ฟิคกระเรียน = เกรียนฟิค
#ฟิคกระเรียน
-4-
LOTUS X 2
เช้าวันรุ่งขึ้นไอ้ยักษ์แม่งก็โทรมาบ่นผมใหญ่ เอาจริงๆมันก็ไม่ใช่ตอนเช้าหรอก เพราะแม่งหลับยาวยันเที่ยง คือคืนนั้นพอไอ้พี่มาร์คมันมาส่งผมที่หอเสร็จช้ะ... มันก็บอกมันจะกลับหอเลย สรุปคือไม่มีเหล้ามาต่ออายุไอ้เชี่ยยูคมัน เลยหลับสนิทศิษย์ส่ายหน้า แล้วอย่าถามถึงอีพี่หวัง รายนั้นให้มันหลับไปนานๆน่ะดีแล้ว ส่วนอีพี่เจบีและเมียมัน ก็คงจะสวีทกันจนลืมเหล้าที่ใช้ให้ผมไปซื้อมานั่นแหละ... แล้วก็ไม่ต้องถามถึงพี่ยองแจ รายนั้นไม่ได้มาด้วยตั้งแต่ต้นจ้า... เขาบอก เขากินเหล้าไม่เป็น...
กูไม่เชื่อ! บอกเลย... ดูจากหน้าล้ะ กูว่าคอทองแดง ยองแจใสใสไม่มีจริง...
เข้าเรื่องไอ้ยักษ์ต่อนะ... มันบ่นผมว่าไม่ยอมลากมันกลับหอมาด้วย เอ้า! คือกูผิดป้ะ กูกับมึงก็ไม่ได้อยู่หอเดียวกันเลยนะเว้ย! คือถึงอยู่หอเดียวกันกูก็ไม่สามารถลากมึงมาจนถึงหอได้หรอก ตัวมึงอย่างกับควาย ให้มึงขี่หลังกูคงโดนทับตายอยู่หน้าประตูห้องอีพี่หวังมันนั่นแหละ
ผมด่ามันไปยกนึง เอาจริงๆผมเข้าใจมันนะ เป็นเพื่อนกันมานาน ไอ้ที่มันชอบด่าผม บ่นผมเนี่ย จริงๆแล้วแม่งโคตรเป็นห่วงผมอ่ะ ไอ้ที่ด่าที่บ่นว่าไม่ยอมพามันกลับด้วย เพราะมันเป็นห่วงว่าผมจะกลับยังไง กลับคนเดียว มืดๆค่ำๆ จะอันตรายมั้ย... แต่ไอ้การที่จะมานั่งพูดจาถามไถ่ด้วยความห่วงใยแบบมุ้งมิ้งๆ มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นกับพวกผมหรอก... ถ้าวันไหนพูดหวานๆใส่กันนั่นแปลว่า... มึงกำลังหลอกกูววว พวกผมต่างรู้นิสัยของกันและกันดี ดังนั้นผมก็เลยด่ามันไปด้วยความขอบคุณที่มันห่วงผมอีกหนึ่งยก ฮ่าาาาา
“พี่มาร์คแม่งทำคะแนนหรอวะ?” จู่ๆไอ้ยักษ์ก็พูดขึ้นหลังจากที่ผมเล่าให้มันฟังเรื่องที่อีพี่หัวแดงแม่งไปส่งที่หอ...
