ฟิคกระเรียน = เกรียนฟิค
#ฟิคกระเรียน
-2-
Jinyoung
ปัง ปัง ปัง ปัง!!!!!
“เหี้ย แหก หอก อะไรวะแม่ง!” คำอุทานที่มันมักจะออกจากปากผมเวลาผมตกใจหลุดออกมาอย่างห้ามไม่ได้...
ไอ้สัส ใครเอาประทัดมาจุดข้างกูวะ ถึงกูจะมองอะไรไม่เห็นแต่หูกูไม่หนวกที่จะไม่รู้ว่ามันดังปังๆอยู่ข้างๆกูเนี่ยยยย อีเชี่ยยยย ตกใจหมด
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู...” เสียงเพลงชาติ เอ้ยเพลงวันเกิดดังขึ้นข้างหน้าผมพร้อมกับแสงเทียน ก่อนจะเห็นลางๆว่ามีเงาของอีกหลายๆคนเดินตรงเข้ามาทางผม... อ้าวนี่กูมองเห็นนิ่ กูไม่ได้ถูกผ้าปิดตาไว้หรอกหรอวะ แล้วไอ้ที่มืดๆนี่คือปิดไฟช้ะ? พ่อง
เสียงเพลงยังดำเนินไปขณะที่พวกเงาลางๆเดินเข้ามาใกล้ขึ้น มีเพียงแสงเทียนจากเทียนไม่กี่เล่มที่ปักอยู่บนเค้กทำให้ผมสามารถมองเห็นอะไรๆได้... ได้บ้างน่ะ !
ผมเห็นลางๆก็พอจะรู้ว่ามีคนกำลังเอาเค้กมาเซอร์ไพรซ์ ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยูแบบประสานเสียง
เออ เฮ้ย! มันเข้ามาใกล้ๆแล้วหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผมพร้อมกับเพลงท่อนสุดท้าย
พอเพลงจบทุกสิ่งเงียบกริ๊บ...
“ไอ่แบม เป่าดิ่เว้ย!” ผมหันไปทางต้นเสียง นี่มันเสียงไอ้ยูคนี่ แล้วผมก็เห็นเงาใหญ่ยักษ์ลางๆจากฝั่งขวามือของพวกที่มาด้วยอีกหลายคน... อ้าวเฮ้ยมึง!
“เป่าเหี้ยไรมึง!” ผมบอกอย่าง งงๆ ก็ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจอ่ะนะ ไอ้การปิดไฟแล้วเอาเค้กจุดเทียนมาร้องเพลงแฮปฯกันตรงหน้าแบบนี้น่ะ
แต่... มันจะดีมากถ้า...
“วันเกิดมึงไง เซอร์ไพรซ์!!!!” ไอ้ยูคเสนอหน้าเหี้ยๆของมันออกมาใต้แสงเทียนมากขึ้น
“เซอร์ไพรซ์พ่องงงง!!! กูไม่ได้เกิดวันนี้”
กริบ....
ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย...
อ้าวเฮ้ย! กูพูดไรผิดอ่ะ พูดจริงๆเลยเนี่ย! วันเกิดกูพ่องสิไอ้ยักษ์ ไอ้เพื่อนชั่ว มั่วแล้ว!
“เซอร์ไพรซ์!!!” ผมแหกปากออกมาเมื่อไม่มีใครพูดอะไร
“เปิดไฟเหอะมึง! จะได้เห็นควายตัวเป็นๆ” ผมเอ่ยไม่นานไฟก็ถูกเปิด ผมหยีตาลงเมื่อตาไม่คุ้นชินกับแสงก่อนจะค่อยๆกระพริบตาถี่ๆจนมันปรับโฟกัสได้แล้วนั่นแหละ
แต่ผมว่าตาผมคงอยู่ในที่มืดนานเกินไปเพราะไอ้คนที่ผมเห็นยืนอยู่ตรงหน้าผมเนี่ยผมไม่รู้จักใครเลยนอกจากไอ้ยูคแล้วก็ไอ้พี่ว้ากหัวเงินที่มันสั่งลงโทษผมยืนทำหน้าดุๆมาทางผมอยู่เนี่ย...
