวเองให้นั่ง... เชี่ยยย กูว่ากูก็เริ่มมึนๆล้ะนะ ผมยกมือขึ้นกุมขมับตัวเองพลางนวดคลึงเบาๆ


          “ใครใช้ให้ไปกินของแบบนั้น” พี่มันนั่งข้างๆผมส่งสายตาดุๆมาให้... เชี่ยยย ดุกูจัง


          “เห็นด้วยหรอ?” ผมทำหน้าแหยๆก่อนจะเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง


          “อย่ามากวน”


          “ผมก็อยากลองดูไง... มีคนเลี้ยง ของฟรีใครไม่ชอบบ้างล่ะ” ผมก็แถๆไป แต่พี่มันก็ยังไม่เลิกจ้องหน้าผมอยู่ดี


          “รู้จักมันเหรอ ไปให้มันเลี้ยงน่ะ!” พี่มาร์คเริ่มใช้เสียงที่ดังขึ้นกับผมอีกแล้ว


          “ไม่รู้จักหรอก ผมก็แค่ทำให้เรื่องมันจบ!” ผมถอนหายใจยาวๆ


          ไอ้ห่าเอ้ย... เรื่องมันก็จบแล้ว จะมาต่อความยาวสาวความยืดกับกูเพื่อ?


          “ไม่รู้รึไงว่ามันอันตราย”


          “อะไรล่ะที่อันตราย... ผู้ชายคนนั้น หรือว่าเหล้า”


          “ทั้งสองอย่าง”


          “รู้... ทั้งสองอย่างนั้นแหละ... รู้ว่ามันอันตราย... แต่ผมจัดการได้!” ผมเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่าย... 


          คือต้องให้กูบอกอีกกี่ครั้งวะ... ว่ากูไม่ได้โง่...


          “ทำไมต้องดื้อ ทำไมต้องเถียง ทำไมไม่ฟัง!” พี่มาร์คเริ่มขมวดคิ้วอีกรอบ แต่คราวนี้บีบเข้าที่ต้นแขนผมด้วย... ผมนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ 


          ไอ้สัส แรงคนหรือแรงควายวะ! กูจะไม่ทนแล้วนะ!


          “ผมไม่ได้ดื้อ! แล้วผมก็ไม่ได้เถียง! ผมก็แค่อธิบายให้ฟัง... แล้วผมก็ฟังพี่อยู่นี่ไง พอพี่พูดจบผมก็พูด... พี่ถามผมก็ตอบ... แล้วผมก็คิดว่าผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลยสักนิดอ่ะ พี่จะมายุ่งเรื่องผมทำไมนัก?!!” ผมเอ่ยออกไปอย่างเหลืออด แล้วสะบัดแขนตัวเองให้หลุดจากมือพี่มัน... 


          ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์แอ๊บแซงธ์เมื่อกี้หรือเปล่า ตอนนี้ผมเริ่มจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว หรือเพราะโมโหไอ้พี่บ้านี่ก็ไม่รู้





          “.....” พี่มาร์คมันนิ่งไป จนผมเริ่มรู้สึกได้ว่าเมื่อกี้พูดอะไรออกไปบ้าง


          โอเค... กูผิดก็ได้... เห็นพี่แม่งทำหน้าแบบหงอยๆแล้วบอกเลย กูยิ่งรู้สึกผิด... กูก็ไม่น่าปากไว ผมกัดริมฝีปากตัวเองก่อนจะหันไปทางพี่มันที่ยังคงนั่งนิ่งๆอยู่ที่เดิม


          “ปวดหัวววว ขอนอนหน่อย” ว่าแล้วผมก็งัดเอามารยาสามแสนแปดหมื่นเล่มเกวียนออกมาใช้ โดยการเอาหัวตัวเองไปหนุนตักพี่มาร์คต่างหมอนแล้วยกมือนวดขมับเบาๆ...


          เอาจริงๆ กูหายปวดนานแล้ว ตั้งแต่กูตั้งสติได้เมื่อกี้ แต่ที่ทำนี่คือกูไม่รู้จะพูดอะไรกับแม่งดี เลยเอาลูกอ้อนเข้ามาใช้สักหน่อย...


