วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2558

ฟิคกระเรียน: ตอนที่ 9

ฟิคกระเรียน = เกรียนฟิค

#ฟิคกระเรียน



-9-
Nichkhun



          แล้วตั้งแต่วันที่ไอ้ยูคบอกว่าพี่มาร์คพิมพ์ไลน์มาหาผม... คือพี่มันพิมพ์ตั้งแต่ตอนถามผมว่ากินข้าวรึยังนั่นแหละ ...ก็ถึงว่า... เชี่ยยูคแม่งจะถามซ้ำทำไม... ที่แท้ พี่มาร์คแม่งถามนี่เอง


          ตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่เจอพวกพี่มันอีกเลย ข้างนอกมหา’ลัยก็ไม่เจอพวกแม่งนะ... จนกระทั่งวันนี้วันพฤหัสและ... ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา... แล้วก็คงไม่ต้องบอกนะว่าผมถามไอ้ยักษ์มันมั้ยว่าพวกนั้นหายไปไหนกัน... บอกเลย ถึงไอ้ยูคมันพยายามจะเล่า ผมก็พยายามจะเลี่ยง โดยการเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทุกทีไป... เอาดีๆนะ คือกูไม่สนหรอก กูกับพวกพี่แม่งก็เพิ่งจะรู้จักกันเอง จะให้มารู้เรื่องราวในชีวิตประจำวันของมันทุกอย่าง อันนี้ก็มากไป…


          แล้วตอนนี้นะ... กูก็เลิกสงสัยในสิ่งที่พี่มาร์คแม่งทำและด้วย... แม่งคงจะม่อกูเหมือนไอ้เชี่ยพี่หวังไง... แล้วคือบวกกับว่าวันนั้นมันเมาไง กูเข้าใจล้ะ... หมาหยอกไก่จริงๆ... หยอกกูมากกูจิกแหลกนะมึง... เอาเถอะ! ขอพักเรื่องนั้นไว้ก่อนเพราะตอนนี้มีเรื่องสำคัญกว่านั้น... อะไรคือการที่พี่นัดน้องปี1มาประชุมหลังเลิกเรียนในวันพรุ่งนี้วะ... 


          เหี้ย! กูจะไม่อะไรเลยถ้ามันไม่ใช่วันศุกร์... วันที่กูรอคอยมาทั้งอาทิตย์!


          เชี่ยมากบอกเลย! กูนัดพี่คุณ... กูนัดแม่ไว้... นัดคนสำคัญทั้งนั้น...


          แล้วที่สำคัญที่สุดนะ คือ....


          กับข้าววววววว


          กูรอเพื่อฝีมือพี่คุณเลยนะเว้ย! ไม่รู้แหละยังไงกูก็จะกลับบ้าน หัวเด็ดตีนขาดยังไงกูก็จะกลับ!


          “กูไม่อยู่ประชุมนะมึง พี่แม่งเล่นเหี้ยอะไรกันวะ? นัดกะทันหันแบบนี้ ส้นตีนมาก นัดวันนี้ให้มาพรุ่งนี้ พ่องงง” ผมเอ่ยอย่างหัวเสีย...


          ก็มันจริงนี่... ทีหลังมึงช่วยกำหนดเป็นตารางเวลาให้กูเลยนะว่ามีกิจกรรมอะไร วันไหน ยังไง กี่โมงไรงี้ แล้วแบบ...ขอล่วงหน้าสามเดือนด้วย... เชี่ย! ถ้าคนเค้าติดธุระมาไม่ได้จะทำยังไง


          แล้วบอกเลย... ธุระกูสำคัญมาก! เรื่องกินนี่เรื่องคอขาดบาดตายนะเว้ย!


          “แต่พี่มันบอกให้มาให้ครบ” ไอ้ยูคบอกพลางยกแก้วกาแฟเย็นในมือขึ้นมาดูด ซึ่งผมก็ยกส้อมขึ้นจิ้มไส้กรอกในจานตัวเองกิน... นี่มันพักเที่ยง เหมือนจะลืมบอกไป


          “กูไม่ไปอ่ะ มีนัด”


          “นัดกับใคร อะไร ยังไง ทำไมกูไม่รู้?” ผมเลิกคิ้วมองไอ้ยักษ์แล้วเอาส้อมชี้ไปทางมันแทน


          “นี่ก็เสือกไป... กูจำเป็นต้องรายงานมึงป้ะ?”