เล่าแต่น้ำ รายละเอียดไม่ได้ใส่ลงไป... เช่นว่าโดนจับมือ โดนหยอด โดนกอดไรงี้ ไม่ได้พูดไปหรอก ขืนบอกเชี่ยยูคแม่งก็ล้ออีก น่ารำคาญแม่ง
“ทำห่าไร... แม่งจะแดกหัวกูอยู่รอมร่อ” ผมเบะปากใส่โทรศัพท์ราวกับว่าไอ้คนปลายสายมันจะเห็นงั้นแหละ
“แล้วพี่มันได้แดกยังล่ะ?” ไอ้เชี่ยยูค แม้ตอนนี้กูกับมึงจะคุยกันผ่านโทรศัพท์แต่กูรู้เลยว่าตอนมึงถามคำถามนี้ หน้าตามึงกวนส้นตีนกูขนาดไหน
“แดกพ่องงงงง” เสียดาย...ถ้ามึงอยู่ตรงนี้กูจะยกส้นตีนถีบยอดหน้ามึงเลยเอา!... มันหัวเราะใส่ผมใหญ่เลย สัส! กูเนี่ยจะแดกหัวมึง อย่าให้กูเจอนะ
“เออมึง เมื่อวานลืมบอกไป...” อยู่ๆไอ้ยักษ์มันก็โพล่งขึ้นมาหลังจากหัวเราะอยู่พักใหญ่
“เค้าเปิดพี่ระเบียบกันแล้วนะมึง หมดรับน้องแล้ว”
“พ่องงงงงง” ไอ้เย้ดเข้!!! หมดรับน้อง... เปิดพี่ระเบียบ คืออะไร๊???? ทำไมกูต้องมาโดนทำโทษไอ้วันที่กูสมควรจะได้อยู่ดูพี่ระเบียบแม่งหลุดมาดขรึมสุดตรีนวะ! กูอยากจะแซวพวกพี่ว้ากแม่งสักหน่อย... อดเลย แม่ง พูดแล้วก็คันปาก
“ด่ากูหรือด่าใคร?”
“ทุกคน! กูนอยด์แดกนะมึง... คิดดู กูพลาดมากอ่ะ เชี่ย! โมเมนต์ปล่อยผีของอีพวกพี่ว้ากอ่ะ กูอยากเห็นนนนน” ผมร้องโอดครวญยกใหญ่ แต่จะว่าไปผมก็เห็นมาดหลุดๆของพี่ว้ากไปแล้วหนึ่งคนคืออีพี่เจบี... ว่าล้ะ ทำไมให้กูเรียกเจบี ไม่ให้เรียกแจบอม ที่แท้หน้าที่พี่’เบียบมึงหมดไปแล้วเมื่อวานสินะ...
ฟรวยยยยย
“พี่แม่งไม่ปล่อยของไรกันมากหรอกมึง... มันบอกให้ปีหนึ่งเข้าภาค แล้วทำกิจกรรมในภาคต่อ พี่’เบียบแม่งเลยต้องรับหน้าที่ดูแลปีหนึ่งต่ออีก แล้วแต่ภาคใครภาคมัน”
“แล้วภาคเรานี่... มีพี่แม่งกี่คน...”
“ถ้าพี่’เบียบนะ... กูรู้จักแค่พี่แจบอมกับพี่แจ็คสัน สองคนเนี้ยอยู่ภาคเรา”
ไอ้เชี่ยยยยยย พี่เจบีคนชิคกูยังพอเชื่อ... แต่ไอ้เชี่ยพี่หวังนี่คือไร? ตอบ!!!!
“ใครเลือกไอ้พี่หวังมาเป็นพี่’เบียบวะมึง แล้วทำไมตอนรับน้องกูไม่เคยสังเกตเลยวะว่าพี่แม่งเป็นพี่ว้ากด้วย”
“ก็มึงโง่ไง” พ่องงงงงงงง
“ช่างแม่ง... ไหนๆก็จบรับน้องแล้ว กูจะตั้งใจเรียนล้ะมึง”
“อย่ามาแหล... แค่มึงอ้าปากกูก็เห็นลิ้นปี่มึงแล้ว” ลิ้นไก่ป้ะวะ สัส!
“เชี่ยยยยยย กูจะไปหาไรแดกล้ะ นี่มันเลยเที่ยงมาสองชั่วโมงแล้ว แค่นี้นะ บายยย” ผมตัดสายมันไปทันที ให้ตายเหอะ...
ผมเดินลงจากหอมาหาอะไรกินแถวๆนั้น... ร้านข้าวแม่งก็มีให้เลือกเยอะเหลื้อเกิ้นนน
ประชด! แหม่และแต่ละร้าน... ไม่คนเต็ม ก็ไม่มีคน... ไอ้ร้านที่คนเต็มมันก็ต้องรอคิว... ส่วนไอ้ร้านที่ไม่มีคน แม่งก็แดกไม่ได้... รสชาติส้นตีนมากบอกเลย! เชี่ยเอ้ย เซเว่นคือที่พึ่งสุดท้ายสำหรับกูสินะ... อย่างน้อยแม่งก็มีให้เลือกหลายอย่าง...
