วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ฟิคกระเรียน: ตอนที่ 29 ตอนจบ

ฟิคกระเรียน = เกรียนฟิค

#ฟิคกระเรียน


-29-
The End




พอเช้าวันรุ่งขึ้นพี่มาร์คมันก็ขับรถมาส่งผมที่ม. แล้วตัวมันเองก็ขับรถกลับหอตัวเองเพื่อไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยมาเรียน... ใครจำไม่ได้ควรจำนะเมื่อคืนมันนอนหอกูแต่แค่นอนเฉยๆนะไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้นจบปิ๊ง!


เมื่อวานไปถึงไหนกันมา วันนี้ถึงมาส่งกันได้?” ไอ้เชี่ยยักษ์มันถามด้วยสีหน้ายียวนกวนส้นตีน


ถึงห้องกูนี่แหละ... แล้วเมื่อวานไปแดกไรกันมา?” ผมถามมันกลับบ้าง แต่มันก็ยักไหล่มาให้


มึงโดนตบหรอไอ้แบม?” เชี่ยยูคมันถาม... ผมชะงักไปแล้วมองหน้ามัน... แม่งคงรู้มาจากพี่จินยองล่ะสิ แล้วก็คงรู้กันทั้งกลุ่มแล้วด้วย รวมถึงอีพี่ต้วนมันด้วยนะ... กูว่ามันรู้ว่ะ แต่มันแค่ไม่พูด... เรื่องที่มันไม่พูดกูคิดได้สองอย่าง...


หนึ่งคือ... ผมไม่พูด มันเลยไม่พูด...


สองคือ... มันคิดว่ามันจัดการอะไรให้ผมไม่ได้


เออ... ขี้เสือกจริงๆนะมึงเนี่ย


พี่จินยองบอกกูหรอก... แต่คนที่ตบมึงนี่ใช่แฟนเก่าพี่มาร์คป้ะ?” ผมยักคิ้วให้มันสองทีเพื่อบอกว่ามึงเข้าใจถูกแล้ว


ว่าแล้วว่านางต้องไม่ธรรมดา... มึงรู้ป้ะ เมื่อวานตอนพี่จินยองพานางกลับมาที่โต๊ะอ่ะ คนแรกที่นางโถมเข้าใส่คือพี่มาร์คเลยนะเว้ย... สุดฤทธิ์สุดเดชจริงๆผู้หญิงคนนี้เชี่ยยูคบอกอย่างใส่อารมณ์... เดี๋ยวคือมึงทำอย่างกับเป็นเมียพี่มาร์คซะเอง ไอ้เชี่ยยักษ์ อะไรจะฉุนเฉียวปานนั้น เมนไม่มาหรอม?


มึงรอดูไปแล้วกันว่านางจะมาไม้ไหนอีก กูนี่ตั้งตารอเลย...ผมยิ้มออกมาอย่างนึกสนุก... พนันกันได้เลยว่าเลยวันนี้แม่งต้องมาอีก...


แต่ถ้าเป็นวันนี้นะ...พี่มาร์คมันเลิกเรียนสามโมง ส่วนกูว่างตั้งแต่บ่าย... เดี๋ยวกูนั่งรอนางอยู่หน้าตึกเลย... เดี๋ยวรู้กัน!


โอ้ย อีห่า ซื้อหวยทำไมไม่ถูกอย่างนี้บ้าง...


นางมาจริงๆอ่ะมึง แถมเอาผ้าพันขามาด้วย... เดี๋ยวไม่สมจริงเพราะเมื่อวานนางบอกนางขาแพลงนางเดินกะเผลกๆมาทางโต๊ะที่ผมกับเชี่ยยูคนั่งกันอยู่ เชี่ยยักษ์มองหน้าผมแล้วขอความเห็น...


มึงก็ตามๆน้ำไป... ช่วยนางหน่อยผมพูดลอดตามไรฟันไปแบบไม่ขยับปาก เชี่ยยูคมันพยักหน้าแล้วลุกเดินไปช่วยพยุงนางเดินมาที่โต๊ะ นางก็ดูสำออยใส่เชี่ยยูคอีกมึงสำออยใส่ผิดคนล้ะนี่มันใครมึงไม่รู้หรอ? ยูคยอมศิษย์ถ่อยรู้จักมันไว้นะ แล้วมึงจะไม่อยากรู้จักมันอีกเลยดีออก!


พี่มาร์คยังไม่เลิก คุณมาเร็วไปนะผมมองนาฬิกาข้อมือตัวเองก่อนจะมองหน้าเธอ... นี่มันเพิ่งจะบ่ายสองเองเถอะ... รีบมาไปก็เท่านั้น เพราะถึงยังไงอีพี่มาร์คมันก็ติดเรียนอยู่ดี


พี่เบื่อๆน่ะอยู่โรงแรมคนเดียว มานี่อย่างน้อยก็ยังมีแบมแบมคุยเป็นเพื่อนไงเธอปั้นหน้ายิ้มใส่ผม...


โอ้ยย อยากเอารางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมแห่งยุคจูราสสิคฟาดหน้ามึงจริงๆ...