          “งั้นกูจะบอกพวกพี่ว่ามึงโดด ไม่ยอมเข้าประชุมเพราะนัดผู้ชายไว้” ผมหันไปแยกเขี้ยวใส่มันทันที


          “พ่องงงง กูนัดกับแม่กู” ไอ้ยูคหัวเราะแล้วยักไหล่ให้


          “กลับบ้านหรออาทิตย์นี้?” ผมพยักหน้าหงึกๆ ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับแม่งล้ะ... ไม่กลับมั้งสัส! กูก็บอกอยู่ว่านัดกับแม่.... ฟรวยยย


          “มึงอยู่ประชุมก็มาเล่าให้กูฟังด้วย” เชี่ยยูคแลบลิ้นใส่ผม เชี่ย... มึงกวนตีนกูไม่หยุดสินะ ผมแลบลิ้นใส่มันคืน... กูไม่สนหรอก ถ้ามึงไม่เล่า กูจะเอาชะแลงมางัดปากมึงเอง ไอ้เพื่อนรัก!



.
.
.



          และแล้ว... เยสสสส ในที่สุด!!! ตอนนี้ผมก็มายืนอยู่หน้าบ้านอันเป็นที่รักยิ่ง เรียบร้อยแล้ว... เข้าบ้านไปถึง คำแรกที่ถามแม่คือ... จะไปร้านพี่คุณยัง? คือหิวววววแล้วววววว แล้วแม่ก็ต้องแพ้ลูกอ้อนผมแต่โดยดี


          พอมาถึงร้านพี่คุณ ผมก็ยังไม่ได้กินข้าว ฮือออออ ต้องไปเป็นบ๋อยในร้านอีก... ยิ่งช่วงเย็นๆแบบนี้นะลูกค้ายิ่งเยอะ จนใกล้ๆปิดร้านนั่นแหละถึงได้พัก... 


          โอ้ย มันเหนื่อยก็จริงนะ แต่พี่คุณเหนื่อยกว่าเยอะเลย ปิดร้านแล้วยังต้องมาทำกับข้าวให้ผมอีก... พี่คุณก็ขอโทษผมที่ทำกับข้าวให้ได้ไม่ครบทุกอย่าง เพราะวันนี้ลูกค้าเยอะกว่าทุกวัน... แล้ววัตถุดิบก็เหลือไม่มากแล้วด้วย เลยทำอะไรได้ก็ทำ... แต่ไม่เป็นไร ยังไงซะฝีมือพี่คุณก็ชนะเลิศอยู่แล้ว แม้แต่ไข่เจียวยังอร่อย บอกเลย...


          พอพี่คุณยกอาหารมาเสริฟเท่านั้นล่ะ หืมมมมม น้ำย่อยในกระเพาะก็เริ่มทำงานทันที ผมจัดการสวาปามกับข้าวของพี่คุณโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น... เห้ย มันฟินอ่ะ!


          RRRrrrrrr


          ไอ้ยูคโทรมาล่ะ... ผมกดรับ


          “ว่าไง” ผมเก็บคำว่า ‘มึง’ ที่มักจะต่อท้ายประโยคทักทายเพื่อนรักเอาไว้พร้อมกับกลืนมันลงไปกับข้าวคำเมื่อกี้... 


          คือพี่คุณอยู่ไง พูดไม่เพราะไม่ได้... แล้วนี่มันก็กลางโต๊ะอาหารเลย... พี่คุณไม่ค่อยชอบให้ผมรับโทรศัพท์สักเท่าไหร่เวลากินข้าว...


          สาเหตุน่ะเหรอ? ก็ตัวกูเองนี่แหละ คือวันนั้นรับโทรศัพท์ไอ้เชี่ยยูคนี่แหละ... ตอนกะลังกินข้าวอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา แล้วทีนี้มันเล่าเรื่องฮาๆให้ฟัง ผมก็เลยสำลักข้าว เกือบตายเพราะข้าวลงหลอดลมเลยเป็นไง... พี่คุณเลยออกกฎให้ผมโดยเฉพาะ... ซึ่งกฎข้อนี้มีผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการก็คือ... แม่กูเอง... จ้ะ เอาที่สบายใจนะทั้งสองคน


