ขึ้นชื่อว่า 'เรื่อง' แล้ว... ถึงไม่หา ก็ชอบมาเองตลอด
สองขายาวก้าวผ่านประตูโรงเรียนขนาดใหญ่ ก่อนที่ลมหายใจก้อนโตจะถูกพ่นออกมาภายใต้หน้ากากอนามัย ซึ่งปกปิดใบหน้าหวานไปกว่าครึ่ง... จะมีก็แค่เพียงดวงตากลมโตคู่สวยที่โผล่พ้นออกมาเท่านั้น หากแต่ถ้ามองดูดีๆ ที่ขอบตาข้างซ้ายบริเวณเหนือโหนกแก้ม... มีรอยบางอย่างอยู่ เป็นรอยฟกช้ำสีม่วงๆแดงๆ ปรากฏให้เห็นอยู่ปลายๆ ซึ่งแมสขนาดใหญ่ที่ใส่อยู่นั้นไม่สามารถดึงขึ้นมาปกปิดได้อีก
ขายาวก้าวเดินผ่านอาคารต่างๆไปเรื่อยๆตามทางเดิน เป้าหมายก็คืออาคารเรียนของตัวเอง ในระหว่างที่เดินก็มีนักเรียนหลายคนมองมาที่เขาแล้วหันไปซุบซิบนินทากันไม่น้อย... แต่ก็ยังน้อยกว่าช่วงแรกๆที่เขาเข้ามาเรียนที่นี่... ใบหน้าหวานก้มมองต่ำไปยังพื้นถนน ซึ่งระยะสายตาก็ไม่ได้ห่างไกลไปจากรองเท้าของตัวเองสักเท่าไหร่... ไม่อยากเห็นใครต่อใครพูดอะไรเกี่ยวกับตัวเขา และไม่อยากให้ใครต่อใครเห็นแผลบนใบหน้าที่เขาพยายามจะปกปิดมันเอาไว้ได้ชัดเจนมากไปกว่านี้
‘แผลดันอยู่ใกล้ตาขนาดนี้... ปิดแมสลำบากชิบ’ สบถได้เพียงในใจเท่านั้น ก่อนจะถอนหายใจอีกครั้ง
ผมเดินมาหยุดที่หน้าประตูห้องเรียน แล้วขยับแมสขึ้นมาจนเกือบปิดดวงตา ก่อนจะก้าวเข้าห้องและไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง... ผมหยิบหนังสือในกระเป๋าขึ้นมาเปิดอ่าน ขณะที่สายตาทุกคู่ของเพื่อนในห้องที่นั่งอยู่ประปรายก็ยังคงจับจ้องมาที่ผม...
‘อึดอัด’ เป็นคำเดียวที่อธิบายความรู้สึกตอนนี้ได้ดีที่สุด
ผมตัดสินใจเงยหน้าขึ้นจากหนังสือตรงหน้า แล้วกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้คนอื่นๆที่จ้องมองผมอยู่ หันไปทำอะไรๆของตนเองโดยที่ไม่ได้นัดกันมาก่อน และมันก็ดีมากที่ไม่มีใครหันมามองผมอีก... ผมจึงก้มลงอ่านหนังสือในมืออีกครั้งอย่างสงบ…
“กะ...กันต์พิมุกต์” แต่ก็ไม่นานหลังจากที่คิดว่าตัวเองจะได้อ่านหนังสืออย่างสงบแล้วแท้ๆ ใบหน้าหวานกรอกตาไปมาภายใต้เปลือกตา ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองผู้ที่เรียกเขาเมื่อครู่ “เอ่อ...คะ..คือ อาจารย์บอก...ว่าถ้านายมาแล้ว... เอ่อ...ให้ไปพบนะ...น่ะ” หญิงสาวที่เขาจำได้ว่าคือหัวหน้าห้องของตัวเองเอ่ยอย่างตะกุกตะกัก พลางหลบสายตาของเขาอย่างกล้าๆกลัวๆ บวกกับเสียงสั่นๆนั่นของเธอ ทำให้เขารู้ว่าเธอคงกำลังรู้สึกติดลบกับสายตาของเขาแน่ๆ