มึงทำเหมือนเมื่อวานไม่เคยเกิดอะไรขึ้นอ่ะ... มึงทำเหมือนเมื่อวานมึงไม่เคยตบหน้ากูอ่ะ... อีดอก!


งั้นผมขอตัวแปปนึงนะเชี่ยยูคหยิบมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะไปกำไว้แน่น แล้วเดินออกไป...


อีสัส ท่าทางแบบนี้มึงกำลังคิดจะส่งไลน์ไปบอกใครอีกใช่มั้ยว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น... ถ้าให้กูเดา... แม่งต้องตามอีพี่หัวแดงลงมาแน่ๆอ่ะ


พอเชี่ยยูคลุกไปได้สักแปปนึง เจสสิก้านางก็มองหน้าผมอย่างไม่พอใจนัก...


มีอะไรอีก?” ผมถาม... อีห่ามาถึงขนาดนี้ล้ะ ไม่ต้องสร้างแล้วภาพอ่ะ พูดมาเลยดีกว่า แมนๆคุยกัน! มึงจะเอาไงกับกู?


เมื่อไหร่จะเลิกยุ่งกับมาร์คสักทีเธอบอกผมถอนหายใจยาวๆทีนึง


คือ...บางทีมึงก็ระรานกูมากไปนะอีเหี้ย


ต้องเลิกหรอ? แล้วถ้าผมไม่เลิกอ่ะ... จะตบผมอีกทีหรอ?” ผมถามมันกลับด้วยท่าทางกวนอวัยวะเบื้องล่างสุดๆ... ไม่ได้หรอก ก็บอกแล้วว่าอิมเมจกูมางี้


หน้าด้านเธอบอกผมนี่แทบจะร้องออกมาเป็นภาษาอูกันด้า อีห่า.. ด่ากูไม่ดูตัวเอง ถ้ากูหน้าด้านแล้วคนอย่างมึงเค้าเรียกว่าอะไรวะ? บอกเลยกูว่าแบคทีเรียในลำไส้ปลวกตอนกูเรียนชีววิทยาสมัยม.ปลายยังน่ารักกว่ามึงอีก อีด้อน!


คุณนี่มันซ้ำซากเหมือนโครโมโซมวายอีห่ากูด่ามึงด้วยความรู้เลยนะจะได้มีปัญญาขึ้นมาบ้าง เธอทำหน้างงๆใส่ผมนั่นไงกูว่าแล้ว แปลว่ามึงไม่ตั้งใจเรียนเจเนติกส์สิท่าสมควร งงต่อไปนั่นแหละ


ผมเบะปากตัวเองส่งไปให้เธอแล้วลุกออกมาจากโต๊ะ แต่เธอก็ลุกเดินตามมาดักหน้าผมไว้ก่อน


เอ้า! ไหนบอกขาแพลงไง เดินปร๋อขนาดนี้... เค้าเรียกว่าอะไรน้า...


เค้าเรียกว่าตอแหลไงมึง...


ผมยกยิ้มอย่างสมเพชส่งไปให้เธอ...


อยากรู้มั้ยล่ะ?” เธอเอ่ยถามได้ไม่ถึงสองวินาที คอเสื้อของผมก็ถูกกระชากด้วยมือเล็กๆนั่นแล้ว ผมออกจะตกใจอยู่นิดหน่อย เพราะไม่เคยมีใครกล้ามาทำแบบนี้กับผม

คือมันกระชากคอเสื้อกูเลยนะเว้ย! นี่มึงยังเป็นผู้หญิงอยู่รึเปล่าวะเนี่ย? ผมขมวดคิ้วหน่อยๆแล้วใช้มือแกะมือเธอออกจากคอเสื้อของผม อีสัสเสื้อกูยับหมดมั้ย?


แต่แล้วแรงโน้มถ่วงก็ฉุดให้ร่างของผมล้มลงไปทับเจสสิก้า... เย้ดดดดด ไม่ใช่เพราะกูซุ่มซ่ามล้มเองหรอกนะ... นางดึงกูลงมาต่างหากล่ะ แต่ดีนะกูเอามือยันพื้นทันอ่ะ... อีด้อน เล่นเหี้ยอะไร?


 “ทำอะไรของคุณเนี่ย?!” ผมถามเมื่อเห็นว่านางใช้มือตัวเองข้างหนึ่งกระชากเสื้อตัวเองจนกระดุมหลุดไปสองสามเม็ด... แล้วก็บีบน้ำตาให้ไหลเป็นสายยางรถดับเพลิง


เฮ้ย... นี่มึงโรคจิตป้ะเนี่ย? ถามจริง! หรือมึงคิดว่าตัวเองเป็นอคแทคยอนวงทูพีเอ็ม เอะอะๆฉีกเสื้อเอ๊ะ หรือใบเตยอาร์สยาม... เอะอะๆ ก็โป๊ เอะอะๆก็โป๊วววววววว ถุ้ย! ใช่เวลามั้ยไอ่แบม!


ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย!!เจสสิก้าร้องให้ช่วยเสียงดัง... ขณะที่ผมกำลังพยายามดันตัวเองขึ้นแต่เธอก็ดันโอบรอบคอผมไว้แน่นเลย...


อ้าว! ซะงั้นอ่ะ... แล้วมึงจะร้องให้ช่วยทำไม กูสิถึงต้องร้องน่ะ!!! ช่วยกูด้วย อีชะนีคนนี้มันเป็นโรคจิต ตอนนี้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาพากันมองพวกผมกันใหญ่เลย


มาร์ค! ช่วยด้วยค่ะ!!!


หืม? มาร์คเหรอ? ผมเงยหน้าขึ้นมองทางก็เห็นอีพี่มาร์คมันวิ่งเข้ามาหา...


ไม่นานมือหนาก็ประคองผมให้ลุกขึ้น ผมเหลือบมองคนที่ช่วยเล็กน้อย... ก่อนจะหันมาปัดเสื้อผ้าตัวเองที่เปื้อนดินแทน


 “มาร์ค ฮือๆๆ ช่วยด้วยค่ะ ช่วยเจสด้วย ฮือๆๆเจสสิก้าทำท่าว่าไม่มีแรงลุก เรียกร้องให้อีพี่มาร์คมันยื่นมือเข้าไปช่วย... บวกกับการร้องห่มร้องไห้อย่างกับญาติเสียของเธอแล้ว ทำให้อีพี่ต้วนมันต้องเข้าไปพยุงนางขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้... ไม่เข้าใจเลย จะร้องให้ช่วยหาสวรรค์วิมารอะไรวะ? ส้นตีนเหอะ!


พอนางกอดคอพี่มาร์คและลุกขึ้นมายืนได้ก็ร้องไห้โฮใหญ่ แล้วก็ซุกหน้าร้องไห้กับอกพี่มันจนมันทำสีหน้าไม่ถูก


มาร์ค ฮือๆๆ แบมแบมเค้าจะปล้ำเจสค่ะ


ห๊ะ?!!!!” ผมอุทานออกมาเสียงดังทันทีที่ได้ยินประโยคน่าขันจากปากชะนีหน้าขาวคนนี้... กูเนี่ยนะ จะปล้ำอีแพะธิเบตนี่! โอ๊ย คิดได้ยังไงเนี่ย!? ใส่ร้ายกันหน้าตาเฉย!


 “มาร์คต้องจัดการให้เจสนะ ฮือๆๆๆเจสสิก้าออเซาะ เบียดตัวเข้าหาพี่หัวแดง... เออ... เอาเข้าไปๆ


 “ตลก... ผมเนี่ยนะจะปล้ำคุณ!ผมส่ายหัวพลางหัวเราะน้อยๆ ตอแหลอะไรคิดหน่อยดิ... คนบ้าที่ไหนเค้าจะปล้ำคนอื่นกลางแจ้งแบบนี้วะ โง่รึเปล่าเนี่ย?


อยู่ๆแบมแบมเค้าก็ผลักเจสล้มลงไป แล้วก็ขึ้นคร่อมตัวเจสไว้เลย ฮืออนางเล่าแล้วซบหน้าลงกับอกอีพี่ต้วนอีกรอบผมนี่กรอกตาเป็นรูปตีนเลย


มึงเป็นรถจักรยานหรอ ที่อยู่ๆกูจะไปขึ้นคร่อมมึงอ่ะ อีสมถุย! มึงน่าขี่ตรงไหน ถามใจตัวเองดูนะ...


ตลกสัสผมสบถกับตัวเองเบาๆ ไม่นานหลังจากนั้นเจสสิก้าเธอก็เป็นลมล้มพับลงไป เดือดร้อนอีพี่มาร์คต้องอุ้มนางไว้ก่อนที่นางจะไถไปกับพื้น... เอาดีๆนี่ของจริงหรือแสดง? แต่กูว่าอย่างหลังว่ะ


ครูว่าเธอพาแฟนไปโรงพยาบาลก่อนเถอะอาจารย์ท่านนึงเดินเข้ามาหาอีพี่มาร์ค... แล้วแนะนำ..


ครับอีพี่มาร์คมันตอบรับแล้วอุ้มเธอออกไปทันที...


โห... กูนี่แดกจุดเลย


ผมมองตามหลังอีพี่มาร์คที่เดินอุ้มเจสสิก้าไปที่ลานจอดรถ...


กูว่า... กูก็พอจะเห็นอะไรบางอย่างแล้วว่ะ


พาแฟนไปหาหมอ... รับคำอย่างไม่มีลังเล...


อุ้มไปขึ้นรถ... รถที่มึงบอกจะให้กูนั่งคนเดียว...


เหอะ!


กูบอกแล้ว... ว่ากูเป็น... อากาศ


.
.
.


ผมนั่งลงที่โต๊ะอย่างหมดแรง...