          (เลิกประชุมแล้วนะ)


          “แล้วไง?” ผมลอบมองพี่คุณอย่างเกรงใจ... ซึ่งพี่คุณก็หยุดตักข้าวเข้าปากแล้วมองมาที่ผมเช่นกัน... โอ้ย! เชี่ยยูค มึงโทรมาเพื่อแค่นี้เหรอวะ? ถ้าแค่นี้ก็วางไปเลย... ที่จริงมึงแค่ไลน์มาบอกกูก็ได้ป้ะ! ตอนนี้คันปากอยากด่ามันมาก


          (แดกข้าวอยู่ล่ะสิ ถึงไม่ด่ากูเลยเนี่ย ฮ่าๆๆ) อิเพื่อนเลว มึงโทรมาหยั่งเชิงกูใช่มั้ย? มึงแกล้งกูนี่อีหอยหลอด!!...  เชี่ยยูคมันรู้ดีครับว่าผมไม่ค่อยกล้าแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว(?)ให้พี่คุณเห็น 


          (กูล่ะอยากให้พี่คุณมาเห็นมึงตอนมึงอยู่ม.จริงๆ) ไอ้เชี่ยยูค!!!


          “แค่นี้ก่อนนะยูคยอม เรากินข้าวอยู่ บาย” ผมกัดฟันพูดกับมันไปจนจบประโยคแล้วตัดสายมันทิ้งทันที โอ้ยยยย อยากกัดลิ้นตัวเองตาย... แต่เหนือสิ่งอื่นใดอยากเอาเข็มกับด้ายไปเย็บปากเชี่ยยักษ์มัน!


          “ยูคยอมเหรอ? ทำไมไม่ชวนมาค้างด้วยกันล่ะ” ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบให้พี่คุณ... อย่าเลย... แค่นี้ผมก็จะหลุดด่ามันไปหลายรอบ ขืนให้อยู่ด้วยกัน มันก็ยิ่งแกล้งผมอ่ะดิ ทีนี้ด่าก็ไม่ได้ อะไรก็ไม่ได้... ผมต้องเป็นโรคเก็บกดแน่ๆ 


          “ค่อยๆกินสิ” พี่คุณเห็นว่าผมตักข้าวเข้าปากคำใหญ่ๆ ...คือหิวมาก


          “พรุ่งนี้แบมอยากกินอะไร พี่จะทำให้ แต่ต้องไปช่วยถือของนะ” ผมตาวาวขึ้นมาทันที... ไอ้เมนูที่อยากกินมันก็ลอยเข้ามาในหัว


          “ไม่ปฎิเสธ” ผมหัวเราะอย่างชั่วร้ายกับตัวเอง หึๆ เสร็จกันต์พิมุกต์ล่ะทีนี้...




.
.
.





          เช้าวันรุ่งขึ้น พี่คุณก็ขับรถพาผมมาซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตบนห้างใกล้ๆบ้านผมนี่แหละ ตอนนี้มันก็สิบเอ็ดโมงกว่าแล้ว จริงๆพี่คุณนัดผมตอนสิบโมงด้วยซ้ำ... แต่ผมตื่นสายเอง เฮ้อ... เมื่อวานตอนกลับจากร้านพี่คุณ มานอนที่บ้านไม่น่าโทร.ไปด่าไอ้เชี่ยยูคมันเลย เป็นไงล่ะ... ด่าเพลิน ด่ายาวมากไปหน่อย เลยนอนดึกเลย... แม่ก็ไม่ยอมปลุก แถมหนีไปรับพ่อที่สนามบินอีก


          แล้วผมก็รู้แล้วว่าจริงๆพี่คุณก็ร้ายเหมือนกัน... ที่บอกว่าจะทำกับข้าวให้ผมกินน่ะ มันแค่ส่วนนึง เพราะจริงๆจะทำเป็นมื้อเย็นเลี้ยงต้อนรับการกลับบ้านของพ่อผม แต่ก็ไม่ยอมบอกผมนะว่าพ่อจะกลับวันนี้ เชอะ แต่ก็ช่างเหอะ ยังไงผมก็จะให้พี่คุณทำเมนูที่ผมอยากกินอยู่ดี ฮ่าๆๆๆ