ลมหายใจถูกพ่นออกอีกครั้งภายใต้แมสนั่น ก่อนจะพยักหน้าเบาๆให้เธอเป็นเชิงว่า... รู้แล้ว เธอรีบหันหลังแล้วเดินกลับไปนั่งที่ตัวเองโดยไม่หันกลับมามองผมอีกเลย นั่นทำให้ผมต้องปิดหนังสือลงแล้วเดินไปพบอาจารย์ที่ห้องพักครูทันที
‘ห้องพักครู’
มือบางยกขึ้นเคาะประตูห้องพักอาจารย์อย่างเสียไม่ได้ ก่อนจะได้ยินเสียงของอาจารย์ดังขึ้นอนุญาตให้เข้าไป
"นั่งก่อนสิกันต์พิมุกต์" อาจารย์สาวที่ยังยืนหันหลังให้ และหาเอกสารบางอย่างเอ่ยบอก ร่างบางเดินไปนั่งที่เก้าอี้ด้านหน้าโต๊ะอาจารย์ก่อนจะถอนหายใจอีกครั้ง
"ถอนหายใจบ่อยๆเดี๋ยวหน้าก็แก่เร็วหรอก" อาจารย์สาวว่าพลางเดินมานั่งที่โต๊ะตัวเองพร้อมแฟ้มสีดำขนาดใหญ่ในมือสามแฟ้ม... เขาจะไม่สนใจแฟ้มในมืออาจารย์เลยหากมันไม่ได้ถูกมือสวยๆของอาจารย์เลื่อนมาไว้ตรงหน้าเขา... อีกแล้วสินะ
"ยังไม่หายป่วยอีกหรอ?" ผมละสายตาจากแฟ้มขึ้นมามองใบหน้าสวยของอาจารย์ที่ถามด้วยน้ำเสียงปนห่วงใย "เดี๋ยวเป็นเดี๋ยวหายไปหาหมอหรือยัง?"
"แฟ้มนี่ให้ผมทำอะไรบ้างหรอครับ?" ผมไม่ตอบคำถามที่ถูกถาม เพียงแค่เปลี่ยนหัวข้อสนทนาไม่ให้วนเวียนกับการใส่แมสก็เท่านั้น... ก็ผมไม่ได้ป่วย แล้วก็ไม่ได้เคยคิดที่จะไปหาหมอด้วย เพราะมันไม่จำเป็น
"ครูก็ไม่ได้อยากใช้แรงงานคนป่วยมากนักนะ แต่ครูต้องวานให้เธอช่วยจริงๆ" ผมพยักหน้าน้อยๆเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร... เลิกสนใจอาการป่วยของผมเถอะ
"คือครูจะไม่อยู่สองอาทิตย์นะ ต้องไปสัมมนาต่างจังหวัด อย่างที่เธอรู้... ครูรับอาสาประจำชั้นห้องม.5/1 แทนครูแทยอนซึ่งนอนอยู่ที่โรงพยาบาลมาแล้วอาทิตย์นึง ครูเลยจะให้เธอไปโฮมรูมรักเรียนห้องม.5/1แทนครูทุกเช้าและเย็น ส่วนเอกสารโฮมรูมอยู่ในแฟ้มทั้งสามนี้จ้ะ" อาจารย์สาวร่ายยาว...
ผมก็พอเข้าใจได้อยู่นะว่าเธอคงไม่อยากทิ้งภาระหน้าที่ความรับผิดชอบที่เธออุตส่าห์รับปากอาจารย์แทยอนไว้เสียดิบดีว่าจะดูแลห้องให้ ในระหว่างที่เธอนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ทำไมต้องเป็นผม...