ถ่ายหนังกันเหรอแบมแบม?” เพื่อนร่วมคณะ แต่คนละเอกกับผมเดินเข้ามาถามหลังจากเกิดเรื่อง... ผมหันไปเลิกคิ้วใส่มัน


ถ่ายหนัง?” ผมถามย้อนมันไป


ใช่... ผู้หญิงคนนั้นแสดงดีมากเลยนะ เล่นเป็นตัวร้ายใช่มั้ย?” ผมแค่นหัวเราะออกมาเมื่อมันพูดจบ... อีดอก เรื่องนี้กลายมาเป็นการถ่ายหนังไปได้ยังไงวะ?


อืม ถ่ายหนังผมตอบเพื่อนคนนั้นไป... อีสัสถ้ามันเป็นแค่การถ่ายหนังจริงๆ เป็นแค่การแสดงจริงๆก็ดีสิ... แต่ทำไมความรู้สึกผิดหวังที่เกิดขึ้นกับกูมันถึงได้เรียลขนาดนี้วะ...


กูอุตส่าห์นั่งรอนางเพื่ออะไรวะวันนี้? กูกะจะเอาคืนนาง แต่กลับเป็นการนั่งรอนางเพื่อให้นางมาทำไอ้สิ่งที่กูคิดว่ามันไม่เมคเซนส์ใส่กูงี้อ่อ? แล้วสิ่งที่กูได้คือ... อีเชี่ยพี่มาร์คมัน... ทำกูผิดหวังงี้อ่อ?


ผมนั่งอยู่ตรงนั้นรอไอ้เชี่ยยูคที่หายไปเลย ไม่กลับมาสักที... มันไปไหนของมันวะ? โทรไปก็ไม่รับ... พอกดเบอร์โทรออกมาที่เบอร์พี่มาร์คผมก็นั่งมองเบอร์มันนิ่งๆ... ทำไมพี่มาร์คมันไม่โทรมาหากูเลยอ่ะมึง... หรือกูต้องโทรไปวะ? คือใจจริงกูอยากโทรไปหามันมากเลยนะ... กูอยากรู้ว่ามันคิดอะไรอยู่... กูไม่อยากคิดไปเอง... กูเป็นคนคิดมาก... เวลากูคิดแล้วมีแต่ติดลบอ่ะมึง...


ผมนั่งทำใจอยู่พักนึงก่อนจะกดโทรออกหาพี่มัน... เสียงสัญญาณดังอยู่สี่ห้าครั้งก็ถูกตัดไป...


ผมมองหน้าจอโทรศัพท์ตัวเองก่อนจะกดโทรออกอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าผมไม่ได้คิดไปเอง... คราวนี้เสียงสัญญาณดังยังไม่ถึงสองครั้งเลยด้วยซ้ำ... พี่มันก็กดตัดสายกู


อีเหี้ย! กูคงไม่ต้องถามอะไรมึงแล้วล่ะมั้ง... มึงไม่เคยตัดสายกู... มึงไม่เคยทำ...




กูเข้าใจแล้ว กูเข้าใจแล้ว...




กูคิดได้มั้ย? ว่ามันเลือกแล้วจริงๆอ่ะ...


ผมเดินกลับหอด้วยสภาพเหมือนวิญญาณออกจากร่างขามันเดินแต่ในหัวมันblank มันตื้อไปหมดคิดอะไรไม่ออกเลย แต่สัญชาติญาณผมมันบอกให้ผมกลับหอที่ๆปลอดภัยสำหรับทุกอย่างกลับไปอยู่ในที่ๆผมควรอยู่กลับไปอยู่ในที่ของผม


แหมะ แหมะ

น้ำใสๆหยดลงบนพื้นถนน... พอแหงนมองขึ้นไปบนฟ้าแล้วก็ต้องถอนหายใจอีห่า ฝนตก


สายฝนค่อยๆตกลงบนพื้นถนนและตัวผมมากขึ้นตลอดทางที่ผมเดินไป กระทั่งมันกระหน่ำลงมาอย่างหนักทั้งที่ยังไม่ทันได้เดินกลับถึงหอเลยด้วยซ้ำแต่ผมก็เดินไปเรื่อยๆ ไม่ได้รีบร้อนอะไร เพราะไหนๆก็เปียกแล้วรีบวิ่งกลับหอไปยังไงก็เปียกอยู่ดี


ปกติถ้าเดินกลับหอผมจะใช้เวลาประมาณสิบนาที... แต่นี่เดินทอดน่องตากฝนไปเรื่อยๆใช้เวลาไปเกือบยี่สิบนาที... ในที่สุดผมก็เดินมาจนถึงหอจนได้


พอเข้าห้องมาสิ่งแรกที่ทำคือ เดินเข้าห้องน้ำ หยิบผ้าขนหนูผืนเล็กๆมาเช็ดหน้าและเช็ดผมตัวเองแต่ผมก็แค่เช็ดแบบลวกๆ เช็ดแบบขอไปทีแล้วโยนผ้าขนหนูลงตะกร้าผ้าไป


เช็ดแค่นั้นเดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอกผมหันกลับมายังต้นเสียงที่อยู่หน้าห้องน้ำทันที


พี่มาร์ค!


