วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2558

ฟิคกระเรียน: ตอนที่ 1

ฟิคกระเรียน = เกรียนฟิค

#ฟิคกระเรียน



-1-
Friend





          สวัสดีครับ ผมชื่อนายกันต์พิมุกต์ ภูวกุล ชื่อเล่น แบมแบม แต่เพื่อนๆชอบเรียก ไอ่แบม ไอ้เชี่ยแบม แล้วแต่เลเวลของระดับความสนิท 


          ผมเป็นเด็กน้อยในสายตาคนอื่น... บางคนเรียกผม 'ตัวเล็ก'  แต่ที่เรียกแบบนั้นเพราะเวลาผมอยู่กับไอ้ยักษ์ เอ่อ..หมายถึง ไอ้ยูค... ยูคยอมน่ะครับ เพื่อนสนิทสุดแสนจะจัญไร เอ้ย! เพื่อนสุดประเสริฐของผมเองแหละ... ก็จะไม่ให้เรียกผมตัวเล็กได้ไง... ไอ้นี่มันตัวยังกะหมี เดินด้วยกันทีไรผมกลายเป็นลูกมันทุกทีไปสิหน่า~


          ไหนๆก็เอ่ยชื่อมันแล้ว ก็พูดถึงมันสักหน่อยแล้วกัน คือผมกับมันเนี่ยเป็นเพื่อนซี้ เรียกว่าเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว เพื่อนตายนี่ยังไม่แน่ใจว่าใช่รึเปล่า.. แต่ถ้า ‘พ่อมึงตาย’ อันนี้บ่อยมาก

                 
          ไอ้สัส! ใช่เวลามั้ยฮะ... ก็อย่างที่บอกผมกับมันซี้ปึ้ก เล่นหัว เล่นบุพการีจนกลายเป็นเรื่องปกติ ผมว่าผมนิสัยดีมากเลยนะครับ... แต่สงสัยอยู่กับมันนานไปหน่อย ผมเลยกลายเป็นคนแบบนี้ไป


          แบบไหนน่ะเหรอ?... ผมเป็นเด็กดีครับ หน้าตาบ้านๆ... บ้านจัดว่าน่ารักมากกกกก ย้ายมาเกาหลีตั้งแต่สี่ขวบจนตอนนี้ขึ้นปีหนึ่งมหา’ลัยล้ะ ผมเรียนนิเทศฯ ตอนนี้เพิ่งเปิดเทอม มหา’ลัยกำลังอยู่ในช่วงรับน้องพอดี กิจกรรมผมเข้าตลอดนะ พี่นัดมากี่โมง มาก่อนเวลาอีก แต่พอเข้าเรียนเมื่อไหร่อีกหนึ่งนาทีอาจารย์เช็คชื่อผมก็มาทันนะจะบอก... 


          ผมนิสัยดีเหมือนหน้าตาแหละครับเผื่อใครยังไม่รู้...
   

          หลายคนชอบหาว่าผมเกรียน ผมเนี่ยนะเกรียน ป่าวสักหน่อย! 


          ผมออกจะเรียบร้อย นิสัยดี เฟรนลี่ ขี้เล่น น่ารัก มุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง กิงก่องแก้วขนาดนี้


          “ไอ้สัส! กูหนัก พ่องงงง ทับลงมาได้” ผมหันขวับไปหาไอ้ยักษ์ที่มันกำลังล้มทั้งตัวมัน ย้ำ! ทั้งตัว ลงมาทับผมจากทางด้านหลัง ทั้งๆที่ผมกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่... หนังสือการ์ตูน ต่อให้จบเผื่อใครยังไม่รู้


          “กูง่วงอ่ะมึง” มันพูดไปตัวก็โงนเงนอยู่แถวหลังผมนี่แหละ ผมเลยเอานิ้วดีดหน้าผากมันไปทีนึงด้วยแรงทั้งหมดที่ผมจะสามารถปล่อยออกไปได้ แอบมีเสียงดัง โป้ก!! ฮ่าๆๆๆ มันตาขวางหันมาแยกเขี้ยวใส่ผมใหญ่เลย ซึ่งผมก็ได้ทีลุกเขยิบออกมาจากที่ๆเคยนั่งอยู่... ขืนนั่งต่อกูก็แบนสิครับ ไอ้เหี้ยพูดแล้วก็เริ่มปวดหลัง คนรึควายครับน่ะ หนักชิบ!