          “พี่คุณผมหิวแล้วอ่ะ” ขณะที่เดินซื้อผักซื้อหมูอยู่นั้น น้ำย่อยผมก็ทำงาน โอ้ย ข้าวเช้ายังไม่ได้กิน แถมยังต้องมาพบเจออาหารละลานตาที่นี่อีก  ความหิวมันกำเริบได้ไม่ยากเลยอ่ะ TT


          “เดี๋ยวพี่ขอซื้อแซลมอนอีกอย่างนะ แล้วเดี๋ยวพาไปกินข้าวเลย” ผมพยักหน้าหงึกๆ ตอนนี้คงต้องหากินแถวนี้ไปก่อนแหละ เพราะรอให้ถึงบ้านแล้วให้พี่คุณทำให้กินไม่ไหวหรอก... เดี๋ยวผมจะเป็นโรคกระเพาะ อีกอย่างพ่อกับแม่ก็คงจะไปหาอะไรกินกันสองคน รักลูกมาก...


          ตอนนี้ผมกับพี่คุณเดินซื้อของกันในซุปเปอร์เสร็จแล้ว พี่คุณก็เข็นรถเข็นไปก็ถามผมไปว่าอยากกินอะไร... ผมก็บอกอยากกินโน้นกินนี่...เลือกไม่ได้... คือผ่านร้านไหนก็อยากกินมันทุกร้านเลย ไม่ค่อยโลภ... พี่คุณเลยหันมาใช้มือยืดแก้มผม


          “กินเยอะจนแก้มออกขนาดนี้แล้ว” ผมยู่หน้าใส่พี่คุณ


          “เด็กกำลังโตก็งี้แหละพี่คุณ” ผมยิ้มจนตาหยี แต่ก็ต้องหุบยิ้มลงไปทันทีเมื่อสายตาดันไปเห็นใครบางคนยืนมองผมอยู่... เชี่ย หัวแดงๆงี้อย่าบอกนะ


          พี่มาร์คนี่มึง!


          เชี่ยเอ้ย...โลกมันก็กลมไปนะบางที... แต่กูว่าจริงๆแล้วโลกมันแคบต่างหากล่ะ...


          ที่อื่นก็มี ทำไมไม่ไป...


          แล้วคนอื่นก็มี ทำไมกูไม่เจอ...


          “เพื่อนหรอ?” พี่คุณเอ่ยถามเมื่อมองตามไปยังสายตาของผม... ก่อนจะยิ้มให้พี่มาร์ค พี่คุณแม่งก็เป็นคนดีไป๊... 


          ไอ้การที่พี่คุณยิ้มให้พี่มาร์คก็แปลว่ากูต้องทักมันสินะ ตอนแรกกูกะว่าจะทำเป็นมองไม่เห็น เรื่องแถนี่กูถนัดนักแหละ... แต่พี่คุณนะพี่คุณ...ฮึ่ย! ผมเลยต้องหันไปโค้งให้พี่มาร์คเล็กน้อยแล้วหันมาหาพี่คุณ


          “นั่นรุ่นพี่ที่คณะอ่ะ”


          “อ้าว... เค้าเป็นรุ่นพี่แล้วทำไมไม่ทักทายล่ะ” อ้าวเฮ้ย! แล้วเมื่อกี้ที่กูก้มหัวลงไปนี่ไม่ได้เรียกทักทายหรอกหรอ?... พี่คุณแม่งเป็นคนยังไงกันแน่วะ? 


          แล้วจู่ๆพี่คุณแกก็เดินตรงเข้าไปหาพี่มาร์คแบบไม่บอกไม่กล่าว จนผมหน้าเหวอ แต่ก็เดินตามพี่มันไปอย่างงๆ


          “เห็นแบมบอกว่าเป็นรุ่นพี่ที่คณะใช่มั้ยครับ?” พี่คุณเอ่ยอย่างสุภาพกับพี่มาร์ค เอิ่มมม คือพี่คุณต้องการอะไรจากสังคมวะ บอกกูที...  พี่มาร์คมันก็คงงงเหมือนกันแหละ แต่มันก็พยักหน้าตอบกลับมา


          “ชื่ออะไรเหรอครับ?”


          “ผม?... ชื่อมาร์คครับ”


          “ผมนิชคุณนะครับ...ทานข้าวด้วยกันมั้ยครับ? เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง” พี่มาร์คขมวดคิ้วใส่พี่คุณทันที 


          โอ้ยยย พี่คุณ!!! จะไปชวนพี่แม่งทำไมมมมมม??????