อีเหี้ยตกใจหมด! อยู่ๆก็มายืนอยู่หน้าห้องน้ำกูแบบนี้ตั้งแต่คราวนั้นที่กูป่วยแม่งก็ยึดกุญแจสำรองห้องกูไปไว้กับตัวแล้วก็ถือวิสาสะเข้าออกห้องกูอยู่บ่อยๆ แต่กูก็แค่แปลกใจที่ตอนนี้มึงมาอยู่ที่นี่


ทำไมตากฝนมาล่ะ?” มันถาม ผมเลยเบี่ยงตัวเดินผ่านมันออกมาจากห้องน้ำ แล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหาชุดมาเปลี่ยนหลังอาบน้ำ


ก็ฝนมันตกผมบอก


แล้วทำไมเพิ่งกลับ?” มันถาม


ก็เดินกลับผมบอกแล้วเตรียมจะเดินเข้าห้องน้ำอีกรอบ แต่พี่มาร์คมันก็จับแขนผมไว้แล้วเอาตัวมาขวางผมไว้ก่อน


เป็นอะไร?”


ผมจะอาบน้ำผมหลบตามันแล้วจะเบี่ยงตัวเดินไปเข้าห้องน้ำอีกครั้ง


อาบน้ำเสร็จคุยกันหน่อยนะมันบอกพลางรั้งแขนผมไว้ไม่ให้ผมเดินไปผมสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วหันมองหน้ามัน


คุยตอนนี้เลยก็ได้มั้ง...ผมเม้มริมฝีปากตัวเองแน่นผมมั่นใจว่ามันคงอยากพูดเรื่องเจสสิก้าคงจะดีกว่าถ้าคุยกันให้เสร็จแล้วมันกลับไป ส่วนกูจะได้ใช้เวลาอยู่คนเดียวในห้องน้ำ


พี่มันยกมือขึ้นมาปัดผมที่เปียกซกของผมเบาๆ


จะคุยอะไรกับผมหรอ?” ผมจ้องลึกลงไปในดวงตาของมันอย่างห้ามไม่ได้ไม่อยากคิดก็ต้องคิด... ว่านี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้มองตามันแบบนี้


แบมแบมรักพี่มั้ย?” มันถาม


กูว่า

กูรักมึงว่ะพี่มาร์ค





แต่


มันสำคัญด้วยเหรอ?”


สำคัญสิ...มันว่า


แต่มันก็สำคัญน้อยกว่าเรื่องที่ทำให้พี่ต้องตัดสายผมทิ้งใช่มั้ย?” ผมเม้มริมฝีปากแล้วถอนหายใจ


“.......”


พี่อาจจะไม่กล้าพูดกับผมตรงๆ แต่ผมอยากจะบอกพี่ไว้นะพี่มาร์ค... พี่ไปได้นะ ถ้าใจพี่ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว


ไปไหน? จะให้พี่ไปไหน?”


ผมว่า... วันนี้ผมเห็นอะไรหลายอย่างเลยนะ...


สิ่งที่เห็นไม่ได้แปลว่ามันจะเป็นแบบที่เห็นนะ... ไม่อยากรู้เรื่องจริงหรอ? เรื่องหลังจาก...


ผมต้องรู้หรอ?!” ผมพูดขัดประโยคที่มันกำลังจะพูดต่อ... ต้องให้กูรู้เรื่องของพวกมึงมากกว่านี้อีกหรอ...


ต้องรู้สิแบมแบมต้องรู้ว่าพี่บอกรักใคร


พี่จะบอกรักใครก็เรื่องของพี่ดิ!ผมขมวดคิ้วแล้วผลักมันออก


อีเหี้ย มึงเดินไปตอนนี้ซะก็จบแล้วถ้ามึงจะไปจากกูไปซะก่อนที่กูจะไม่ให้มึงไป


ก็คนที่พี่ต้องบอก ยืนอยู่นี่ไงผมชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวเข้าห้องน้ำ... พี่มาร์คมันเดินมายืนอยู่หน้าผมอีกครั้ง


พี่รักแบมแบมรักมากด้วย


รักผม? แต่ก็ยังไม่ลืมเค้าใช่มั้ย?” ผมมองหน้ามัน...


รักแบมแบมแค่คนเดียว มันบอกแล้วจ้องลึกลงมาในตาผม


แล้วผู้หญิงคนนั้น?” พี่มันถอนหายใจ


ทีหลังก็ฟังให้จบก่อน จะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร...มันบอกแล้ววางมือลงบนหัวผมก่อนจะขยี้เบาๆ


เลิกคิดมาก... แล้วตั้งใจฟังนะ พี่จะเล่าให้ฟังมันบอกแล้วก็เริ่มเล่าเหตุการณ์ตอนนั้นให้ผมฟัง



มาร์คอุ้มเจสสิก้ามาจนถึงรถของตัวเอง... แต่แล้วเขาก็กลับอุ้มเธอเดินเลยรถตัวเองไป แล้ววางเธอลงที่ม้านั่งยาวในสวนข้างๆลานจอดรถแทน... มาร์คยืนมองเจสสิก้าที่นั่งหลับตาพริ้มพร้อมกับคราบน้ำตาบนใบหน้า... เธอพิงพนักม้านั่งยาวตามที่มาร์คจัดท่าให้เธอ...