          “ไอ่แบม!” มันเอามือลูบหน้าผากตัวเองปอยๆแล้วเบะปากเหมือนจะร้องไห้ ผมเหยหน้าใส่มันกับสิ่งที่เห็น... ไอ้สัสกูจะอ้วก คิดว่าน่ารักช้ะ? พ่องงง อยากอ้วกแต่เสียดายข้าวเช้าชิบหายเลย


          “หยุดทำหน้าแบบนั้นเหอะมึง... โอเคกูยอมล้ะ” ผมยกมือขึ้นเป็นเชิงยอมแพ้ ให้ตายสิ “ไปทำห่าไรมาถึงได้ง่วงขนาดนี้วะ?”


          “ก็รับน้องเมื่อคืนอ่ะดิ มึงนะมึงไม่ยอมไป”


          “เอ้า! ก็พ่อกูมารับ นานๆพ่อกูจะมาหาสักที กูก็อยากมีเวลาส่วนตัวกับครอบครัวมากกว่าต้องมานั่งก้มหน้าฟังพี่ว้ากแม่งด่านะมึง!” 


          พ่อผมไปทำงานต่างประเทศบ่อยครับ นานๆถึงจะกลับมาเกาหลีสักที เนี่ยกลับมาเมื่อวาน มารับผมไปกินข้าวแล้วก็พาไปซื้อของโน่นนั่นนี่เอามาไว้ใช้ที่หอ


          ใช่... ตอนนี้ผมอยู่หอ เวลาครอบครัวเลยไม่เหลือ ผมต้องทิ้งแม่ให้อยู่คนเดียวที่บ้าน ไม่ใช่คนเดียวสิ! ต้องบอกว่ายังมีพี่คุณอีกคน ลูกพี่ลูกน้องผมเองเพิ่งย้ายมาอยู่ด้วยกันเมื่อปีที่แล้วก่อนผมจะย้ายมาอยู่หอเพราะใกล้กับมหาลัยมากกว่า 


          แต่พูดถึงรายนั้นแล้ว... บ้างานครับ พี่คุณเปิดร้านอาหารใกล้ๆบ้านผมนี่แหละ แต่ก็ไม่ค่อยชอบกลับมานอนบ้าน ชอบนอนที่ร้าน บางทีแม่ผมเหงาๆพี่เขาก็รู้นะ เลยชวนแม่มานอนที่ร้านกันซะเลย จนตอนนี้บ้านผมแทบจะเป็นบ้านร้างและครับ... ก็พากันไปสิง เอ้ย! ไปอยู่ที่ร้านกันหมด... เอาเข้าจริงๆเวลาผมกลับบ้านไปทีนะ อื้อหือ... เงียบยังกะป่าช้า


          คือบางทีก็อยากจะถามแม่ว่า... ขายบ้านแล้วไปอยู่ร้านพี่คุณเลยดีมั้ย? จะได้ประหยัดค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์


          “หืมมม พูดถึงพี่ว้าก เมื่อวานเด็ดมากบอกเลย!” ไอ้ยูคเขยิบเข้ามาใกล้ผมด้วยหน้าตาท่าทางประหนึ่งอยากเม้ามอยหอยกาบ 


          ผมขมวดคิ้วรับท่าทางแบบนั้นของมัน... เห้ย! คือเด็ดขนาดไหนวะมึง


          “เล่ามาดิมึง...ลีลาหาพ่องง”


          “พี่ว้ากเว้ยมึง...” ผมเงียบรอฟังมันพูด “มันบอกให้ปีหนึ่งไหว้ช้ะ?” ผมพยักหน้าหงึกๆ..


          ก็แหงล่ะ เป็นปีหนึ่งเข้ามาใหม่พี่มันก็บอกอยู่ว่าให้ไหว้ทุกคน แต่เดี๋ยวนะ... อันนี้กูรู้แล้วป้ะวะ กูไม่เข้ารับน้องแค่วันเดียว แต่นี่พี่ระเบียบแม่งลงมาตั้งแต่รับน้องวันแรกล้ะ


          “ไอ้สัส! กูรู้แล้วไง ไหว้แล้วไงวะมึง”


          “มึงฟังก่อนดิ่”


          “ไอ้เหี้ย ก็พูดเร็วๆดิ่วะ ท่าเยอะนะมึง”


          “ท่ากูไม่เยอะเท่าไหร่ กูเน้นท่ายาก...” ผมยกอวัยวะช่วงล่างไปทางมัน แต่มันก็กระโดดหนีฝ่าเท้าของผมได้ทันท่วงที... ไม่งั้นบอกเลย จุก!


