ผมคิดถึงพี่มากเลย... พี่มาร์ค
แบมแบม…
มาร์คสะดุ้งตื่นจากภวังค์
อันที่จริงเขาสะดุ้งตื่นจากการงีบหลับเสียมากกว่า…
หลังจากที่วันนี้เข้าเวรมาทั้งวัน
คนไข้ก็เยอะมากจนเขาแทบไม่มีเวลาพักหายใจ
แต่เขาก็ทำใจยอมรับเรื่องนี้ตั้งแต่ที่ตัดสินใจมาเป็นหมอประจำอยู่โรงพยาบาลที่ต่างจังหวัดแห่งหนึ่งในเกาหลีแล้ว…
หลังจากเรียนจบเขาทำงานที่นี่ได้ประมาณหนึ่งปี…
ครอบครัวเขาไม่ว่าที่เขาจากบ้านมาทำงานไกลขนาดนี้… ทุกคนเข้าใจว่าหลังจากวันนั้น ชีวิตผมก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง…
วันนั้น…
ที่ผมรู้ว่าคนที่ผมรัก จากผมไปแล้วตลอดกาล…
“คุณหมอมาร์ค… เหนื่อยหน่อยนะคะวันนี้ คนป่วยกันเยอะเพราะอากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ”
“ครับ… คุณก็เหนื่อยเหมือนกัน” มาร์คพูดกับพยาบาลสาว…
เธอเป็นคนที่นี่ ตอนผมเข้ามาทำงานที่นี่แรกๆ
ก็ได้เธอนี่แหละช่วยชี้แจง อธิบายผมในหลายๆเรื่อง
“นี่เสื้อไหมพรมค่ะ ฉันถักมาให้” เธอวางถุงกระดาษลงบนโต๊ะผม
“ขอบคุณครับซอนมี… ไม่เห็นต้องลำบากเลยครับ ผมเกรงใจ”
“ฉันเต็มใจค่ะ...” เธอยิ้มให้ผมก่อนจะเดินออกจากห้องไป…
มาร์ครู้ดีว่าที่เธอทำให้เขาทุกอย่างเพราะอะไร… แต่เขาเองที่ปฎิเสธเธอไป… เขาไม่สามารถรักใครได้อีกแล้ว…
เขาเลยได้แต่รู้สึกผิดต่อซอนมี… เธอเป็นคนดี
แต่ผมรักเธอไม่ได้จริงๆ
มาร์คเอื้อมมือขึ้นมาลูบแหวนที่เขาเอาคล้องไว้กับสร้อยคอของตัวเองอย่างนึกถึง….
เจ้าของแหวนวงนี้…
เขาสัญญากับแบมแบมเอาไว้แล้ว…
ว่าเขาจะไม่ไปไหน…
ไม่มีวันไปไหน…
“คุณหมอมาร์คคะ… เคสด่วนที่ห้องฉุกเฉินค่ะ” พยาบาลและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆวิ่งกันให้วุ่นวาย ขณะที่มาร์คเองก็เร่งฝีเท้ามาที่ห้องฉุกเฉิน
เมื่อมาถึง
เขาพบกับคนไข้นอนไม่ได้สติอยู่ที่เตียง เป็นเด็กผู้ชายวัยรุ่น
อายุราวๆสิบห้าสิบหกเห็นจะได้… และที่สะดุดตาคือแมสสีขาวขนาดใหญ่ที่เขาใส่ปกปิดใบหน้าไว้…
หัวใจมาร์คเต้นแรงอย่างตกใจ…
แวบแรกที่เขาเห็นแมสนั่น ทำให้เขานึกถึงคนๆนั้นขึ้นมา
“คนไข้เกิดอาการช็อคไปค่ะคุณหมอ
ตอนนี้อุณหภูมิร่างการอยู่ที่สี่สิบองศาเซลเซียส” เสียงของนางพยาบาลเรียกมาร์คให้หลุดจากความคิด
เขากลับมาสนใจความเป็นจริงที่เกิดขึ้นตอนนี้อีกครั้ง..