เขายืนมองเธออยู่นาน แต่เธอก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นมาเลยจนมาร์คอ่อนใจ...


เจส..มาร์คเอ่ยเรียกเจสสิก้า


“ผมรู้ว่าเจสไม่ได้เป็นลม...


แล้วเจสก็ไม่ได้หลับ...มาร์คเหมือนพูดคนเดียว...


ถ้าเจสไม่ยอมลุกขึ้นมาคุยกับผม ผมจะทิ้งเจสไว้ที่นี่เมื่อเจสสิก้ายังคงนิ่งมาร์คจึงได้แต่ถอนหายใจแล้วหันหลังเดินออกไป...


มาร์ค..เจสสิก้าโผเข้ามารั้งตัวมาร์คไว้ก่อนที่มาร์คจะเดินไปไกล เธอกอดเอวมาร์คไว้ไม่ยอมปล่อยจนมาร์คได้แต่ถอนหายใจออกมาหลายครั้ง


ทำไมต้องทำแบบนี้มาร์คแกะมือเจสสิก้าออกแล้วหันกลับมาหาเธอ


เจสกลัวนี่มาร์ค... แบมแบมทำร้ายเจส..เธอคว้าเอาเอวมาร์คไปกอดไว้อีกครั้ง


ใครทำร้ายใครกันแน่เจส?” มาร์คแกะมือของเธอออกจากเอวตัวเองอีกครั้งแล้วผลักเธอออก


“นี่มาร์คไม่เชื่อเจสหรอ?” เจสสิก้าบีบน้ำตาอีกครั้งจนมาร์คได้แต่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย...


“ผมไม่เชื่อเจสหรอก...มาร์คบอก


 “ทำไมคะมาร์ค... มาร์คไม่เชื่อเพราะเจสเคยทิ้งมาร์คไปใช่มั้ย? เจสขอโทษนะคะมาร์ค เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะคะมาร์ค มีแค่เรา...เจสสิก้าพยายามจับแขนมาร์คเอาไว้ แต่มาร์คก็ปัดมือเธอออก


ไม่ใช่เจส!... ที่ผมไม่เชื่อเจส เพราะผมเชื่อแบมแบม


ทำไมอ่ะมาร์ค!!? ทำไมต้องเชื่อเด็กนั่น!! ทำไมต้องเป็นเด็กนั่นอ่ะ!!!


เพราะผมรักเขาไง... แบมแบม ผมรักเขามาก


ผู้ชายกับผู้ชายเนี่ยนะมาร์ค!!!เธอตะโกนใส่หน้ามาร์คด้วยความโมโห เจสสิก้ากำลังโกรธที่เธอไม่ถูกเลือก และคนที่ถูกเลือกกลับเป็นคนที่เธอไม่คิดว่ามาร์คจะเลือก


ใช่ผู้ชายกับผู้ชาย... เจสอย่าคิดว่าผมไม่รู้นะ ว่าเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น...


ก็แบมแบมจะปล้ำเจสไงคะมาร์ค...


ทำไมถึงกล้าพูดออกมาแบบนั้น... ในเมื่อเจสเองเป็นฝ่ายไปกระชากคอเสื้อเขา...เจสสิก้าอ้าปากค้างเพราะเธอไม่คิดว่ามาร์คจะรู้


ผมเห็นตั้งแต่ตอนที่เจสเดินได้คล่องแล้ว... ขาเจสไม่ได้แพลง... ผมเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น... ผมยืนดูจนผมทนไม่ไหวเลยต้องวิ่งเข้าไป... เพราะผมทนเห็นคุณทำเรื่องแย่ๆกับแบมแบมอีกต่อไปไม่ได้


มาร์ค...


เรื่องรอยมือบนหน้าของแบมแบมก็เหมือนกัน อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะว่าเป็นฝีมือเจส...


เด็กนั่นมาฟ้องเหรอ?” เจสสิก้าแค่นหัวเราะ


เปล่าแบมแบมไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก... ถึงเขาจะไม่พูด แต่ผมก็รู้…” เจสสิก้าอึ้งไป


ผมไม่อยากเกลียดเจสนะ เรายังเป็นเพื่อนกันได้แต่ขอร้องว่าอย่าทำแบบนั้นกับแบมแบมอีกเพราะไม่ว่ายังไงผมก็เลือกเขา…”


มาร์ค!!!เจสสิก้ากรีดร้องเสียงดังอย่างเจ็บใจ


เจสทำร้ายผมได้แค่ครั้งเดียว... มันจะไม่มีอีกเป็นครั้งที่สองเพราะผมไม่ได้รักเจสอีกต่อไปแล้ว... ส่วนแบมแบม... เจสไม่มีสิทธิ์ทำร้ายเขา... ถ้าเจสทำอีก ผมจะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้นมาร์คกัดฟันกรามจนขึ้นเป็นสัน... เจสสิก้ารู้สึกกลัวมาร์คขึ้นมาทันที


ผมว่าเจสไม่ควรกลับมาผมแนะนำนะ... กลับไปซะ... แล้วอย่ากลับมาอีก เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่ของเจส... ที่นี่ไม่มีที่ของเจสอีกต่อไปแล้ว...