          “.....” พี่มันเงียบ แต่ผมแอบหรี่ตามองมันก็เห็นแล้วว่าหน้ามันเหลอหลามากที่จู่ๆผมก็มานอนตักมัน ผมเลยได้ทีรุกพี่มันบ้าง(?) โดยการมุดหน้าเข้ากับหน้าท้องพี่มันไปแล้วเอามือโอบไปที่เอวด้านหลังมันเพื่อยึด


          ผมแกล้งครางออกมาเบาๆให้เหมือนกับคนที่กำลังเมา... แต่จริงๆไม่ได้เมานะครัช พี่มันยกมือขึ้นมาลูบหัวผมอย่างแผ่วเบา 


          ผ่านไปสักพักที่พี่มันยังคงเล่นหัวผมอยู่... ไอ้สัส ผมกูเซ็ตมาดีๆ นี่ถ้ากูไม่ได้กำลังง้อมึงอยู่ กูไม่ยอมนอนให้มึงเล่นหัวกูอยู่แบบนี้หรอกนะบอกเลย!


          “ขอโทษที่ยุ่ง...” ผมชะงักไปกับคำพูดของพี่มัน เลยแกล้งทำเป็นหลับไป “พี่แค่เป็นห่วง” ตอนนี้หัวใจผมกำลังเต้นแรงพอๆกับจังหวะเพลงที่ยังคงดัง แปลกนะที่เพลงก็ออกจะเปิดดัง แต่ผมกลับได้ยินเสียงพี่มันชัดเจน... และอีกเสียงที่ดังไม่แพ้กันตอนนี้คือเสียงหัวใจผมกำลังเต้นแรงอยู่ภายใต้เสื้อกล้ามตัวบาง... หวังว่าพี่มันคงจะไม่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนที่หน้าอกผมนะ


          แล้วผมก็ได้ยินเสียงไอ้ยูคดังแว่วๆมาจากโซฟาตรงปลายเท้า แปลว่ามันกลับมาที่โต๊ะแล้วสินะ...


          “อ้าวพี่มาร์ค ไอ่แบมมันเป็นไรอ่ะ?” ชะ.. ชิบหายแล้ว


          “เมามั้ง?”


          “เห้ยยยย เป็นไปไม่ได้! ไอ่แบมไม่มีทางเมา ผมเอาหัวเป็นประกัน!” รู้สึกได้ว่าไอ้ยักษ์มันเดินเข้ามาดูผมใกล้ๆ


          ไอ้สัสยูค! แผนกูเสียหมด


          “เห็นบอกว่าปวดหัว แล้วก็หลับไป” พี่มาร์คเอ่ยก่อนจะเอามือมาปัดผมที่ปรกหน้าผมอยู่ให้ออกไปอย่างแผ่วเบา


          “มันกินไรเข้าไปอ่ะพี่?”


          “น่าจะ ABSINTHE นะ”


          “เชี่ยยยย ที่นี่มีด้วยหรอ?” ไอ้ยูคที่ดูเหมือนจะสบถกับตัวเองเสียมากกว่า... 


          “งั้นผมขอไปลองก่อนนะพี่”


          ไอ้สัสยูค!! นี่มึงไม่ห่วงกูเลยเนอะ


          ผมรีบลุกขึ้นมา แล้วกระชากหัวมันก่อนจะเอามือบี้หน้ามันไปแรงๆ


          “ไอ้แบมมมมม!!” มันโวยวายแล้วแกะมือผมออก “มึงเมาไม่ใช่หรอ?”


          “มึงไม่เห็นสภาพกูไง?! ยังจะกล้าไปแดกอีกนะมึง!”


          “เอ้า! ก็กูอยากลอง... อยากจะรู้ว่ากูจะคอแข็งสู้มึงได้มั้ย?” ผมถลึงตาใส่แม่ง 


          “แต่เดี๋ยวนะ! มึงไม่ได้หลับอยู่หรอกหรอ? ได้ยินกูกับพี่มาร์คคุยกันหมดเลยว่างั้น?” ผมอ้าปากค้างเมื่อคิดได้ว่า...




          กูพลาดแล้วววว... 



          แล้วไอ้ยูคก็ดันทิ้งระเบิดเอาไว้ให้ก่อนที่มันจะรีบชิ่งออกไปทันที


          ผมกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะค่อยๆหันมามองพี่มาร์ค.... เชี่ยยยยย ตอนนี้พี่มาร์คแม่งเข้าสู่โหมดดาร์กเต็มสตรีมมากเลย ฮือออออออ อยากย้อนเวลา...