“นายจะช่วยมีชีวิตที่ดีเพื่อแบมได้มั้ย?”
ต้องขอบคุณประโยคนี้ของยูคยอม…
ที่ทำให้ทุกวันนี้ผมยังอยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป… ผมคิดว่า แบมแบมต้องภูมิใจในตัวผมแน่ๆ
“รู้สึกยังไงบ้างครับ?” มาร์คเดินตรวจคนไข้แต่ละห้องเช่นทุกวัน
เขาชอบมาเยี่ยมคนไข้ในเคสของตัวเองอยู่เสมอ… ได้พบปะ
ได้พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น… ได้เรียนรู้เรื่องราวของพวกเขาเหล่านั้น
“ดีขึ้นมากแล้วค่ะคุณหมอ ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ” มาร์คยิ้มให้กับหญิงชราคนหนึ่งอย่างอ่อนโยน
แล้วเดินไปปิดกระจกที่เปิดแง้มไว้เล็กน้อยเพราะลมเย็นๆพัดเข้ามา
อาจทำให้คนไข้ของเขาอาการแย่ลงได้
ระหว่างที่มาร์คปิดกระจกและมองออกไปข้างนอกหน้าต่างนั่น
สิ่งที่เขาเห็นทำให้เขาวิ่งพรวดพราดออกมาจากห้องผู้ป่วยอย่างเสียไม่ได้...
“แบมแบม...” มาร์ควิ่งไปยังทางที่เห็นอีกคนเดินยืนอยู่อย่างสุดชีวิต…
แต่พอวิ่งไปถึงกลับพบว่าไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลยสักคน… เขามองไปรอบๆตัวก็ไม่พบใคร นอกเสียจากหิมะที่กำลังโปรยปรายลงมาทีละน้อย…
หิมะแรก
“คุณหมอมาร์คหาใครอยู่หรอคะ?” ซอนมีที่วิ่งตามมาร์คมาเอ่ยถามเขาอย่างเสียไม่ได้ที่จู่ๆมาร์คก็วิ่งออกมาแบบนี้...
คนที่ตกใจคงมีทั้งเธอและคนไข้แน่ๆ
“คือ… เปล่าหรอกครับ ไม่มีอะไร” มาร์คถอนหายใจ แต่ก็ยังคงมองไปรอบๆเพียงเพราะคิดว่า อาจจะเจอ…
คิดถึง…
คือความรู้สึกทุกอย่างในตอนนี้ของผม…
ผมคิดถึงเค้ามาก
“คุณหมอจะขึ้นตึกอีกมั้ยคะ?” เธอถาม
“เอ่อ...ครับ… ซอนมี… ผมขอไปเข้าห้องน้ำก่อน...
แล้วเดี๋ยวจะตามไปนะครับ” เธอพยักหน้ารับก่อนจะเดินออกไป…
มาร์คถอนหายใจ…
เขาแค่นหัวเราะกับตัวเอง… ผมคงตาฝาดไป…
เด็กคนนั้นจะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน
มาร์คยกมือขึ้นนวดขมับตัวเองเบาๆ…
สงสัยผมคงทำงานหนักมากไปจริงๆล่ะมั้งหรือไม่ก็คิดถึงแบมแบมมากเกินไป...
มาร์คสูดหายใจเข้าลึกๆ
ก่อนจะลืมตาขึ้น...
“แบมแบม...” มาร์คมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
ใบหน้าที่คุ้นเคยตรงหน้าเขายังคงใส่หน้ากากอนามัย
ผมหน้าม้ายาวลงมาปกปิดใบหน้าส่วนหน้าผากและบางส่วนของดวงตาเอาไว้
และส่วนสูงที่ดูจะเทียบเท่ากับผมเลย…
สองขาของมาร์คเดินตรงไปหาคนๆนั้นช้าๆ...
ไม่ว่านี่จะใช่ภาพลวงตาหรือไม่ก็ตาม….