เช้ดดดดด ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดหรอกว่าใครมันจะมายืนตรงนี้บ้าง ได้ยินเสียงไอ้ยักษ์ผมก็คิดว่าคงมีแต่เพื่อนๆ แต่ไหงเป็นแบบนี้อ่ะ เพื่อนกูไปไหนหม๊ดดดดด
“เอ่อ...” เมื่อกี้กูพูดอะไรออกไปวะ...
อะไรนะ เห็นควายตัวเป็นๆ ถุ้ยยยย กูเนี่ยแหละควายยยยย ฮือออออ
ไอ้คนพวกนี้น่าจะเป็นรุ่นพี่นะ ไอ้แบมมมมมมมม มึงซวยยยยยแล้วววว
“อะ... ไอ้เชี่ยยูค” ผมเอ่ยเรียกไอ้ยูคเบาๆ มันทำหน้างงๆใส่ผมก่อนจะเดินเข้ามาหา
“มึงเล่นห่าไรเนี่ย?”
ผมมองไปทางพวกที่ยืนอยู่อย่างหวาดๆ นอกจากไอ้พี่หัวเงิน ยังมีพี่หน้าตาดุๆอีกคนยืนจ้องผมเขม็ง ผมสีแดงๆ เอ๊ะหรือน้ำตาลแดงนั่นสะบัดไปตามแรงที่พี่แกเอามือไปปัดหน้าม้าให้พ้นตา
อู่ยยยย.... หล่อ เอ้ย! ไม่ใช่ๆ
อีกคนที่แม่งถือเค้กอยู่ก็ใส่หมวกกลับหลัง เพื่อ? นี่มันในที่ร่มและนี่ก็มืดแล้ว มึงใส่เพื่อ? ตอบ!!!!
เอ่อ... แต่ทำไมต้องทำหน้านิ่งๆใส่กูทุกคนเลย แล้วไอ้พี่คนนั้นหน้าคุ้นๆว่ะ ตาตี่ๆยิ้มให้ผมจนตีนกาขึ้น คุ้น...จังวะ
แล้วนี่ก็อีกคนเพิ่งเดินมาจากเปิดไฟมั้งสงสัย หน้าตาดูง่วงนอน ถามจริงมึงตื่นยัง?
“วันนี้ไม่ใช่วันเกิดมึงจริงดิ่” ไอ้ยักษ์วัดแจ้งมันยังจะถามย้ำอีก ให้ตาย!!! มึงจำวันเกิดกูไม่ได้เลยใช่ม้อยยยยยยยยย อิยูคคคค พ่องตายหรอ!
“เออ! จำวันเกิดเพื่อนรักไม่ได้ กูงอนมึงแล่ว!” ผมหันหน้าหนีมันแล้วเบะปากทำแก้มพองลมใส่ ท่านี้เป็นท่าประจำของผมนะ แม้มันจะเป็นท่าเดียวกับที่ไอ้ยักษ์มันชอบทำเลียนแบบผมก็เถอะ แต่ผมทำแล้วมันน่ารักกว่านี่... มันทำแล้วน่าเกลียดจะตาย หรือจะเถียง!
“งั้นวันนี้วันเกิดใครวะ?” ไอ้ยักษ์ยูคมันเมินผมที่กำลังงอนแล้วหันหน้าไปอีกทางพลางใช้ความคิด
“สรุป วันนี้ไม่ใช่วันเกิดนาย?” ไอ้พี่ว้ากหัวสีเงินถามผม ผมรีบหยุดเบะปากแล้วทำหน้าปกติทันที...