ไอ้โน่นก็น่ากิน ไอ้นี่ก็น่าอร่อย... แต่ทำไมกูถึงเลือกเอาไอ้นี่มากดน้ำร้อนใส่วะ พ่องงงง มาม่าอีกแล้วว บ้านกูก็ไม่ได้ยากจนนะ แต่ทำไมช่วงหลังๆมานี้แดกแม่งบ่อยเกินไปล้ะ ผมกูจะร่วงหมดหัวแล้วเนี่ย!!
ผมเดินถือถ้วยมาม่าที่ในถ้วยบรรจุน้ำร้อนเอาไว้ ฝาถูกปิดไว้เพื่อให้เส้นด้านในสุกเร็วยิ่งขึ้น... อืมม ไหนๆก็ซื้อมาแล้ว ขอกินให้อร่อยสักทีเถอะ... ระหว่างที่ผมคิดอะไรเพลินๆ พลางเดินถือถ้วยมาม่าออกมาจากเซเว่น และกำลังจะเดินข้ามถนน แต่ก็ไม่ทันได้หันไปมองรถมองราให้ดีก่อนจะข้าม ใจมันลอยไปอยู่กับเส้นในถ้วยหมดแล้ว ก็มีมอเตอร์ไซค์คันนึงขี่มาอย่างไว ชั่ววินาทีที่ผมเห็นมอ’ไซคันนั้นมันขี่เข้ามาเกือบจะชนก็มีใครที่ไหนไม่รู้มาดึงผมออกไปจากวิถีมอ’ไซคันนั้น
ช่าาาาา
“โอ้ยเชี่ย!” ผมสบถออกมาอย่างเสียไม่ได้ ไม่ใช่ว่าด่าไอ้คนที่มาช่วยผมไว้นะ... แต่ที่ร้องเพราะมันร้อน!!
น้ำร้อนจากถ้วยมาม่ามันหกราดรดมือผมท่วมเลย เกิดจากแรงกระชากตัวให้หลบรถเมื่อกี้นี้แหละ... ฮือออออ กูเริ่มแสบล้ะนะแม่ง ทำไมกูไม่เลือกแดกอะไรที่มันไม่ใช่น้ำวะ ย้อนเวลากลับไปซื้อของกินใหม่ได้มั้ย? อยากจิครายยยย T^T
ผมทำหน้าเหยเกมองมือตัวเองที่ตอนนี้เริ่มมีรอยแดงปรากฏเห็นเด่นชัดขึ้นมาแล้ว...
หมับ
ข้อมืออีกข้างที่ไม่โดนน้ำร้อนลวกถูกฉุดให้ออกเดิน ผมเงยหน้ามองไล่ไปตามมือที่จับผมอยู่ ก่อนจะไปสะดุดตากับสีผมของคนที่ลากผมอยู่ข้างหน้า... เชี่ยยยย อย่าบอกนะว่า...
“ทำไมไม่ระวัง?” ผมนั่งตัวแข็งทื่อมองพี่มาร์คที่ตอนนี้ทำหน้าราวกับโกรธใครมาสิบชาติ... หลังจากที่พี่มันจับผมนั่งลงที่ม้าหินอ่อนข้างๆเซเว่นแล้วมันก็เอามือผมไปตรวจดูความเสียหายที่เกิดจากน้ำร้อนทันที
“พะ..พี่มาทำไรแถวนี้?” ผมรวบรวมความกล้าเอ่ยถามพี่มันไป.. ต้องอาศัยจังหวะที่มันก้มมองมือผมด้วยนะ เพราะถ้ามันมองหน้าผมอยู่ผมก็จะไม่กล้าพูดอะไร...กลัวสายตาแม่ง
“ดีนะที่น้ำมันไม่ร้อนเท่าไหร่” พี่มันไม่ตอบผมแต่กลับมายุ่งวุ่นวายที่มือผมข้างที่โดนน้ำร้อนลวกไป... มึงรู้ได้ไงว่าไม่ร้อน ตอนนี้กูแสบมากเหอะ T^T
ผมเบะปากไปทางพี่มันก่อนจะดึงมือตัวเองออกมาจากมือพี่มันแล้วเปิดขวดน้ำที่ซื้อมาด้วยกันพร้อมมาม่าแล้วเทราดลงไปที่มือตัวเอง... เฮ่อออ ค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อย ดีที่น้ำมันเย็น... ผมเป่าปากอย่างรู้สึกดีกับมือตัวเอง คือยังไงอ่ะ มันก็เย็นกว่าตอนโดนน้ำร้อนลวกเป็นไหนๆ