          “คอแข็งมากสินะ” พี่มันกัดฟันกรามจนขึ้นเป็นสัน ชะ ชะ เชี่ยยยยยยแล้ววววววววว


          “ก็... นิดหน่อยครับ” พอผมพูดจบพี่มันก็ทำท่าจะลุกขึ้นยืน แต่ผมไวกว่าคว้าเอวมันไว้แล้วดึงให้มันนั่งลงตามเดิม แล้วก็ไม่ยอมปล่อยมือออกจากพี่มันด้วย “พี่มาร์คคคคคคคค” ผมเรียกมันด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ “เค้าขอโทษน้าาาาา” ว่าพลางเอาหน้าถูๆไถๆไปกับแขนพี่มัน “อย่าโกรธเค้าเลย” ผมเบะปากออกมาเหมือนจะร้องไห้


          “.....”


          “นะนะ” ผมกระชับแขนที่รัดเอวพี่มันให้แน่นขึ้น 


          “ผมไม่รู้นี่ว่าพี่เป็นห่วงผมอ่ะ” ผมช้อนสายตาขึ้นมองพี่มาร์คที่ตอนนี้มันก้มมองลงมาสบตากับผมพอดี 


          “ขอโทษนะครับ” ผมยิ้มกว้างๆให้พี่มันทีนึง


          “อือ” มันครางตอบในลำคอ


          “เย้! ตกลงพี่หายโกรธผมแล้วนะ...”


          "คนนี้หรอแฟนน้อง?" ระหว่างที่ผมกำลังยิ้มทะเล้นไปให้พี่มาร์คอยู่นั้น ก็มีเสียงดังขึ้นจากหน้าโต๊ะ... เมื่อหันไปมองก็พบกับไอ้คนเมื่อกี้ที่มันม่อผมยืนอยู่ โดยมีคนพยุงอยู่ข้างๆ... แถมมีอีกคนยืนอยู่ข้างหลังไม่ห่างกันราวกับเป็นเงาตามตัว


          เอ่อ... ไอ้คนที่พยุงมึง กับที่ตามประกบหลังมึงอยู่นี่แม่ง... ใส่สูทมาเที่ยวผับหรอครับถามจริง?

          
          "พี่แพ้แล้วนะอย่าลืม" ผมเอ่ยออกไปก่อนจะปล่อยมือจากเอวพี่มาร์ค แล้วนั่งแบบปกติ (คือตอนที่กอดเอวพี่มาร์คอยู่มันกึ่งนั่งกึ่งนอนไง) แต่จู่ๆพี่มาร์คมันก็วาดแขนมาโอบไหล่ผมแล้วดึงเข้าไปหามัน...


          เอิบบบบ กูจะรับศึกจากทางไหนก่อนดี ตอบ!!


          "เรื่องนั้นพี่รู้... แต่ที่มาเนี่ย ก็แค่อยากเห็นหน้าแฟนน้องเท่านั้น" ผมอ้าปากหวอ... 


          ไอ้เชี่ยยยยยย!! 


          นี่ไม่ใช่แฟนกรูววววววว 


          "แต่น้องคอแข็งไม่เบาเลยนะ... ไม่ได้โกงพี่ใช่มั้ย?" อ้าวไอ้สัส ตอนแรกเหมือนชมแต่ทำไมตอนหลังพูดหมาๆแบบนี้วะ!


          "อีกสักแก้วมั้ยพี่?" ผมเอ่ยอย่างท้าทาย ยอมไม่ได้จริงๆ มาลูบคมกันแบบนี้ ไอ้คนตรงหน้ามันหน้าเหวอไปน้อยๆ 


          "แต่ถ้าคราวนี้พี่แพ้อีก เลี้ยงคนทั้งผับนี่เลยโอเคมะ?"


          "เอ่อ..." มันอึกอักพูดไม่ถูก... ดีออกกกกก แค่แก้วเดียวมึงก็ถึงกับยันหัวตัวเองไว้ไม่อยู่แล้ว นี่ถ้าไม่มีคนพยุงกูว่ามึงลงไปนอนราบกับพื้นคุยกับกูแล้วเถอะ


          "พอรึยัง?" เสียงเข้มจากคนข้างๆพูดขึ้นใกล้ๆที่ข้างใบหู... ไอ้สัส ขนลุก...