เออ... บางทีกูก็ลืมป่าววะ ว่ามีคนอื่นอยู่ที่นี่ด้วย... อย่าเพิ่งว่ากูว่าปัญญาอ่อนแล้วกัน พวกมึงเห็นกูทำแบบนี้ถือว่าทำบุญมาดีมาก บอกเลย!
“ไม่ใช่ครับ” ผมส่ายหน้าประกอบการพูดด้วยเพื่อยืนยัน
“เอาไงอ่ะมึง?”
หืออออ... ผมเลิกคิ้วขึ้นทันทีที่ไอ้พี่หัวเงินนี่หันไปถามไอ้ยักษ์ด้วยท่าทางสนิทสนมและด้วยคำพูดสมัยพ่อขุนรามที่ผมคุ้นชินกับมันดี...
กูบอกแล้ว...หน้างี้เหมาะจะพูดมึงๆ กูๆ มากกว่าผมๆ คุณๆแบบที่มันใช้พูดตอนรับน้อง...
เฮ้ยเดี๋ยวนะ! มันเป็นพี่’เบียบป้ะ ทำไมมาเสนอหน้าอยู่ตรงนี้ แล้วทั้งหมดนี่มันเรื่องเหี้ยไรกันวะครับ!!
“พี่เดี๋ยวก่อน... นี่มันเรื่องไรกันอ่ะ? ผมงง” ผมเอ่ยถามออกไปเพื่อไขข้อข้องใจ
“หน้าโง่ๆอย่างนี้ไม่บอกกูก็รู้” ไอ้เชี่ยยยยยยูคคคค มันยักไหล่ให้ผมที่ถลึงตาใส่อย่างโมโห ก่อนจะหันไปทางพี่หัวเงิน
“โทษทีว่ะพี่... ผมน่าจะจำวันผิด”
“ไม่ใช่จำวันผิด... แต่มึงจำเดือนผิด ไอ้สาสสส” ผมแทบจะกินหัวมันได้แล้วตอนนี้ วันนี้วันที่ 2 วันเกิดผมก็ถูกแล้ว แต่มันไม่ใช่เดือนนี้
ไอ้สัส แต่...อย่างน้อยมึงก็ยังจำวันไม่ผิด... งั้นกูยกโทษให้กึ่งหนึ่ง
“เออ แล้วเค้กนี่ทำไง?” เสียงไอ้คนที่สวมหมวกกลับหลังยืนถือเค้กยื่นมาข้างหน้าเล็กน้อย เทียนก็ยังไม่ได้เป่า จนตอนนี้มันละลายจนน้ำตาเทียนหลอมรวมไปกับเนื้อเค้กแล้ว
“มานี่เลยพี่แจ็ค” ไอ้ยูคเดินมาแย่งเค้กไปถือไว้เอง
“ไหนๆก็ซื้อมาแล้ว” มันพูดกับเค้กในมือแล้วหันมามองผม
“และไหนๆวันนี้ก็วันเกิดมึงนะ ถึงจะผิดเดือน”
ผมเริ่มมีลางสังหรณ์แปลกๆอีกแล้วสิ...
รอยยิ้มมึงนี่หมายความว่าความจัญไรกำลังจะบังเกิดสินะ
กูรู้วววววววว...
ไอ้สัส!!!
หลังจากที่ผมได้รับอิสระจากการที่พวกพี่มันมาช่วยแกะเชือกที่มือและที่ขาที่มัดผมติดกับเก้าอี้ออก ผมก็เอามือขึ้นมาปาดเนื้อเค้กที่มันฝังลงไปที่เบ้าตาออก
ไอ้เชี่ยยยยยยักษ์! แม่ง อยู่ดีๆแม่งก็เอาเค้กในมือมาโปะใส่หน้าผมอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว แปะอย่างเดียวไม่ว่า ขยี้ด้วยสาส!!!
เสียงหัวเราะยังคงดำเนินต่อไปตั้งแต่ต้นจนจบ เออ! หัวเราะกันให้พอเลยไอ้พวกพี่เหี้ย พวกมึงจะเป็นรุ่นพี่ เป็นเพื่อน เป็นเหี้ยห่าเหวไรกูไม่สนใจล้ะ สัส! โมโหมากบอกเลย
“ตลกมากป้ะ?” ผมถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง...