เจสสิก้าน้ำตาไหลออกมาโดยไม่ได้เสแสร้งเธอเสียใจจริงๆ และรู้สึกว่าตัวเองมันโง่มากที่ทิ้งมาร์คไป


ผมขอตัวไปง้อเขาก่อนนะไม่อยากให้คนสำคัญของผมต้องรอนานไปกว่านี้ ไม่รู้จะคิดมากไปถึงไหนแล้วมาร์คเดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้มโดยไม่หันกลับไปมองเจสสิก้าอีกเลย


เขาเดินมาที่รถของตัวเองและก็พบว่ายูคยอมยืนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว...


“พี่มาร์ค เป็นไงบ้างอ่ะ?” ยูคยอมถาม


พี่คุยกับเจสไปแล้ว... ขอบใจมากนะที่โทรไปบอกก่อนที่จะเกิดเรื่องมาร์คบอก


นี่ไอ้แบมมันก็โทรมาหาผมใหญ่เลย... แต่ผมไม่ได้รับอ่ะ ไม่รู้จะพูดยังไงดี... หน้ามันตอนเห็นพี่อุ้มแฟนเก่าพี่ออกมานะ... โคตรอึ้งอ่ะมาร์คหน้าเสียไปเล็กน้อย


เดี๋ยวพี่ไปเคลียร์กับแบมแบมเอง


มาร์คทำท่าจะขึ้นรถแต่โทรศัพท์เขาก็สั่นเตือนขึ้นมาเสียก่อน... มาร์คหยิบโทรศัพท์ตัวเองออกมาดูก่อนจะยิ้มกว้าง...


แบมแบมโทรมาพอดีเลย


เฮ้ยพี่อย่าเพิ่งรับยูคยอมร้องห้ามเมื่อมาร์คจะกดรับสาย


ทำไมอ่ะ?”


พี่ไม่อยากรู้เหรอว่ามันรู้สึกยังไงกับพี่อ่ะยูคยอมแย่งมือถือมาร์คไปกดตัดสายทิ้ง


ยังไง?”


ถ้าให้มันพูดเองอีกนานมั้ยกว่ามันจะยอมพูด... ไหนๆก็เกิดเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วอ่ะ พี่ก็ใช้ให้คุ้มแบมแบมโทรเข้ามาที่มือถือมาร์คอีกครั้ง และยูคยอมก็เป็นคนกดตัดสายอีกครั้งเช่นกัน


ตอนเนี้ยะ... ผมว่ามันคิดมากอยู่แน่ๆอ่ะ... พี่ก็ลองดูแล้วกันว่าจะง้อยังไงยูคยอมส่งโทรศัพท์คืนให้มาร์คก่อนจะขอตัวแล้วเดินออกไป...


แบมแบม...มาร์คมองหน้าจอโทรศัพท์ตัวเองก่อนจะพึมพำเบาๆแล้วขึ้นรถ... เขาขับออกมาหาแบมแบมที่หน้าตึก แต่ก็ไม่เห็นแบมแบมนั่งอยู่ที่เดิมแล้ว... เขามองหาจนทั่วและลงมาถามจากคนที่อยู่แถวๆนั้นดูก็รู้ว่าแบมแบมเพิ่งออกไปเมื่อกี้นี้เอง


มาร์ครีบวิ่งขึ้นรถของตัวเองแล้วขับไปตามทางที่คิดว่าแบมแบมจะใช้เดินกลับหอทันที แต่จู่ๆฝนก็ดันตกลงมาอย่างหนักทำให้ยากต่อการมองหาอีกคนมาร์คจึงตัดสินใจขับรถมาที่หอและขึ้นมารอแบมแบมบนห้องแทน...


แล้วก็มาเจอเด็กหัวดื้อคนนี้ที่ห้องพี่มันบีบจมูกผมเบาๆ


อีเหี้ย!!! กูยังไม่เลิกอึ้งกับที่มึงเล่าเมื่อกี้เลยพี่มาร์คแม่งฮาร์ดคอร์สาส


รู้รึยังว่ารัก?” พี่มาร์คบอกแล้วขยับเข้ามาหาผมมากขึ้นอีห่า หน้ากูร้อนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้


อือผมตอบมันเสียงอู้อี้แล้วจะเบี่ยงตัวเดินเข้าห้องน้ำอีเชี่ย! ขอไประเบิดตัวเองในห้องน้ำก่อนได้มั้ย? แล้วเดี๋ยวค่อยออกมารับมือกับมึงทีหลัง


แต่พี่มาร์คมันก็คือพี่มาร์คอ่ะมึงยอมให้กูไปไหนซะเมื่อไหร่ล่ะ มันจับตัวผมไว้แล้วแย่งเอาเสื้อผ้าในมือผมไปโยนไว้ที่พื้นแถวๆนั้น...