          "อะ... ผมว่าพี่กลับบ้านไปเค้งเหอะ" ผมเรียกสติตัวเองแล้วหันไปพูดกับไอ้หน้าม่ออีกครั้ง... ไอ้เชี่ยพี่มาร์คแม่ง... เป็นตัวทำลายสติกูชั้นเยี่ยมเลยจริงๆ


          'เค้ง' คือ 'นอน' นะเผื่อใครยังไม่รู้


          พอผมพูดจบ ไอ้คนที่ใส่สูทยืนอยู่ข้างหลังไอ้หน้าม่อก็ทำท่าจะเดินเข้ามาเอาเรื่องผม... อ้าวสัส กูพูดไรผิด? แล้วมึงเป็นใคร ลูกน้องมันหรือไง?


          "ไม่ต้อง" ไอ้หน้าม่อหันไปปรามคนของตัวเอง(?) ก่อนจะหันมาหาผม 


          "พี่ชื่อโจวมีนะ ยินดีที่ได้เลี้ยงเหล้า" มันยื่นมือมาทางผมเหมือนกับรอให้ผมเช็คแฮนด์มันกลับ แต่...


          "มาร์ค ต้วน"  พี่มาร์คมันกลับยื่นมือไปเช็คแฮนด์ไอ้หน้าม่อที่เพิ่งบอกว่าตัวเองชื่อโจวมีนี่แทนที่จะเป็นมือผมทันที 


          "เลิกยุ่งกับแฟนกูด้วย"




          เงิบเลยจย้าาาาาาาา 




          ไอ้ท่าทีแบบนั้นของพี่ต้วนมันคือเหี้ยอัลลลลไลลลลลลล 


          แล้วมึงพูดไรนะเมื่อกี้? มึงหมายถึงกูใช่มั้ย????? ตอบ!!!!!


          หลังจากนั้นพี่มาร์คมันก็ปัดมืออีกคนออกแล้วมองตอบไปด้วยสายตาแข็งกร้าว...


          "แฟนหวงจังนะ..." ไอ้หน้าม่อหัวเราะออกมาก่อนจะเอ่ยลา 


          "หวังว่าเราคงได้เจอกันอีกนะครับ" มันยิ้มให้ผมก่อนจะหันไปยิ้มมุมปากใส่พี่มาร์ค... 


          "กลับ" คำสุดท้ายนี่หันไปสั่งผู้ชายใส่สูททั้งสองคน 


          เอ่อ... ถ้ากูไม่ได้คิดไปเอง นี่มึงมีบอดี้การ์ดใช่มั้ย?


          พวกมันเดินจากไปแล้ว แต่พี่มาร์คมันก็ยังไม่ยอมเอามือออกไปจากไหล่ผมอยู่ดี... คือผมก็พยายามขืนตัวเองออกมานะแต่พี่มันไม่ยอมอ่ะ


          "ปล่อยผมได้แล้วมั้งพี่มาร์ค" ผมหันไปมองหน้าพี่มันในระยะประชิด พี่มันหันมามองด้วยใบหน้าบึ้งตึง 


          "ผมทำไรให้พี่โกรธอีกล่ะ?"


          "รู้ตัวหรอ?"


          "ไม่แน่ใจอ่ะ" ผมบอกกวนๆ


          "...." เงียบ พี่แม่งเงียบใส่อีกแล้ว ดีออกกกกกกกกก


          "โอเคๆ ผมยอมรับผิดก็ได้" แล้วกูผิดอะไรนี่กูยังไม่รู้เลยนะ... 


          "จะโกรธผมอีกรอบหรอ?" ผมกระพริบตาปริบๆใส่พี่มันไปหลายที แต่พี่มันก็หันหน้าหนีไปอีกทาง 


          "ผมขอโทษแล้วไง..."


          เชื่อมึงเลย... ถ้าจะหันหน้าหนีกูแล้วมึงก็ควรสำเหนียกตัวเองเอาไว้ด้วยนะว่าควรปล่อยมือมึงออกจากไหล่กูด้วย ไอ้สัส!


          "เมื่อกี้ว่าอะไรนะ?" จู่ๆพี่มันก็เหล่ตามามองแต่ไม่ได้หันมามองตรงๆ


          "ผมบอกว่าผมก็ขอโทษแล้วไง" เมื่อพี่มันยอมพูดด้วยแล้ว ผมเลยถือโอกาสเอาแขนตัวเองอ้อมไปโอบที่เอวพี่มันหลวมๆ... นี่ไม่ได้อ่อยนะ แต่มันคือการอ้อนอย่างหนึ่งที่ผมงัดเอาออกมาใช้บ่อยๆเวลาต้องง้อใคร 


          "ขอโทษ ขอโทษ"


          "อะไรนะ?" ไอ้สัส... หูตึงใช่มั้ย? 