"ทำไมไม่ให้หัวหน้าห้องดูล่ะครับ?" หัวหน้าห้องที่ผมพูด หมายถึงทั้งหัวหน้าห้องของผม... ผู้หญิงที่บอกให้ผมมาพบอาจารย์ และอีกคนผมก็หมายถึงหัวหน้าห้องม.5/1 ผมว่าเค้าน่าจะดูแลห้องได้ไม่ใช่หรอ?
"มินอาหัวหน้าห้องเราก็ต้องดูแลห้องเราสิ" ผมส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่ใช่ ผมหมายถึงอีกคน ซึ่งอาจารย์ก็ร้องอ๋อขึ้นมา "ถ้าเธอหมายถึงหัวหน้าชั้นม.5/1 ล่ะก็... เค้าก็จะช่วยดูแลห้องนั้นอยู่แล้ว เพียงแต่เธอมีหน้าที่ไปโฮมรูมเช้าเย็น แจกงานแล้วเก็บงานมาส่งให้ครูเท่านั้นเอง ที่ให้เธอช่วยเพราะครูไว้ใจเธอถึงแม้เธอจะไม่ใช่หัวหน้าห้องหรือรองหัวหน้า แต่เธอก็ช่วยงานครูมาหลายครั้งแล้ว... ครั้งนี้ เธอช่วยครูได้ใช่มั้ย?" คำถามที่มันดูเหมือนเป็นการมัดมือชกผมไปในตัวถูกถามออกมา ขณะที่ผมได้แต่ถอนหายใจอีกรอบ
"ครับ" ว่าพลางรับเอาแฟ้มหนาๆตรงหน้านั่นมาถือไว้ก่อนจะโค้งลาอาจารย์ประจำชั้น... ก็คงต้องทำสินะ ช่างเถอะ มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากมายสำหรับเขาอยู่แล้ว ก็แค่โฮมรูม...
*
*
*
ในที่สุดวันแรกของสัปดาห์ที่อาจารย์ประจำชั้นเดินทางไปสัมมนาแล้วมอบหมายหน้าที่ให้เขาก็มาถึง... วันนี้เขามาถึงแต่เช้าพร้อมกับหน้ากากอนามัยเหมือนเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว รอยแผลฟกช้ำรอยเดิมจางลงไปมาก หากแต่มีรอยแผลถลอกรอยใหม่บนใบหน้าเพิ่มขึ้นมาเท่านั้น... เป็นแผลใหม่ที่เพิ่งได้รับมาเมื่อวานนี้ แต่โชคดีที่มันอยู่ตรงแก้ม ซึ่งถูกบดบังด้วยหน้ากากอนามัยนั่นเอง
ขายาวก้าวเข้ามาในห้องเรียนของม.5/1 ...ไม่ได้ทักใครเพราะไม่รู้จักใครที่นี่ และก็ไม่คิดว่าจะมีคนทักเขาด้วยเช่นกัน เขาเดินไปหยุดอยู่ที่หน้ากระดานดำ เหลือบตามองกราดไปที่นักเรียนในห้องที่มองเขาอยู่เช่นกัน ก่อนจะหันหน้าเข้ากระดานดำแล้วหยิบชอล์กสีขาวมาไว้ในมือ... ตัวหนังสือภาษาเกาหลีถูกเขียนลงบนกระดานดำทีละตัว
'โฮมรูม หยิบเอกสารหน้าห้องแล้วทำให้เสร็จภายในคาบโฮมรูม ส่งงานตอนหมดคาบ'
หลังจากเขียนเสร็จผมก็วางเอกสารบนโต๊ะอาจารย์ปึกหนึ่ง แล้วเดินกลับไปยืนที่ข้างกระดานดำ ...ถึงผมจะมาทำหน้าที่โฮมรูมแทนอาจารย์ แต่ผมก็รู้ดีว่าไม่ควรนั่งลงบนเก้าอี้อาจารย์ มันเป็นมารยาทที่ผมถูกสอนมาตั้งแต่เด็กๆ สายตาที่โผล่พ้นมาจากหน้ากากอนามัยนั่นมองไปยังนักเรียนในห้องที่ยังไม่มีใครขยับตัวเดินมาหยิบเอกสารแม้แต่คนเดียว... นั่นทำให้ผมถอนหายใจออกมาอย่างเสียไม่ได้