ไอ้สัสเค้กเข้าตาโคตรแสบอ่ะ อย่าให้กูรู้นะว่าเค้กร้านไหน จะเผาร้านแม่ง แค่ครีมเข้าตากูยังรู้สึกได้เลยว่าแม่งต้องหวานมาก!
ผมเอามือขึ้นขยี้ตา แต่ดูเหมือนแม่งจะยิ่งแสบ น้ำ! กูต้องการน้ำ ฮืออออออออ กูแสบตาาาาาาาา ผมทำท่าจะออกเดินไปหาแหล่งน้ำที่ใกล้ที่สุด แต่เชี่ยแม่งไปทางไหนวะ ฮืออออออ
หมับ
ผมเซไปตามแรงฉุดที่ข้อมือ ไม่รู้ว่าใครหรอกนะ แต่ก็เดินตามไป ไม่กี่ก้าวมันก็จับให้ผมนั่งลงกับฟุตบาท
“ก้มหน้าลงมา” เสียงไม่คุ้นเลยอ่ะ แต่ก็ทำตามที่มันบอกเพราะได้ยินเสียงน้ำไหลอยู่ข้างๆ... มึงคงจะเป็นใครสักคนในกลุ่มเมื่อกี้สินะ ดีที่ยังมีสำนึก!
น้ำใสๆไหลผ่านหน้าผมไป ผมก็เอามือล้างคราบเค้กไปด้วย แต่ตานี่ยังไม่ลืมขึ้นมาล้างหรอกนะ กะจะล้างส่วนอื่นไปก่อนมันจะได้ไม่ไหลเข้าตาอีก... เมื่อผมคิดว่าหน้าตัวเองสะอาดแล้วก็เอามือขึ้นมาขยี้ตาไปพร้อมๆกับสายน้ำ แต่ก็มีอีกมือมาดึงมือผมออก ผมขมวดคิ้วอย่างขัดใจ
“อยู่เฉยๆ” เสียงทุ้มเอ่ยดุๆทำเอาผมต้องทำตาม
ขนาดฟังแค่เสียงยังรู้เลยว่าดุ แล้วถ้าเห็นหน้าจะขนาดไหน มันเอามือมันเองมาลูบที่ตาผมเบาๆ ผ่านไปสักพักจนกระทั่งผมเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเคืองแล้วเลยยกมือตัวเองขึ้นมาจับมือมันให้หยุดล้าง... ผมพูดไม่ได้นี่ น้ำมันจะไหลเข้าปาก ผมเอามืออีกข้างไปจับมืออีกข้างของมันที่ถือสายยางรดหน้าผมอยู่ให้ออกไปจากหน้าผม
เออ... ค่อยยังชั่ว
ผมปล่อยมือออกจากมือมันทั้งสองข้างแล้วยกมือขึ้นปาดน้ำบนหน้าตัวเองออก แล้วกระพริบตาถี่ๆ
โอเค... ไม่แสบแล้ว
หมับ
ไอ้คนที่ช่วยผมล้างหน้าลุกไปปิดน้ำแล้วกลับมานั่งลงตรงหน้าผมอีกครั้ง มันเอามือมาจับหน้าผมไว้ ผมสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะมองมันผ่านหยดน้ำที่หยดจากปลายเส้นผม
เฮ้ย... หน้านิ่งเชียะ ไอ้พี่หัวแดงหน้าดุๆนั่นแหละ มันเอาผ้าเช็ดหน้าในมือมันมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้ผม ซึ่งผมก็มองมันทำอยู่แบบนั้น ไม่กล้าขยุกขยิก เพราะสายตาดุๆที่มันส่งมาให้ ...ฮึ่ยยยย
เมื่อมันคิดว่าเช็ดหน้าผมจนพอใจแล้ว มันก็ยัดผ้าเช็ดหน้าในมือใส่มือผมไว้..