          "พูดดังๆหน่อย" รู้เลยว่าพี่มันกำลังแกล้งกูอยู่... 


          ได้! ให้กูพูดดังๆใช่มั้ย! กันต์พิมุกต์จัดให้! 


          ไวเท่าความคิดผมดันตัวเองให้สูงขึ้นเพื่อจะไปพูดกรอกหูพี่มันดังๆให้ขี้หูเต้นระบำ




          แต่ที่มันพลาดก็คือ...พี่มาร์คแม่งเอียงหน้ามาหาผมพอดี








          เชี่ยยยยยยยยยย




          หน้าพี่มันอยู่ใกล้มากกกกกกกกกกก


          แต่ก็ไม่ใกล้เท่าปากกูกับแก้มพี่มันหรอก...


          นี่กูหอมแก้มพี่มันหรือนี่!!!!






          อ๊ากกกกกกกกกกกกกก กูจะไม่ทน!






          หลังจากที่ไอ้พี่ยองแจคนที่บอกว่าตัวเองใสๆ เดินกลับมายังโต๊ะ แล้วก็แซวผมกับพี่มาร์คกับท่าทางที่เห็น... คือผมกับพี่มันยังค้างอยู่ท่าเดิม ท่าไหนท่านั้น โอบยังไงโอบอย่างนั้น หอมแก้มยังไงหอมแก้มอย่างนั้น


          คือกูก็ตกใจไง เลยผลักพี่มันออกไปก่อนจะทำหน้าเหลอหลาใส่พี่ยองแจที่มองมาอย่างกรุ้มกริ่ม... คือบอกเลย แค่เห็นหน้ามึงกูก็รู้ล้ะว่ามึงคิดอะไรอยู่... มันเป็นอุบัติเหตุโว้ยยยยยย


          "อ้าวเชี่ยแบม มึงเมาจริงหรอวะ?" ไอ้ยูคที่เดินกลับมาพร้อมพยุงพี่หวังกลับมาที่โต๊ะพอดี ทำให้ผมรีบหาทางเปลี่ยนเรื่องทันที


          "กูเนี่ยนะเมา?" ผมชี้เข้าหาตัวเอง... คนที่มึงต้องบอกว่าเมาน่ะ คือไอ้พี่หวังขาสั้นที่มึงพามาด้วยหรอก


          "ใช่! หน้ามึงแดงขนาดนี้ ไม่ได้เมาหรอกหรอ?" ไอ้เชี่ยยยยยยยยยยย กูว่าตรงที่กูนั่งอยู่เนี่ยมันก็ไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่หรอกนะ แต่ทำไมมึงมาจุดประเด็นไอ้เรื่องแบบนี้วะ!!! ตาดีเหลื้อออเกิ๊นนนนพ่อคุณ!! พ่องงงงงง


          กูก็พอรู้ตัวกูเองอยู่หรอกนะว่ากูต้องหน้าแดง หูแดงแน่ๆ คือแบบจะให้กูทำอะไรได้ นอกจากเขินป้ะวะ เกิดมายังไม่เคยหอมแก้มผู้ชายคนไหนเลยนอกจากพ่อ แต่นั่นมันนานมาแล้ว นานมากกกกกกก แล้วมึงคิดว่าการที่กูได้หอมแก้มไอ้รุ่นพี่หน้าหล่อที่นั่งข้างๆเนี่ย กูจะทนเฉย นิ่งเป็นพระอิฐพระปูนได้จริงๆหรอวะ!!!


          "หึหึ" ยิ่งได้ยินเสียงพี่ยองแจมันหัวเราะแล้วกูยิ่งหน้าชา... 


          กูเชื่อแล้วร้อยเปอร์เซ็นต์ ยองแจไม่เคยใส


          "กะ.. กูว่ากลับกันเหอะ กูง่วงแล้ว" ผมเอ่ยตัดบทก่อนจะลุกขึ้นยืน 


          "กูรอที่รถนะไอ้ยูค" แล้วผมก็จ้ำอ้าวออกมาจากตรงนั้นทันที


          ผมเดินออกมารอไอ้ยักษ์ที่รถ โอ้ยยยย เชี่ยยยยย กูยังสงบสติอารมณ์ตัวกูเองไม่ได้เลยยยยย ทำไมต้องเขินหนักขนาดนี้วะกู ฮือออออ ปกติเห็นผมเกรียนๆ แซวคนโน้น เล่นคนนี้ ปากดีปากเก่ง แต่จริงๆผมไม่เคยถึงเนื้อถึงตัวกับใครขนาดนี้นะ... อย่างมากแค่จับมือถือแขนผมก็สะบัดออกแล้ว แต่นี่คือเยอะตั้งแต่เจอกัน... 