          “ไม่เป็นไรครับ ผมไม่รบกวน”


          “ไม่รบกวนเลย ผมก็มีเรื่องจะถามอยู่พอดี” พี่คุณดึงผมไปยืนข้างๆก่อนจะเอามือมาวางบนหัว 


          “เรื่องไอ้เด็กดื้อเนี่ย” ผมหันไปยู่หน้าใส่พี่คุณทันที... โอ้ยยย ผมไม่ได้ดื้อสักหน่อย... ว่าแล้วก็เบะปาก อมลมใส่พี่คุณไป


          “พี่คุณอ้ะ... ผมไม่ได้ดื้อสักหน่อย...” ผมบอกพี่คุณแล้วหันไปหาพี่มาร์ค 


          “กินข้าวเหอะพี่มาร์ค ผมจะได้เลี้ยงข้าวพี่คืนบ้าง” 


          เออ...พี่แม่งซื้อข้าวมาให้ตั้งสองรอบแล้ว ต้องตอบแทนมันหน่อย... แต่คือต้องบอกว่าให้พี่คุณเลี้ยงข้าวพี่มาร์คแทนผมถึงจะถูก เพราะยังไงมื้อนี้พี่คุณก็ต้องจ่ายอยู่แล้ว ฮ่าๆๆ


          พี่มาร์คมองผมกับพี่คุณสลับกันไปมา ก่อนจะพยักหน้า ก็แค่เนี้ย... กูหิวจะตายอยู่แล้วเนี่ย...




          พวกเราสามคนเดินเข้ามาในร้านอาหารแห่งหนึ่ง หลังจากสั่งอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอาหารก็ถูกทยอยนำมาเสริฟ


          “อยู่ที่มหา’ลัย ไอ่แสบนี่ไปก่อเรื่องอะไรไว้บ้างรึเปล่าครับ?” อยู่ๆพี่คุณเปิดประเด็นขึ้นมา...


          เอาล่ะสิ งานสอบสวนต้องมา ฮือออออ พี่คุณไม่เคยเชื่อที่ผมเคยเล่าให้ฟังเลยใช่มั้ยอ่ะ? ถามอะไรแบบนี้... คือจริงๆผมไม่ค่อยเล่าด้านมืดๆ ด้านเลวๆ ของผมให้คนดีๆอย่างพี่คุณฟังหรอกครับ... ขืนเล่าให้ฟังมีหวัง ผมโดนสั่งเก็บเป็นแน่... ผมกลัวพี่คุณมากกว่าแม่อีก บอกเลย! ที่กลัวไม่ใช่เพราะพี่คุณดุ หรือเพราะกลัวพี่คุณจะทำโทษอะไรหรอกนะ... แต่กลัวเพราะความเป็นคนดีของพี่คุณนี่แหละ... พี่คุณเป็นคนดีเกินไป... ดีจนผมรู้สึกผิดเลยที่ตัวเองไม่ได้ดีแบบที่พี่คุณคิดไว้... ผมถึงไม่อยากเอาสีไปป้ายใส่ผ้าขาวอย่างพี่คุณไง... เพราะถ้ามันเลอะแล้ว ถึงซักยังไงก็ไม่ออก... ให้พี่คุณเห็นว่าผมเป็นเด็กดีต่อไปนั่นแหละคือดีที่สุดแล้ว


          “ก็มีหลายเรื่องนะ” ผมหันไปมองพี่มาร์คตาโต... 


          เฮ้ยเชี่ย มึงจะพูดอะไร!! 


          มึงกะกูเพิ่งรู้จักกันเอง ไอ้เรื่องที่มึงน่าจะรู้วีรกรรมกูก็มีแค่ที่ผับนะ... สาสส กูให้พี่คุณรู้ไม่ได้เด็ดขาดว่ากูไปแดกเหล้ามา... ไม่นะ!!!!! 