“เช็ดต่อเอง” มันพูดแล้วลุกเดินไปเลย
พ่องงง... เช็ดไร กูรู้สึกว่าหน้ากูตอนนี้เงาวับล้ะ! ลงแวกซ์ด้วยเลยมั้ยล่ะมึง
ผมนั่งงงอยู่ตรงนั้นสักแปปนึง ไอ้ยูคก็เดินเข้ามาหา ไอ้สัสนิ่ กูยังไม่ได้ชำระแค้นมึงเลย
“พ่องงงง” ผมลุกขึ้นยืนจะเดินหนีมันไปอีกทาง แต่มันก็ลากผมมาทางพวกพี่เหี้ยๆที่รุมแกล้งผมกลุ่มเดิม แหม นั่งเรียงกันหน้าสลอน...
“มึงนั่งนี่” มันจับผมยัดลงไปบนเก้าอี้ตรงข้ามพวกพี่แม่งด้วยแรงควายๆของมัน ไอ้สัสสสส กูไม่ใช่กระสอบทรายนะเว้ยยยย
ผมหันไปค้อนไอ้ยูคทีนึงก่อนจะหันมามองพวกที่นั่งเรียงกันด้วยหน้าตาไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ ใครจะอยากเป็นมิตร เห็นกูโดนแกล้งแทนที่จะช่วยห้าม เสือกหัวเราะกูกันซะนี่!
“ไหนๆก็ไหนๆแล้วแนะนำก่อนนะ” ไอ้ยูคเอ่ยก่อนจะเอามือมาพาดไหล่ผม
“นี่แบมแบมเพื่อนผม พวกพี่จะเรียกมันยังไงก็ได้ แบมแบม ไอ่แบม ไอ้แบม เชี่ยแบม สั...”
“พอแล้วป้ะมึง แบมแบมก็พอ ชื่ออื่นกูให้มึงเรียกคนเดียว” ผมหันไปแยกเขี้ยวใส่มันตาขวาง
พ่องงงง ไอ้ยูค แนะนำกูแบบนี้ไม่บอกชื่อพ่อชื่อแม่กูไปด้วยเลยล่ะ
“เออๆ แล้วมึง... นี่...พี่แจบอม” มันผายมือไปทางไอ้พี่ว้ากหัวเงินที่นั่งอยู่ริมสุด “เป็นพี่’เบียบ”
เออ..กูก็รู้ป่าวว้ะ ตาไม่ได้บอด หูไม่ได้หนวก... ตอนมันสั่งทำโทษกู ก็เป็นกูป่าววะที่โดนทำโทษ พ่องงงงงง ยิ่งพูดยิ่งงง
ผมพยักหน้าเบาๆ พี่มันยิ้มให้ทีนึง เฮ้ยยย สาสส ไม่ใช่เล่นๆนะมึงเอ้ยยยย ยิ้มโคตรเท่ห์อ่ะ แต่... ทำไมฟันเยอะจังวะ! เงิงออกล้ะพี่อย่ายิ้มมาก...
“เรียกพี่ว่าพี่เจบีดีกว่า แจบอมไว้เรียกตอนพี่เป็นพี่ระเบียบ”
“งั้นผมเรียกพี่แจบอม...” พี่มันหน้าเหวอๆ “ก็พี่เป็นพี่ระเบียบ”
ผมกวนตีนใส่ไปหนึ่งดอก... ก็มึงเป็นพี่ระเบียบ ไม่ว่าตอนนี้มึงจะเดิน ลุก นั่ง ยืน หรือไปขี้ ยังไงสถานะมึงก็คือพี่ระเบียบอยู่ดี... กูพูดถูกมั้ย? ไอ้พี่ระเบียบ!