          “กูว่าแล้วมึงต้องเล่น มุกควายมาก” ผมจิ๊ปากไม่พอใจ ก่อนจะเลิกสนใจมันแล้วก้มลงอ่านการ์ตูนในมือที่เอานิ้วคั่นไว้ก่อนหน้านี้... เสียเวลากูป้ะ สัส!


          “มึงก็อย่ากวนกูดิ่” ไอ้ยักษ์ง๊องแง๊งเดินมานั่งข้างผมอีกรอบ คราวนี้ผมไม่สนใจมันล้ะ ก้มหน้าอ่านการ์ตูนอย่างเดียว 


          “พี่ว้ากแม่งบอกไม่ต้องไหว้พวกแม่งล้ะ” ผมละสายตาจากลูฟี่ในมือหันไปเลิกคิ้วใส่มัน 


          “ก็แม่งบอกไม่รับพวกเราเป็นน้อง ไม่ต้องไหว้!”


          “เชี่ยยย ทำไมวะ?” ไอ้สัสพี่ว้ากนี่ก็ปัญหาเยอะนักเหรอวะ?


          “เมื่อวานคนไปน้อยสาส พี่แม่งโมโห บอกให้โทรตามเพื่อน ถ้าตามเพื่อนมาไม่ได้ก็ไม่นับเป็นน้อง” 


          ผมเหยหน้าประหนึ่งว่า...เป็นเอามากนะมึงไอ้พี่’เบียบ เมื่อวานคนไปน้อยมันก็ไม่แปลกป้ะว้ะ... ก็เมื่อวานมีงานแฟนไซน์ GOT7 ที่ห้างแถวมอ นี่ผมตื้อพ่อไปซื้อของและกินข้าวที่ห้างนั้นเพราะจะไปดูนี่แหละ ฮ่าๆๆๆ วงเหี้ยไร หล่อเหี้ยๆ


          “แล้วคือ? พี่แม่งตัดพี่ตัดน้องไปแล้ว?” ไอ้ยูคส่ายหน้า


          “เปล่าเลยมึง... ก่อนเลิกรับน้องเมื่อวาน มันบอกใครไปงานแฟนไซน์ มันมีหลักฐานจะเอามาทำโทษวันนี้” 


          พ่องงงง ดีนะที่กูไม่สามารถฝ่าฝูงชนเข้าไปใกล้ๆได้อ่ะ เลยเดินชะโงกดูอยู่ริมๆกับด้านบนชั้นสอง แล้วดีอีกที่ไปกับพ่อ... กูไม่น่าว้อนท์อยากไปห้างนั้นเลยให้ตาย ฟัคยู.. หวังว่าคงไม่มีใครเห็นกูอยู่แถวนั้นใช่มั้ย?

          
          “ไอ้สัส กูมีลางสังหรณ์ไม่ดีแปลกๆว่ะ งั้นวันนี้กูไม่เข้ารับน้องนะมึง”


          “เชี่ยยยย พี่แม่งบอกให้ตามมาให้ได้ทุกคน ยังไงมึงก็ต้องไป” ไอ้ยูคล็อคคอผมไว้แน่น พ่องตาย กูหายใจไม่ออก... 


          “มึงจะกลัวไร มึงไปกับพ่อมึงมา”


          “แต่ที่ๆกูไป มันคือห้างนั้นนะมึง” ไอ้ยูคปล่อยแขนที่ล็อคคอผมอยู่แล้วหันมามองหน้าผมทันที


          “ซวยแล้วมึงไอ่แบม” 


          อย่า... 


          อย่าพูดเป็นลาง... 


          กูไม่อยากจะ..






          กูไม่อยากจะเชื่อ!!!


          ไอ้เหี้ยยยยยยย ใครก็ได้บอกกูทีว่าไอ้คนที่หน้าหล่อๆ ในรูปที่กำลังฉายขึ้นโปรเจ็คเตอร์ขนาดใหญ่อันนั้น...