มาร์คหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของแบมแบม…
ดวงตาสั่นไหวจ้องลึกลงไปในตัวตาของอีกฝ่าย
มือหนาค่อยๆยกขึ้นมาสัมผัสใบหน้าอีกคนเบาๆ
เขาสัมผัสใบหน้าหวานได้…
ถ้านี่เป็นภาพลวงตาจริงๆคงเป็นภาพลวงตาที่สมจริงมากเสียจนผมอยากจะร้องไห้
“แบมแบม...” มาร์คเอ่ยเสียงสั่นเครือ
“ห้องน้ำไปทางไหนครับ?” เสียงถูกถามผ่านหน้ากากอนามัย
แม้น้ำเสียงจะใกล้เคียงกับเสียงที่เขาจำได้… แต่ท่าทางของคนตรงหน้าที่มีต่อเขาดูจะเหมือนกับคนที่ไม่รู้จักกันเสียมากกว่า…
มาร์คลดมือลงและก้มหน้า
เขาคงคิดไปเอง…
มันเป็นไปไม่ได้ที่แบมแบมจะมายืนอยู่ตรงหน้าเขา… มันเป็นไปไม่ได้… คนๆนี้ก็คงแค่คล้ายกับแบมแบมเท่านั้น
แค่คล้ายกัน…
“เดินตรงไปเลี้ยวขวาครับ” มาร์คชี้ไปทางด้านหลังของตัวเองแล้วเดินสวนออกมา..
เขาเดินเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่างจนกระทั่งไปชนกับคนๆนึงเข้าอย่างจัง
“ขอโทษครับ” มาร์คก้มหัวน้อยๆก่อนจะออกเดินอีกรอบ
“คิดว่าขอโทษแล้วจบหรอ?” มาร์คหันไปมองเจ้าของเสียงทันที
“ยูคยอม...” ยูคยอมยกยิ้มมุมปากให้น้อยๆอย่างวางมาด
มาร์คมองเขาแล้วยิ้มให้เช่นกัน… ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะนายเนี่ย
“นายมาทำอะไรที่นี่?” มาร์คเอ่ยถามออกไป
ยูคยอมที่ใส่เสื้อโค้ทตัวใหญ่สีน้ำตาลเข้ม...
ดูยังไงก็ไม่น่าจะมาในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจ… มาร์คพอรู้มาบ้างว่ายูคยอมประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานดี…
เขาทำคดีไปได้มากมาย สร้างผลงานจนได้เลื่อนตำแหน่ง… มาร์ครู้แค่นั้น
“พาเพื่อนมาส่ง” มาร์คขมวดคิ้ว
“เพื่อนนายไม่สบายหรอ? แล้วทำไมพามาไกลถึงที่นี่?”
“เค้าอยากมาฉันก็พามา” ยูคยอมยักไหล่
“แต่ไม่เห็นนายจะสนใจเพื่อนฉันเลย… สงสัยจะต้องพากลับ”
ยูคยอมเอ่ย แต่มาร์คขมวดคิ้ว...
“เพื่อนนายน่ะหรอ? คนไหน...” มาร์คชะงักไป
เพราะเพื่อนของยูคยอม...คนเดียวที่แว๊บเข้ามาในหัวเขาตอนนี้ก็คือ...
“คนเดิม… คนที่จากนายไปนานถึงแปดปี” มาร์คมองยูคยอมอย่างไม่เข้าใจ… ยูคยอมจึงถอนหายใจเบาๆก่อนจะส่ายหน้าในความซื่อบื้อของมาร์ค
ต้วน… ไม่เข้าใจว่าเรียนจบหมอมาได้ยังไง
ทำไมงั่งอย่างนี้!
“นายคิดหรอว่าถ้าแบมตายไปจริงๆ.. ฉันจะปล่อยนายไว้อ่ะ! เหอะ! ฝันไปเถอะ”
ยูคยอมยกยิ้ม มาร์คถึงบางอ้อเลยทีนี้…
“แบมแบมยังไม่...” มาร์คพูดไม่ออก
“เขายังอยู่… เขาไม่ได้จากฉันไปไหนใช่มั้ย?” มาร์คเขย่าแขนยูคยอมอย่างร้อนรน… กระทั่งยูคยอมพยักหน้านั่นแหละ
เขาถึงได้ยอมปล่อย มาร์คยืนยิ้มยกมือขึ้นกุมหน้าอกตัวเองเหมือนคนบ้า… ถึงไม่ใช่ก็ใกล้เคียง… ใครจะหาว่าผมบ้าผมก็ไม่สนใจหรอก...