“ตอนนี้เลิกเป็นล้ะ! เรียกพี่เจบีเดี๋ยวนี้ หรือจะคลานพื้น!” ผมสะดุ้งน้อยๆก่อนจะรับคำ
“ครับพี่เจบี” ฟันเยอะ... อันนี้ขอต่อในใจ... กลัวแม่งลุกเอาฟันมาเฉาะหน้าจริงๆ แล้วผมก็ได้รับเพียงเสียงหัวเราะกลับมา
ฮ่วย! ไหนบอกเลิกเป็นแล้วไง.. แล้วไอ้ที่สั่งนี่คือไร? ตอบ!!!
“ส่วนคนข้างๆพี่เจบีอยากแนะนำตัวเองมั้ยครับ?” ไอ้ยูคพยักเพยิดไปให้ ผมหันไปมองหน้าไอ้พี่ใส่หมวกที่ยิ้มทะเล้นๆมาให้... นี่ถ้าผมยังเห็นมันใส่หมวกอยู่อีกหลังจากวันนี้ ผมจะสรุปเอาเองแล้วนะครับว่ามันหัวล้าน
“พี่ชื่อแจ็คสันนะครับ นามสกุลหวัง สนใจอยากเปลี่ยนมาใช้นามสกุลพี่มั้ยครับน้องแบมแบม”
กริบ...
ผมกรอกตาไปมาใส่พี่มัน ซึ่งมันก็ต้องเห็นแหละ ก็ตั้งใจทำให้เห็น... ไอ้เย้ดดดเข้! นี่มึงม่อช้ะ? มุกควายมากกกก
“คนต่อไปเลยก็ได้ครับ” ผมหันหน้าหนีไอ้พี่หน้าภาชนะหุงต้มก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ใบหน้าที่คุ้นเคย... เฮ้ยยย เคยเห็นที่ไหนวะ มันคุ้นจริงๆนะ
“น้องแบมมมมมมมมมม” พี่คนที่ตีนกาเยอะๆยิ้มให้แล้วเรียกผมเสียงลากยาวววววววไปไกลถึงฝั่งธนฯ ผมขมวดคิ้วน้อยๆ แล้วมองหน้าพี่มันอย่างพินิจพิจารณา
“ผมว่าผมคุ้นหน้าพี่นะ” ผมพูดพลางยกนิ้วชี้ขึ้นมาแตะระหว่างคิ้วตัวเอง... ผมทำท่านี้ประจำเวลาต้องใช้ความคิดหรือนึกอะไร
“อย่าบอกนะว่าจำพี่ไม่ได้”
นั่นไง... หน้าเบะๆแบบนั้นหมายความว่าไง น้ำตาคลอๆนั่นหมายความว่าไง...
เห้ย หรือกูเคยไปฆ่าบุพการีเค้าหรอวะ พ่องสิ! หรือกูเคยแกล้งเค้าตอนเด็กๆ นี่กูเคยทำอะไรดีๆมั้ยเนี่ย? กูโตมาได้ยังไงวะกับความเลวระดับพระกาฬกระทั่งทุกวันนี้...
พ่องงงง ด่าตัวเองเพื่อ? กูมั่นใจว่ากูไม่น่าจะเคยแกล้งพี่มันนะ... มั่นใจอยู่สิบเปอร์เซ็นต์
ผมส่ายหน้าแล้วยิ้มแห้งๆส่งไปให้ พี่มันทำหน้างอนๆใส่แล้วลุกเดินมานั่งตักผม... ท่ามกลางสายตาของคนอื่นๆที่มองมาอย่างตกใจ
เห้ย!! มึงไม่ต้องตกใจแทนกูเลย กูเนี่ยสมควรต้องตกใจถึงจะถูก...
.
.
.
ง่อวววว
ตอบลบพี่มัค
เดี๋ยวนะเดี๋ยว 5555555 แจ็คแม่งเผยธาตุเเท้มากมั้ย แต่ไม่เท่าคนนั่งตักแบมนะ 55555555
ตอบลบจำเดือนผิด555
ตอบลบ