          มันไม่ใช่กูวววววววว


          “ผมให้โอกาสคุณแล้ว ผมถามแล้วใช่มั้ยว่าใครไปงานเมื่อวาน ให้ก้าวออกมา” ผมยืนตัวตรงราวกับกำลังเคารพธงชาติอยู่หน้าไอ้พี่ว้ากนายหนึ่ง ต่อหน้าบรรดาปีหนึ่งด้วยกันและปีอื่นๆที่ยืนล้อมรอบพวกปีหนึ่งอีกที


          ถามว่าคนเยอะขนาดนี้กูอายมั้ย?... บอกเลยกูไม่อาย แต่กูกลัวววว อีเชี่ยแม่ง! ไอ้พี่ว้ากหัวสีเงินนี่ก็จะแดกหัวกูอยู่ล้ะ ไอ้สัส.. หน้ามึงจะโหดไปไหน


          “แต่ผมไม่ได้ไป...”


          “แล้วในรูปนี่ใครครับ!!!” ไอ้เชี่ยยย กูกลัวแล้ว ตะโกนหาพ่องงงง!!


          “ผมไปแต่ผม...”


          “คุกเข่าลงไป” ไอ่เชี่ยยยยย ผมมองไปทางไอ้ยูคที่ดูเหมือนมันจะหัวเราะผมด้วยท่าทางสะใจมาก... เพื่อนกูมากเลย มึงอ่ะ! ไอ้สัส อย่าให้กูหลุดออกจากตรงนี้ไปได้นะ กูฆ่ามึงคนแรกไอ้เพื่อนระยำ


          ผมนั่งลงคุกเข่าลงไปแบบเดียวกับเพื่อนปีหนึ่งอีกหลายสิบคนที่ยอมรับสารภาพตั้งแต่ต้นแล้วว่ามันไปงานแฟนไซน์มาเมื่อวาน... แล้วที่กูไม่รับสารภาพคือกูไม่ได้ป๊ายยยยย กูไปกับพ่อกูวววว ฮือออออ อย่าให้กูรู้นะใครถ่ายรูปกู ฮืออออออ


          “ผมบอกพวกคุณแล้วความซื่อสัตย์เป็นหนทางของคนดี” 


          ด่ากูช้ะ? กูเป็นคนไม่ดีช้ะ? 


          เออ... อันนี้กูพอรู้ตัวกูเอง แต่คือกูไม่ได้ป๊ายยยยยยย... 


          เออ... กูไปก็ได้... แต่กูไม่ได้ตั้งใจไปดูไงมึงเข้าใจป้ะ? กูแค่คะยั้นคะยอให้พ่อพาไปเฉย เฉ๊ยย


          “การที่พวกคุณยอมรับว่าตัวเองทำอะไรผิด... ผมชื่นชม...” 


          ด่ากูเลยเถอะ... ไอ้เชรี่ยยยยยย มึงด่ากูเป็นคำหยาบๆคายๆ กูรับด้ายยยยยยย ไม่ต้องผมๆ คุณๆ ครับๆ


          “แต่การที่เพื่อนคุณคนนึงไม่กล้ายอมรับผิด ดังนั้นผมเลยต้องลงโทษพวกคุณทุกคน” สิ้นเสียงพี่ว้ากคนนั้น ทุกสายตาก็จับจ้องมายังผมทันที... 


          อ่าว ไอ้สัส สรุปคือกูผิดหรอ? มองกูแบบนี้คิดหรอว่ากูจะกลัววว ฮื่ออออ ไอ้เหี้ย กูไม่ผิดนะ ก็กูบอกแล้วว่ากูไปกับพ่ออออออออ


          “พวกคุณทุกคนจะโดนลงโทษ” พี่ว้ากหันไปกวาดสายตามองปีหนึ่งทุกคน ก่อนจะหันมามองผมด้วยสายตาดุๆ 


          “ยกเว้นคุณ” 


          ผมอ้าปากค้าง แบบแข็งเป็นหินได้กูทำไปแล้ว! 


          “เพื่อนของคุณจะโดนทำโทษแทนคุณ กลับไปนั่งที่ได้แล้ว!” พี่ว้ากหันมาสั่งเสียงดัง ผมสะดุ้งน้อยๆ ได้ยินเสียงโอดครวญมาจากเพื่อนๆปีหนึ่งด้วยกันเบาๆพร้อมกับสายตาอยากจะฆ่าจะแกงผม... เออ ไอ้สัส กูผิดช้ะ?