"ผมเก็บงานตรงเวลานะ" เสียงดังลอดผ่านหน้ากากอนามัยถูกส่งออกไป พลางก้มลงมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง ไม่นานนัก... นักเรียนหลายคนก็เริ่มลุกจากที่นั่งแล้วเดินมาหยิบกระดาษไป... แต่ก็ไม่วายพูดจากระแทกเขาอยู่ดี
"พูดได้หรอ... นึกว่าเป็นใบ้" ผมไม่ได้แม้แต่จะแลหางตาไปมองเจ้าของเสียงที่ดูเหมือนจะหาเรื่องนั่นหรอก... ที่ทำก็แค่เพียงเงียบเท่านั้น... ผมไม่อยากมีเรื่อง
อีกฝ่ายที่ดูเหมือนจะไม่พอใจ จิ๊ปากอย่างเสียหน้าเมื่อผมยังคงยืนนิ่ง เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม ก่อนจะเอ่ย
"ใครใช้เด็กม.4มาคุมม.5วะ เก่งมากนักไง?" ผมละสายตาจากรองเท้าของตนเองขึ้นมามองใบหน้าหาเรื่องนั่นอย่างเสียไม่ได้... ก็คิดว่าจะไม่มีเรื่องแล้วแท้ๆ
"ไม่ทำงานหรอครับ เสียเวลามามากแล้ว" ผมตอบกลับไปพลางจ้องตาคนตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว ก่อนที่มือหนาจะผลักเข้ามาที่ไหล่ผมอย่างแรงจนหลังผมติดกระดานดำ
"นี่ลีมินกิ! จะหาเรื่องอะไรอีก" เสียงทุ้มดังขึ้นที่หน้าประตูห้องก่อนเจ้าของเสียงจะเดินมายืนอยู่ระหว่างผมและผู้ชายตรงหน้า "ไปทำงานของตัวเองซะ ถ้าไม่อยากให้ฉันรายงานความประพฤติของนาย" ผู้ที่ถูกเอ่ยชื่อหันไปมองผู้มาใหม่ตาขวาง ก่อนจะจิ๊ปากด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ยอมเดินไปนั่งที่โต๊ะของตัวเองโดยดี ผมละสายตาจากผู้ชายคนเมื่อกี้ที่เลิกนั่งจ้องผมอยู่ที่โต๊ะแล้วก้มหน้าก้มตาขีดเขียนงานที่เพิ่งหยิบไปเมื่อครู่ ก่อนสายตาผมจะมาหยุดอยู่ที่ชายผู้มาใหม่ตรงหน้านี้แทน
"สวัสดี พี่เป็นหัวหน้าห้องนี้นะ" ประโยคทักทายถูกเอ่ยขึ้น ก่อนจะตามด้วยมือหนาที่ยื่นออกมาราวกับจะขอเช็คแฮนด์ "พี่ชื่อมาร์คนะ"
"สวัสดีครับ..." ผมโค้งเล็กน้อยโดยที่ไม่ได้ยื่นมือออกไปจับตอบ นั่นทำให้หัวหน้าห้องหรือก็คือผู้ชายที่ชื่อมาร์คตรงหน้าต้องหดมือกลับอย่างเสียไม่ได้ "ผมมาโฮมรูมแทนอาจารย์ยุนอา" ว่าพลางพยักเพยิดไปทางกองเอกสารบนโต๊ะ
"อาจารย์บอกพี่แล้วนะ... กันต์พิมุกต์?" ผมหันไปมองหน้าเขาก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ... ไม่แปลกใจนักหรอกที่เขาจะรู้ชื่อผม... ก็ชื่อผมอยู่บนป้ายชื่อที่ติดอยู่ตรงหน้าอกนี่ไงครับ ผมไม่ชอบแนะนำตัวกับใคร ถึงผมไม่บอกแต่เขาก็น่าจะหาชื่อผมจากป้ายชื่อได้ไม่ยากนักหรอก ในเมื่อผมเองยังมองป้ายชื่อเขาเลย... มาร์ค ต้วน ผมเห็นตั้งแต่เขาคุยกับผู้ชายที่หาเรื่องผมแล้ว