          ระหว่างนั้นอาหารก็ยกมาเสริฟพอดี ผมเลยเบี่ยงประเด็นด้วยการตกอาหารเข้าปากแล้วบอกว่าอร่อย... พี่คุณหันมามองผมแล้วถาม


          “อร่อยเหรอ? อร่อยกว่าฝีมือพี่อีกเหรอ?” ผมส่ายหน้ารัวๆ


          “ฝีมือพี่คุณอร่อยกว่า” พร้อมยกนิ้วโป้งส่งไปให้พี่แกสองนิ้วเลย พี่คุณยิ้มขำแล้วเอามือมาขยี้หัวผมเบาๆ


          “ยังไงก็ฝากไอ้ตัวเล็กผมด้วยนะ...” พี่คุณหันไปหาพี่มาร์ค 


          “มีอะไรแนะนำ ตักเตือนก็ตามสบายเลย” อ้าวพี่คุณ ไหงพูดงี้อ่ะ... แต่ไม่เป็นไร พี่คุณลืมเรื่องที่ถามวีรกรรมผมไปแล้ว... ฮ่าาาาๆๆๆๆ


          “จะดีหรอครับ...” พี่มาร์คมันตอบเสียงเรียบ


          “ดีสิครับ แบมจะได้ไม่ออกนอกลู่นอกทาง” พี่คุณวางมือลงบนหัวผมในขณะที่ผมกำลังตักอาหารเข้าปาก...


          โหยย พี่คุณไม่ต้องห่วงผมเลย ผมไม่เคยนอกลู่นอกทาง... อยู่ในลู่ในทางมาโดยตลอด แต่ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจนะว่าลู่ทางของกูมันประหนึ่งทางเดินสู่ขุมนรก แล้วกูก็โคตรภูมิใจเลยนะ เพราะกูคงเส้นคงวากับทางเดินลู่นี้มาก ไม่เคยคิดออกไปลู่อื่นเลย


          “ผมหมายถึง... จะดีหรอครับ ฝากแฟนไว้กับคนอื่นแบบนี้” พี่มาร์คพูดหน้าตึง...


          ห้ะ? เดี๋ยวนะ... กูขอออกจากลู่เมื่อกี้ วิ่งเข้าลู่พี่มาร์คแม่งแปปนะ... 


          แฟนเหรอ? มึงหมายถึงกูกับพี่คุณใช่อ้ะ?


          ผมหัวเราะแหะๆใส่พี่คุณที่ตอนนี้ขำจนหน้าแดงหูแดงไปหมด เอ่อ... คือตลกมากเลยไง๊ มีแฟนอย่างแบมแบมเนี่ย!


          “พี่คุณ!!” ผมหันไปตีแขนพี่คุณทันที.... เฮ้ยย หัวเราะซะกูอยากจะกลับบ้านไปฟ้องแม่เลย พี่คุณใจร้ายอ่ะ ฮืออออออออ 


          “ถ้ายังไม่หยุดหัวเราะผมงอนจริงๆด้วย”


          “อ่ะๆ โอเคๆ” พี่คุณยกมือขึ้นกุมท้องตัวเองไว้ อะไรจะขำขนาดนั้น... นี่กันต์พิมุกต์นะไม่ใช่ตุ๊กกี้


          “ผมไม่ใช่แฟนแบมแบมหรอกครับ เป็นแค่พี่ชาย”


          “พี่ชาย?” พี่มาร์คเลิกคิ้วขึ้น... เหมือนไม่ค่อยเชื่อ... ไอ้สัส หน้ากูออกจะเหมือนกันขนาดนี้ ถึงจะไม่ใช่พี่น้องคลานตามกันมา... แต่สายเลือดนี้มันมีแต่คนหน้าตาดีเว้ย! ตระกูลอะไร...หล่อเอรี้ยๆ


          “ลูกพี่ลูกน้องน่ะครับ แต่ผมก็รักแบมเหมือนน้องแท้ๆเลย” พี่มาร์คพยักหน้าแล้วยิ้มบางๆให้พี่คุณ... 


          เดี๋ยวนะ... ยิ้มเหรอ?... แจกยิ้มเกลื่อนเลยนะมึง! ทีกะกูนะ... แม่ง!! ผมเมินมันก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่ม แต่น้ำก็แทบพุ่งเพราะไอ้ประโยคต่อไปของมันนี่แหละ...


          “ผมขอจีบน้องคุณนะ”


          “แอ่กก แอ่ก” ผมสำลักน้ำจนหน้าเขียว แต่พี่คุณกลับหัวเราะ


          “ยกให้เลยครับ” 


          เชี่ยยย มึงรักน้องมากเลย... ที่บอกรักกูเหมือนน้องแท้ๆนี่ โกหกใช่มั้ย? ตอบ!!!