          โอ้ยยยยยยยยยยย กูเขินนน เขินจริงๆนะบอกเลย


          "ไอ่แบม มึงไหวป้ะเนี่ย?" เสียงไอ้ยูคดังขึ้นข้างหลัง ผมชะงักเท้าตัวเองที่กำลังกระหน่ำเตะไปที่ล้อรถมันอยู่ "รถกูพังมั้ยสัส!"


          ผมหันมาหามันแล้วเบะปากใส่ ไอ้ยูคมันเดินเอามือมาวางบนหัวผมก่อนจะก้มลองมามองหน้าผมในระดับเดียวกัน


          "เลิกเขินแล้วขึ้นรถ... ก่อนที่กูจะหลับแล้วขับรถไปชนใครตาย" อ้าวไอ้สัส... ผมหัวเราะเบาๆให้มัน 


          จริงๆมันกำลังปลอบ มันกำลังให้กำลังใจผมอยู่นะ... คือมันรู้ไงว่าตอนนี้ผมไม่ปกติ เอ่อ... ไม่ได้หมายความว่ากูบ้านะ.. แค่กูไม่เป็นตัวของตัวเอง.... ไอ่ยูคมันเข้าใจผม... แม้ผมจะไม่ได้เล่าอะไรให้มันฟัง... คบกันมานานไม่รู้นี่สิแปลก


          "กูขับเอง กูยังไม่อยากตาย" ผมแบมือขอกุญแจรถกับมันแต่มันก็ไม่ยอมให้ 


          "แล้วกูก็ไม่อยากให้มึงตายด้วย ฉะนั้นคืนนี้มึงนอนหอกู จบปิ้ง!"


          "นอนหอมึงหรอ? เป็นความคิดที่ดี!" มันล้วงเอากุญแจให้ผมก่อนจะบอกให้ไปสตาร์ทรถรอ 


          "เดี๋ยวกูโทรบอกพวกพี่แม่งก่อน"


          โทรบอกนี่คือ... บอกว่าจะกลับกันแล้วใช่ป้ะ?









          เปล่าเลย... กูคิดผิด




          ไอ้เชี่ยยยยยยยยยย


          แม่งโทรบอกให้พวกพี่มันมาต่อกันที่ห้องผมอ่ะ ไอ้สัสยูคคคคคคคคค!!!!


          แล้วกูก็ต้องหนีเข้าห้องมาอาบน้ำนอนคนเดียวสินะ ปล่อยให้พวกพี่แม่งนั่งแดกเหล้ากันต่อไปอยู่ตรงโซนที่ไว้ใช้รับแขก คือหอกูก็ไม่ได้แคบไง มีห้องนอนและห้องน้ำในตัว และก็มีห้องน้ำข้างนอกอีกห้องที่ไม่ค่อยได้ใช้ มีห้องครัวเล็กๆ และที่เหลือเป็นห้องรับแขกว่างๆที่มีแค่โซฟากับทีวี คือยอมรับอ่ะนะว่ามันค่อนข้างกว้างสำหรับการอยู่คนเดียว... แต่กูไม่ชอบใช้ของรวมกับใครดังนั้นกูก็เลยไม่มีรูมเมท...


          โอเค... กูยอมสละโซนรับแขกนั้นให้พวกมึงไปเลย แต่กูจะไม่ทนเขินต่อหน้าไอ้พี่ต้วนนั่นเด็ดขาด ฮือออออออ




          ราตรีสวัสดิ์




.
.
.



#ฟิคกระเรียน




4 ความคิดเห็น:

  1. โอ้วววววววววว
    คอทองแดง
    อ้อนขนาดนี้อีพี่มาร์คจะไปไหนรอดดดดดด

    ตอบลบ
  2. 555555555555555555555 เขินใหญ่มากแบม คือกอดเอวนี่ไม่เขิน? นั่นไม่เรียกอ้อนนะ นั่นอ่อยว้อยย #สิงร่างมาร์คแปบ

    ตอบลบ
  3. โอ้ยเขินโว้ย!
    พี่มาร์คบทพูดพี่จะน้อยกว่าตัวประกอบแล้วนะ5555

    ตอบลบ
  4. ฮืออออ เขินนนนนนนนนนน

    ตอบลบ