เขาเดินไปที่โต๊ะของตัวเองวางกระเป๋าแล้วเดินมาหยิบเอกสารที่โต๊ะอาจารย์ก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าผมอีกครั้ง
"ไม่เมื่อยหรอ?" ไม่พูดเปล่า คว้าเอาข้อมือผมไปก่อนจะออกแรงดึง ผมขืนไว้แล้วมองหน้าเขา "จะพาไปนั่ง" เขาเอ่ยเมื่อเห็นว่าผมไม่ยอมตามเขาไปง่ายๆแน่
"ไม่เป็นไรผมยืนได้" ว่าพลางบิดมือจนหลุดจากการจับกุมนั่นได้โดยง่าย มาร์คชะงักเล็กน้อยอย่างทึ่งๆกับคนตรงหน้า
"ไม่ได้หรอก อาจารย์ยุนอาบอกว่านายไม่สบายอยู่ไม่ใช่หรอ" ผมหลับตาแล้วกรอกตาไปมา... โอเค ผมจะไม่เถียงมาก เพราะเขาจะได้ไม่ต้องถามขึ้นมาเกี่ยวกับหน้ากากอนามัยที่ผมใส่...ถ้าผมบอกว่าผมสบายดี ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร
"โอเค... นั่งตรงไหนล่ะครับ?" รอยยิ้มปรากฏบนในหน้าหล่อเหลาก่อนจะผายมือไปทางโต๊ะเรียนของตัวเอง
"นั่งตรงนี้เลย" ว่าพลางกดไหล่ร่างบางให้นั่งลง ก่อนจะนั่งลงข้างๆตามมา
"ตอนรอเก็บงานก็มานั่งตรงนี้ทุกวันเลยนะ มันเป็นที่ว่างไม่มีคนนั่งหรอก" เหลือบตาไปองคนข้างๆเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
เสียงชวนคุยยังคงดังต่อเนื่องจนผมต้องกรอกตาไปมา... จะสงสัยอะไรนักหนา คิดผิดหรือเปล่านะที่ตามคนๆนี้มานั่งตรงนี้ บอกไปว่าไม่ได้เป็นอะไรแต่แรกจะดีกว่านี้มั้ยนะ... เฮ้อ
"ใกล้หมดคาบแล้วรีบทำเถอะครับ" ผมว่าก่อนจะยกนาฬิกาขึ้นมาดู อยากจะให้คนข้างๆหยุดถามสักที ผมไม่ใช่คนพูดมาก และผมลำบากใจที่จะพูดอะไรมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่ไม่สนิท
"พี่ทำเสร็จตั้งนานแล้วน่ะ... ถึงได้ชวนเราคุยไง" ผมชะงักก่อนจะเหลือบตาไปมองกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะของคนข้างๆ... เสร็จแล้วจริงๆด้วย "ส่งเลยได้ใช่มั๊ย?" เขาถามพลางเลื่อนกระดาษมาตรงหน้าผม ผมพยักหน้ารับก่อนที่จะวางมือทับกระดาษตรงหน้า... ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะอ่านหรอกนะ ถ้าไม่ได้มีตัวหนังสือที่เขียนด้วยดินสออยู่ตรงหัวมุมด้านล่างกระดาษแบบนี้... มันไม่ใช่คำตอบของคำถามในกระดาษของวิชาโฮมรูม แต่กลับเป็นประโยคสั้นๆจากคนข้างๆแทน
'ยินดีที่ได้รู้จักนะกันต์พิมุกต์'