“พี่รู้มะ เวลาโดนน้ำร้อนลวกนะ เค้าจะใช้ว่านหางจระเข้มาทากัน” ปากผมก็พูดไปมือผมก็ยังคงเทน้ำในขวดใส่มือตัวเองอยู่ พอดีมันนึกขึ้นได้ว่าเมื่อเด็กๆผมเคยโดนน้ำร้อนลวกแบบนี้แหละ ด้วยความซนเกินเหตุ แม่ผมก็เอาว่านหางจระเข้ที่ไปตัดมาจากสวนหลังบ้านมาฝานแล้วทาให้ ตอนนั้นผมลืมเจ็บไปเลยเพราะชื่อว่านผมก็กลัวแล้ว ฮ่าๆๆๆ
“....” พี่มาร์คไม่ตอบ ผมก็ไม่ได้อยากให้พี่มันพูดอะไรสักหน่อย... แค่จะเล่าให้ฟังเฉยๆ จะว่าไปแถวนี้ไม่เห็นมีว่านหางจระเข้เลย สงสัยต้องไปเอาที่บ้านมาปลูกไว้ที่หอบ้างแล้วล่ะมั้ง... แต่ยาสีฟันก็ใช้ได้เหมือนกันนี่ เออ ไปเอายาสีฟันบนห้องทาซ้ำหน่อยดีกว่า เพื่อความสบายใจของกรูเอง
“พี่งั้นผมไปก่อนนะ” ผมปิดฝาขวดน้ำในมือที่เหลืออยู่ค่อนขวดแล้วหันไปบอกลาพี่มาร์ค แต่ก็ต้องสตั๊นไปหลายวิเมื่อเห็นสายตาแปลกๆ คือมันไม่ใช่สายตาที่ดุผมเหมือนทุกที... ถ้าผมไม่ได้คิดไปเอง มันเหมือนสายตาของพี่คุณเวลามองผมทำอะไรนู่นนี่นั่น... สายตาแบบที่เรียกว่า ‘เอ็นดู’
“จะไปไหน?”
“ก็ว่าจะขึ้นหอไปเอายาสีฟันทา” ผมชูมือข้างที่เปียกน้ำขึ้นทางพี่มัน แม้ตอนนี้มันจะยังแดงๆอยู่ แต่ก็ไม่แสบเท่าไหร่แล้ว ก็อย่างที่พี่มาร์คมันบอกแหละ น้ำมันไม่ได้ร้อนมาก ไม่ใช่น้ำเดือดๆหนึ่งร้อยองศาอะไรแบบนั้น
“อืม” พี่มันรับคำ ผมพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นยืน “อยู่ห้องไหน?” พี่มันยืนขึ้นตามมาบ้าง ผมเลิกคิ้วไปมองมันอย่างสงสัย... เอ่ออ ถามอย่างนี้คือ?
“ถามทำไม? จะมาปล้นห้องผมหรอ?” กวนตีนไประดับสี่ ในใจก็กลัวนะ แต่ขอโทษทีปากมันไว...
“......” โอเคจย้าาาา หน้าตึงมาเชียะ กูรู้แล้วจ้าว่ามึงไม่เล่น... ฮ่วย
“ผมอยู่ชั้น 4 ห้อง 411 พี่จะไปห้องผมด้วยกันป้ะล่ะ?” ผมไม่ได้แรดน้ะ ชวนผู้ชายขึ้นห้อง แต่ผมก็ไม่เข้าใจจริงๆว่าพี่มันจะถามห้องผมไปทำไม ถ้าไม่ได้อยากรู้... หรือไม่ได้อยากจะไป...
“......” เงียบคือคำตอบของมึงสินะ พ่องงงงงงง
“โอเค งั้นผมไปก่อนนะ” ผมผละจะเดินออกแต่ก็นึกขึ้นได้ว่าลืมอะไร “อ้อ! ขอบคุณที่ช่วยผมจากมอ’ไซเมื่อกี้นะพี่มาร์ค” ผมยิ้มให้ไปทีนึงแล้วก็เดินออกมาเลย...