          ผมยังคุกเข่าอยู่ที่เดิม เออ! แม่ง! ทำโทษห่าเหวไรกูไม่สน! กูไม่รู้สึกผิดเชี่ยไรเลยเพราะกูไม่ผิดดดด! 


          จริงๆนะ...


          “ผมขอรับผิดเองคนเดียว” ผมเอ่ยออกมาอย่างฉะฉานขณะกำลังลุกขึ้นยืน 


          เอาเซ่ มึง! กูอออกจะมาดแมนแฮนซั่มขนาดนี้ กูมีความรับผิดชอบพอ แม้กูจะไม่ได้ทำอะไรผิดก็เถอะ แต่คนอื่นเค้าก็จะเดือดร้อนเพราะกู


          ตอนนี้ทุกคนเงียบลงไปหลังจากที่ผมพูดก็มีเสียงฮือฮาขึ้นมาเบาๆ


          “ถึงจะไม่ได้ทำอะไรผิดก็เหอะ...” อันนี้พูดเบาๆ แบบพึมพำให้ตัวเองได้ยินคนเดียว


          “แน่ใจนะที่คุณพูด!” ไอ้พี่ว้ากหัวเงินมันก็ยังไม่เลิกแยกเขี้ยวใส่ผมอยู่ดี เห้ย! นี่ขนาดกูยอมรับผิดทั้งๆที่กูไม่ได้ผิดขนาดนี้แล้วนะ ขอความยุติธรรมให้กูด้วย!


          “ครับ” ผมกรอกตาไปมาก่อนที่จะมีพี่ระเบียบสี่ห้าคนมาหิ้วผมไป...


          ฟังไม่ผิดหรอกครับ หิ้วนั่นล่ะ!



                 
          ไอ้สัส! คนนะไม่ใช่ถุงข้าวชัชชาติ




          แล้วพวกแม่งก็หิ้วผมมาที่ไหนไม่รู้ เอาผ้ามาปิดตากูด้วยนะแหม่! นี่พวกมึงจะเอากูไปขายป้ะเนี่ย? ถามจริง... อย่างกูไม่ต้องขายให้เสียเวลา เอาของกินมาล่อกูก็ไปล้ะ 


          ถุ้ย! กูจริงจังนะเนี่ย!


          มันจับผมนั่งลงบนเก้าอี้ แล้วเอาเชือกมามัดแขนกับขาไว้กับเก้าอี้ที่ผมนั่ง... พ่องงงงงง จะทำอาร๊ายยยยยกูวววววววววว


          ผมนั่งนิ่งๆสักพักก็รู้สึกได้ว่ามันเริ่มเงียบ


          “พี่...” ผมเอ่ยขึ้นหวังจะทำลายความเงียบ แต่มันก็ยิ่งทำให้รู้ได้ว่าตอนนี้ผมอยู่คนเดียว... ไอ้เชี่ยยย เอากูมาปล่อยไว้แบบนี้แล้วก็ทิ้งกูไปเลยอ่ะนะ อีหอย!


          เออ ช่างมึง! อยู่คนเดียวก็ได้ เงียบก็ดีเหมือนกัน ว่าแล้วก็หลับดีกว่า คร่อก! อย่าคิดว่าผมพูดเล่น ผมหลับจริง สถานการณ์ไหนผมก็หลับได้ ไม่หวั่นแม้วันมามาก!




.
.
.


      


          ปัง ปัง ปัง ปัง!!!!!





#ฟิคกระเรียน







8 ความคิดเห็น:

  1. แบมนี่เกรียนจริงๆสถานการณ์แบบนี้ยังสามารถที่จะหลับได้ เค้าล่ะยอมมมมม

    ตอบลบ
  2. เกรียนได้อีก 55555555

    ตอบลบ
  3. นอนตอนนี้ก็ได้เรอะ �� เวรกำ 555555555555555

    ตอบลบ
  4. ถถถถถ. ยังมีหน้ามาหลับบ 55555555

    ตอบลบ
  5. แบมมม ง่วงอะไรขนาดนั้นคะลูก 55555555

    ตอบลบ