อีสัส นั่นเสื้อผ้าที่กูจะเปลี่ยนมั้ย? โยนของกูเหมือนขยะเลยนะดีออก!


ผมจะอาบน้ำผมบอกมันขณะที่มันดันตัวผมให้เดินถอยหลังห่างออกจากห้องน้ำมาเรื่อยๆ


กระทั่งขาผมชนเข้ากับขอบเตียงแล้วล้มลงไปอีสัส หนังไทยชัดๆ แต่กูล้มจริงๆนะมึง แต่ล้มแบบนั่งลงไปอ่ะ


พี่มาร์คเท้าแขนทั้งสองข้างลงบนเตียงเพื่อดักทางหนีผมไว้ ผมเลยต้องถดตัวเองขึ้นไปบนเตียงเพื่อหนีอีพี่หัวแดง... แต่มันก็ตามกูขึ้นมา แถมนั่งคร่อมที่หน้าตักกูไว้อีก ทีนี้กูไปไหนไม่ได้เลย... ได้แต่นั่งตัวแข็งทื่ออยู่อย่างนั้น...


แบมแบมยังไม่ได้ตอบคำถามพี่เลยพี่มาร์คมันว่าก่อนจะค่อยๆโน้มตัวลงมาหาผมช้า


คะ คำถามอะไร?” ผมถามมันกลับเสียงตะกุกตะกัก แต่พี่มันก็จูบลงมาที่หน้าผากผมเบาๆ


รักพี่มั้ย?” มันถามแต่หน้ามันก็ไม่ได้ห่างไกลไปจากหน้ากูเลยยังคงวนเวียนและเวียนวน


ผม...กูนี่กลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อกเลย…. คือมันใกล้ไป กูใจบ่ดี..


รักพี่มั้ย?” มันถามผมอีกครั้งแล้วเลื่อนริมฝีปากไปที่จมูกแล้วจบด้วยการประกบริมฝีปากลงมาที่ปากผม... อีห่า ปิดปากกูขนาดนี้แล้วกูจะตอบมึงยังไง อีด้อน!


อือ...ผมครางในลำคอประท้วงพี่มันที่จูบกูไม่เลิกให้กูได้มีโอกาสหายใจบ้างถ้าจะกรุณาแต่พี่มันก็ยังไม่เลิก... ผมเลยใช้ลิ้นตัวเองดันลิ้นพี่มันที่เข้ามาไล่ต้อนควานหาเหี้ยอะไรในปากกูตั้งนานแล้วแต่แม่งเหมือนยิ่งไปกระตุ้นต่อมเหี้ยไรของพี่แม่งไม่รู้ ทีนี้จัดกูหนักเลยจย้า


อืออผมกำปกคอเสื้อมันแน่นแล้วประท้วงมันอีกครั้งทีนี้มันยอมละริมฝีปากออกมาจากปากผม แล้วเปลี่ยนเป้าหมายใหม่เป็นซอกคอขาวของผมแทน


อีเหี้ย มึงเป็นไรกับซอกคอกูมากป้ะ เดี๋ยวไซร้ๆ ดีออก! แล้วตกลงจะให้กูตอบมั้ย? หรือยังไง? คือไม่สนคำตอบกูแล้วใช่มั้ย?


พี่มาร์คใช้มือปลดกระดุมเสื้อเปียกๆของผมออกทีละเม็ดก่อนจะถอดออกแล้วโยนไปให้พ้นทางขณะที่ปากก็ยังคงไม่เลิกยุ่งกับคอกูและดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนเป้าหมายใหม่เป็นหน้าอกกูแทนพี่มาร์คพรมจูบไปจนทั่วแล้วกลับขึ้นมาจูบปากผมอีกรอบ... โดยทีมือมันก็เลื่อนลงมาปลดเข็มขัดที่กางเกงผมต่อ...


เป็นแฟนกันมั้ย?” มันถามหลังจากรูดเข็มขัดผมออกไปแล้วอีห่า มึงเปลี่ยนคำถามอีกแล้ว... คำถามเก่ากูยังไม่ได้ตอบเลยเถอะ... แต่มึงข้ามขั้นตอนไปแล้วมั้ยอ่ะ... ข้ามไปเยอะด้วยแล้วจะกลับมาขั้นนี้อีกเพื่อ?


ผมว่ามันเลยคำนั้นมาแล้วป้ะ?” ผมบอกพลางหอบหายใจกูยังเหนื่อยกับรสจูบที่มึงมอบให้อยู่เลย


แม่ง! ไอ้ที่กำลังทำอยู่ตอนนี้เนี่ย คนรู้จักเค้าทำกันล่ะมั้งครับอีดอกแฟนเฟินห่าอะไรกูไม่รู้รู้แค่ว่ากูกับมึงได้กันวันนี้แหละ เหยดแหม่



-จบเถอะ-
เจอกันในเล่มนะยูวว์


วันนี้มาร์คแบม in real life นัวมาก
เรายอม


#ฟิคกระเรียน