ผมละสายตาจากข้อความนั้นก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบยางลบบนโต๊ะของคนข้างๆอย่างถือวิสาสะ แล้วลบข้อความนั้นทิ้งไปจนสะอาดหมดจด คนข้างๆหน้าเสียนิดหน่อย ผมสังเกตเห็นได้จากทางหางตา
"เดี๋ยวโดนอาจารย์หักคะแนน" ผมเอ่ยเบาๆ... จริงๆผมจะไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรถ้าจะมีคนเขียนอะไรนอกเหนือจากคำตอบลงไปบนกระดาษคำตอบ เพราะบางทีก็มีคนวาดรูป เขียนอะไรไร้สาระ บลาๆๆ เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว แต่ที่ต้องลบออกเพราะ... มันมีชื่อผมไปปรากฏอยู่ด้วยน่ะสิ... ผมขี้เกียจมานั่งตอบคำถามอาจารย์
เสียงหัวเราะดังตามมาเบาๆเช่นกัน ก่อนที่ผมจะหยิบกระดาษแล้วลุกขึ้นไปยืนหน้าห้องประจำที่เพื่อแสดงให้รู้ว่าใกล้ถึงเวลาส่งงานแล้ว ผมวางกระดาษคำตอบของหัวหน้าห้องไว้เป็นตัวอย่างให้คนอื่นๆมาวางส่งตาม
ผมนับกระดาษจากทางสายตาเมื่อคนทยอยเดินมาส่ง ห้องนี้มีทั้งหมด 45 คน ตอนนี้ส่งมาแล้ว 44 คน เหลืออีกคนที่ผมยังไม่เห็นเขาเดินมาส่ง... ผมมองดูนาฬิกาก็พบว่าเหลืออีก 3 นาที ก่อนจะเงยหน้าไปมองบุคคลที่ไม่ยอมลุกมาส่งสักทีทั้งๆที่ดูเหมือนว่าเขาจะทำเสร็จตั้งนานแล้ว แต่เขาก็ยังคงทำหน้าตากวนประสาทมาที่ผมอยู่ไม่วางตา...
ไม่ต้องเดาก็รู้... คนที่หาเรื่องผมเมื่อตอนเข้าคาบโฮมรูมนั่นแหละ... ลีมินกิ
"หนึ่งนาทีสุดท้าย" ผมเอ่ยเมื่อตัวเลขบนหน้าปัดนาฬิกากำลังเดินเข้าสู่ช่วงนาทีสุดท้ายก่อนหมดคาบ ตอนนี้ทั้งห้องมองไปที่มินกิเป็นตาเดียว... เพราะบนโต๊ะของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังมีกระดาษคำตอบวางอยู่ จนเพื่อนๆบางคนถึงกับร้องบอกให้เขาเดินไปส่ง บางคนก็ด่าเขาบ้าง ว่าเขาบ้าง แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะสนใจ เล่นเกมจ้องตากับผมอยู่อย่างนั้น...
"10วิ" ผมพึมพำก่อนจะรวบเอาเอกสารบนโต๊ะทั้งหมดขึ้นเคาะกับโต๊ะเบาๆเพื่อจัดระเบียบ ก่อนเสียงออดจะดังขึ้นบอกเวลาหมดคาบโฮมรูม ผมจ้องมองเขาอีกครั้งก่อนจะละสายตาและเตรียมตัวจะเดินออกจากห้อง
"ยังเก็บไม่ครบเลยนี่หว่า!" เสียงดังตะโกนบอกจากปากมินกิ ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินอาดๆมาพร้อมกับกระดาษคำตอบในมืออย่างหาเรื่อง ผมเหลือบตาไปมองนิ่งจนเขาโมโห สะบัดกระดาษในมือใส่หน้าผม และมันก็เฉี่ยวเข้าที่ใต้ตาเหนือโหนกแก้มผมพอดี... ก่อนจะรู้สึกแสบเบาๆที่หน้า...