ระหว่างเดินกลับหอไปผมก็คิดไปพลาง... แล้วยาสีฟันห้องกูมันสูตรอะไรวะ... คือผมเป็นคนชอบเปลี่ยนยาสีฟันด้วยสิ คือไม่ชอบใช้ยี่ห้อเดิมซ้ำๆ หมดแล้วก็เปลี่ยนยี่ห้อไปเรื่อยๆ แต่เมื่อเช้าตอนแปลงฟันก็จำได้ว่ายาสีฟันในห้องน้ำมันจะหมดแล้ว บีบจนแบนแต๊ดแต๋ จะเหลือให้กูทารึเปล่าวะ? คิดไปคิดมาก็มายืนอยู่หน้าห้องตัวเองแล้ว..
ผมเปิดประตูห้องแล้วตรงเข้าไปที่ห้องน้ำอย่างไม่ลังเล แล้วก็ต้องงิ่ดแดก เมื่อเห็นหลอดยาสีฟันที่ห้องน้ำตัวเอง... เอิ่ม... แบนขนาดนี้ บอกเลยว่ากูเป็นคนประหยัดมาก ผมพยายามบีบหลอดยาสีฟันแบนๆ จากที่มันแบนอยู่แล้วจนนิ้วล็อค เว่อร์ไป..
จนในที่สุด.... เชี่ยยย ได้มาก้อนนึง ก้อนเล็กๆ...พ่องงงง
เฮ้ย! แต่กูเหมือนจะจำได้ว่ามียาสีฟันเก็บสำรองอยู่ในตู้นี่นา... ว่าแล้วผมก็เอานิ้วของตัวเองที่มียาสีฟันก้อนน้อยๆอยู่ล้างมันไปกับสายน้ำ แล้วจัดการเอาหลอดยาสีฟันแบนๆใส่ถังขยะใต้ซิงค์ทันที... ก่อนจะเดินไปเปิดตู้ในห้องครัวที่ผมมักจะเอาของใช้อะไรหลายๆอย่างใส่ไว้
รื้อๆ ค้นๆ จนกระทั่งเจอกับหลอดยาสีฟัน... จำได้แล้ว วันนั้นพ่อกลับไปไทยเลยซื้อมาฝาก นี่ก็เก็บจนลืมไปแล้วสินะ... แต่...
ยาสีฟันที่ไทยแม่ง... ทำร้ายกู
ดอกบัวคู่...
ไอ้สัส
แล้วมันจะเย็นให้กูป่าวว้ะ?
RRRrrrr
ไม่ทันได้ลองบีบยาสีฟันสีน้ำตาลในมือมาทาที่แขน เสียงโทรศัพท์ก็ดันดังขึ้นมาซะก่อน พอหยิบออกมาดูก็เห็นว่าเป็นไอ้เชี่ยยักษ์โทรมา... แม่งเหมือนรู้เลยว่ากูมีเรื่อง
“ว่าไงมึง?”
“มึง คืนนี้ว่างป้ะ?” คืนนี้? ถามแบบนี้แสดงว่ามีอะไรสินะ จะพากูไปไหนอีก...
“ก็ว่างอ่ะ ทำไม? มีอะไร?”
“ว่าจะชวนไปดริ๊งค์” กูว่าแล้ว...
“เมื่อวานไม่หนำใจใช่อ้ะ? ถ้าไปแล้วมึงหลับคาโต๊ะกูไม่ปลุกนะบอกเลย”
“เออน่า ตกลงไปช้ะ?”