          “พี่คุณยกผมให้คนอื่นซี้ซั้วแบบนี้ไม่ได้นะ... ยิ่งคนที่มีเจ้าของแล้วด้วย ผมไม่อยากปีนต้นงิ้ว” ผมหันไปมองค้อนอีพี่มาร์ค กูว่ากูจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วนะ แต่ก็มิวายต้องขุดมาพูด สลิดมาก...


          “หืมมม มีแฟนแล้วหรอกหรอครับ? แล้วมาจีบน้องผมทำไม อยากมีเรื่องหรอครับ?” พี่คุณถลกแขนเสื้อตั้งท่าจะเอาเรื่องจริงๆ 


          เฮ้ยนี่ก็ฮาไป... เมื่อกี้ยังจะยกกูใส่พาน ประเคนให้พี่มาร์คมันอยู่เลย แล้วนี่อะไรครับพี่คุณ ตอบ!!!


          “ผมยังไม่มีแฟนนะ” พี่มาร์คหน้าเหวอ


          “เรื่องแบบนี้ไม่เห็นต้องโกหกเลย... ถ้าแฟนพี่รู้เข้าคงเสียใจแย่” ผมเบะปากใส่พี่มันก่อนจะลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ... คนเ หี้ ยอะไร หน้าตาก็ดี ทำไมนิสัยอัปรีย์ได้ขนาดนี้... สงสารแฟนมึงจริงๆ


          “แบมแบม...” พี่มาร์คมันจะลุกตามผมมา แต่พี่คุณสกัดพี่มันไว้ก่อน


          ดี... โดนพี่คุณเทศน์ซะบ้าง ความดีจะได้ซึมซับเข้าตัว... เดี๋ยวนะ... กูก็โดนบ่อย ทำไมความดีพี่คุณไม่เห็นซึมซับเข้าตัวกูบ้างเลยล่ะ... นี่กูต้อง Absorb ความดีพี่คุณผ่านอะไรวะเนี่ย? ใครรู้บอกกูด้วย


          แต่อย่างน้อยวันนี้พี่มาร์คแม่งต้องโดนฤทธิ์พี่คุณซะบ้างล่ะ...


          สมน้ำหน้า




.
.
.





          ผมเดินออกจากห้องน้ำพร้อมๆกับที่โทรศัพท์สั่นเตือน เบอร์ใครวะไม่คุ้นเลย?


          “ฮัลโหล” ผมกรอกเสียงลงไปด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ


          “แบมแบมใช่มั้ย?” เสียงผู้หญิงอ่ะ... ใครวะ?


          “ครับ... นั่นใครหรอ?”


          ว้าย! ผู้ชายนิ่...” แล้วเธอก็ตัดสายผมไปเลย... 


          เฮ้ย ว๊อทเดอะฟัค! อะไรของมึงวะ อีชะนีนี่... อุ๊ปส์... ขออภัย ต้องเรียกว่าผู้หญิงสิ... เธอเป็นใครผมไม่สนแล้วตอนนี้... ที่สนคือ.... 


          กูเป็นผู้ชายแล้วมันยังไงเหรอ? หืมมม... น้ำเสียงเหมือนรังเกียจกูมาก...




          กูเป็นผู้ชายนะเว้ย! ไม่ได้เป็นอีโบล่า!




          มึงเป็นเบี้ยนใช่ป้ะ ถึงได้อี๋ผู้ชายแบบนี้อ่ะ... โด่ววว เป็นเบี้ยนก็บอกว่าเป็นเบี้ยนดิ


          เดี๋ยวๆ ประโยคนี้มัน... ไม่รู้ไม่ชี้ เอาที่กูสบายใจ



.
.
.



#ฟิคกระเรียน




3 ความคิดเห็น:

  1. ยังไม่รู้ตัว
    ฮ่าๆๆๆ

    ตอบลบ
  2. ว่าละ 55555 พี่มาร์คมันต้องมองว่าพี่คุณเป็นแฟนแบมแน่ๆ แต่พี่คุณน่าจะแกล้งนางหน่อยอ่ะ 5555 อยากให้นางเสียใจ ㅋㅋㅋ

    ตอบลบ
  3. ไม่ได้รู้เรื่องเลยมาร์คต้วน55555

    ตอบลบ