กระดาษบาดสินะ…
ผมมองกระดาษที่ปลิวตกไปที่พื้นข้างๆตัวก่อนจะมองหน้าคนตรงหน้าด้วยแววตาแข็งกร้าว จนคนที่ถูกมองผงะไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่นาน
"เก็บสิวะ" น้ำเสียงเย้ยหยันของมินกิดังขึ้น ก่อนที่จะได้ยินเสียงของหัวหน้าห้องดังตามมาแทบจะทันที
"มินกิ ฉันเตือนนายแล้วนะ!" ร่างสูงลุกจากโต๊ะและเดินเข้ามา
"เงียบไปเลยไอ้หัวหน้าห้อง!" มินกิหันไปตวาดหัวหน้าห้องของตนเองอย่างเอาเรื่อง "ไม่ใช่เรื่องของแก" ก่อนที่มาร์คจะได้พูดอะไรต่อ ผมก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน
"ผมไม่รับงานที่ส่งเกินเวลา... ขอตัว" ว่าพลางเดินไปที่ประตูโดยที่ข้ามกระดาษคำตอบแผ่นนั้นที่นอนแอ้งแม้งอยู่ที่พื้นไปอย่างไม่แยแส...
ไวเท่าความคิดมินกิกระชากไหล่ผม ก่อนที่หมัดลุ่นๆจะถูกปล่อยออกมาใส่ผม... ผมเอี้ยวตัวหลบตามสัญชาติญาณก่อนจะหันไป แล้วใช้มือข้างเดียวถือปึกกระดาษไว้ และอีกมือก็ออกแรงชกไปที่ใบหน้าเหวอนั่น
แววตาสั่นระริกกำลังมองมาที่กำปั้นตรงหน้าซึ่งห่างจากใบหน้าไม่เกินหนึ่งเซ็น... ผมไม่ได้ต่อยตามแรงที่ผมตั้งใจ แต่กลับหยุดชะงักหมัดของตัวเองไว้ ก่อนจะโดนหน้าอีกฝ่าย มีเพียงแค่ลมเบาๆปะทะกับใบหน้านั่นเท่านั้นที่รู้ว่าถ้าหากโดนหมัดนี้ไปคงจะเจ็บน่าดู
"ถ้าอยากส่งก็หยิบขึ้นมา" ผมลดหมัดลงจากใบหน้านั่น
"จะนับแค่สาม" มินกิยังคงยืนนิ่ง ใบหน้าแดงก่ำ...ไม่แน่ใจว่าเพราะโกรธหรืออาย... เขาขบฟันกรามจนขึ้นเป็นสัน และเมื่อผมเห็นว่าเขาไม่แม้แต่จะก้มลงไปหยิบ...
"สาม" ผมพูดก่อนที่จะหันหลังเดินออกจากห้องไปทันที แล้วก็ได้ยินเสียงโห่ร้องดังตามมาหลังจากที่ผมเดินออกมาไม่เกิน5ก้าว
'ไหนบอกจะนับถึงสามไงวะ!' เสียงแว่วๆดังมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเสียงคู่กรณี
'สมน้ำหน้ามึง!' และนี่คือเสียงของเพื่อนในห้องคนอื่นๆ
ผมบอกตอนไหนว่าจะนับถึงสาม...
ผมพูดว่า 'จะนับแค่สาม’
#ฟิคสั้นมาร์คแบม
รักกกกกกกกกกกก รักแบมมมมมมมมมมมมมม
ตอบลบแบม สุดยอดอ่าาาาา
ตอบลบแบม สุดยอดอ่าาาาา
ตอบลบ