“เออ ไปก็ไป มารับด้วย”
“งั้นเดี๋ยวถึงหอมึงแล้วกูโทรหา” ผมรับคำมันก่อนจะยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงดังเดิม
เอิบบบ แล้วยาสีฟันนี่เอาไงดี กูจะทดลองเอาดอกบัวคู่มาป้ายเล่นที่แขนดีมั้ย? แต่คิดอีกทีคือไม่เอาดีกว่า... สีแม่งเหมือนขี้เลย ทำใจใช้มันไม่ได้เลย ทั้งทาแขน และทั้งแปรงฟัน... ชีวิตกันต์พิมุกต์มีอะไรให้สนุกทุกวันเบยยย
“กูคงต้องลงไปเซเว่นอีกรอบสินะ” ทั้งซื้อยาสีฟันใหม่.. และซื้อข้าวแดก เชี่ยหิวจะตายอยู่แล้ว
เมื่อคิดได้ดังนั้นก็วางหลอดยาสีฟันไว้ที่เคาท์เตอร์ห้องครัว... กลับมากูค่อยคิดว่าจะทำไงกับมึงดี ถ่ายรูปอัพลง IG แล้วแคปชั่นว่า ดอกบัวX2 ดีมั้ย? เอาให้คนเกาหลีแม่งงงกันไปเลยว่าประเทศไทยเอาขี้มาทำยาสีฟัน ฮ่วยยย หรือกูจะรีวิวยาสีฟันยี่ห้อนี้ดีนะ... พอล้ะ... ไปเซเว่นดีกว่า
ผมเดินออกจากห้องตัวเองอย่างเสียไม่ได้ ท้องก็ร้องโครกครากกกก ตอนนี้หิวจนจะแดกช้างได้ทั้งตัวล้ะ แต่เมื่อผมปิดประตูห้องของตัวเองก็ต้องแปลกใจกับถุงพลาสติกสีขาวขุ่น ซึ่งถูกแขวนอยู่ที่ลูกบิดประตูหน้าห้อง
“ของอะไรของใครเค้าวะ” ว่าพลางแหวกถุงดูของในนั้น เฮ้ย... นั่นมันกล่องยาสีฟันป้ะวะ
ผมยกถุงออกจากลูกบิดก่อนจะอ้าถุงเพื่อดูให้ถนัดถนี่ แล้วหยิบเอากล่องยาสีฟันขนาดใหญ่ขึ้นมาถือไว้ในมือข้างหนึ่ง แล้วจึงหยิบเอากล่องเล็กๆอีกกล่องขึ้นมาตรวจดู... นี่มันยาทา... สำหรับโดนน้ำร้อนลวก
เอิบบบบ... ความคิดแรกที่แว๊บขึ้นมาในหัวคือ... พี่มาร์ค
ในถุงพลาสติกยังมีกล่องพลาสติกอีกกล่องนอนแอ้งแม้งอยู่ล่างสุดของถุง หืมม... กลิ่นนี้มัน...
“เชี่ย แม่ง... ซื้อข้าวมาให้ด้วยหรอวะ?” ไม่ต้องเปิดดูก็รู้ว่าข้างในกล่องเป็นอะไร แค่ขยับฝากล่องหน่อยๆกลิ่นมันก็ออกมาจนทะลุจมูก แถมด้วยพอเอามือรองใต้กล่องก็ยังคงอุ่นๆอยู่
ผมละสายตาจากกล่องข้าวในมือ แล้วมองซ้ายขวาเพื่อหาเจ้าของถุงพลาสติกอันนี้ แต่ก็ว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่แถวนั้นเลยสักคน จะใช่ไอ้พี่หัวแดงนั่นมั้ยนะ? มันก็ไม่แปลกถ้าผมจะคิดว่าเป็นมัน... ก็มันเพิ่งถามผมไปนี่ว่าผมอยู่ห้องไหน แล้วอีกอย่าง มันก็เป็นคนเดียวที่รู้ว่าผมโดนน้ำร้อนลวกป้ะ
ยังไม่ทันให้ได้คิดอะไรต่อไป เสียงท้องผมก็ร้องโครกครากออกมาอีกรอบ โอยยย อย่าร้องนะลูก... ว่าพลางเอามือลูบท้องตัวเองปอยๆ ก่อนจะเปิดประตูห้องแล้วพาตัวเองไปที่ห้องครัว
ไหนๆก็ไหนๆแล้วนะ... กูแดกล่ะ หิวมาก
.
.
.
ไม่ค่อยเลยน่ะพี่มาร์คคคคคคคคคคคคคคคคค
ตอบลบทำเป็นเข้มนะพี่มาร์ค แอบส่งข้าวส่งยาคือระะ
ตอบลบพี่มาร์คน่ารักอะะะะ
ตอบลบว้ายๆ แบมจะเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ววว😆
ตอบลบ