ผม...
ผมดีใจ
ผมดีใจมาก…
นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตผมตลอดแปดปีที่ผ่านมา...
นี่คือสิ่งที่มีค่าที่สุด
แปลว่า...คนเมื่อกี้…
มาร์คหันหลังกลับไปทางเดิม
ทางที่เพิ่งเจอคนๆนั้น คนที่เขาเพิ่งบอกทางไปห้องน้ำ
แต่พอมาถึง
เขากลับไม่พบใคร… มาร์ควิ่งหาแบมแบมแถวๆนั้นแต่ก็ไม่พบ
เขาเลยยืนนิ่งๆใช้สายตามองไปรอบๆแทน
“หาใครอยู่หรอครับ?” เสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลังของมาร์ค เขาหันขวับไปทางต้นเสียงทันที
แล้วเขาก็เจอคนที่เขากำลังตามหาอยู่…
“แบมแบม...” มาร์คยิ้มออกมาก่อนจะวิ่งเข้ามากอดอีกคนไว้…
เขากอดแน่นจนแบมแบมแทบจะขาดอากาศหายใจเลยทีเดียว
“หาผมอยู่เหรอ?” แบมแบมเอ่ยถามงึมงำอยู่ข้างหูมาร์ค
มาร์คยิ่งได้ยินเสียงคนรักใกล้ๆ ชัดเจนขนาดนี้ เขายิ่งกอดแบมแบมแน่นขึ้นไปอีก
ด้วยความคิดถึง… และกลัวว่าแบมแบมจะหายไปอีก
“หายไปไหนมา? ไปอยู่ที่ไหนมา?” มาร์คผละออกก่อนจะจับที่ใบหน้าหวาน
เขาสำรวจใบหน้าของอีกคนอย่างถี่ถ้วน ก่อนจะเอื้อมมือไปดึงแมสออกจากหน้าของแบมแบม
“ผมไปเข้าห้องน้ำมาไง… พี่บอกทางไปห้องน้ำผมเองนะ”
มาร์คยกนิ้วโป้งขึ้นแตะริมฝีปากอวบอิ่มที่กำลังพูดกับเขา
“จูบนะ” มาร์คเอ่ยเบาๆ แต่คราวนี้เป็นแบมแบมเองที่ประกบริมฝีปากตัวเองกับริมฝีปากหนาเสียก่อน…
แบมแบมผละออกเล็กน้อยซึ่งไม่ไกลจากปากอีกคนเท่าไหร่… ก่อนจะเอ่ย
“อนุญาต” สิ้นคำพูดแบมแบม มาร์คก็ประกบจูบเขาอีกครั้ง
เพียงแต่ครั้งนี้เนิ่นนานและดูดดื่มกว่าทุกครั้ง… เป็นจูบแห่งความรัก…
ความคิดถึง
ผมคิดถึงพี่มากเลย…
พี่มาร์ค
วันนั้น…
ถ้าผมเข้าไปไม่ทัน… ผมจะต้องสูญเสียมาร์คไปตลอดชีวิต…
เหตุการณ์นั้นมันทำให้ผมรู้สึกแล้วว่า...
ผมอาจสูญเสียเขาไปอีกเมื่อไหร่ก็ได้… ซึ่งผมทำใจกับเรื่องแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว…
ไม่ได้จริงๆ
วันนั้นผมถูกยิง…
จริงๆผมคิดว่าตัวเองจะต้องตายแล้วด้วยซ้ำ
แต่โชคดีที่กระสุนไม่โดนจุดสำคัญ มันฝังลงที่ไหล่ของผม…
โชคดีที่ยูคยอมมาทันเวลา…
โชคดีที่กำลังเสริมมาช่วยทันเวลา…
ไม่งั้น ผมคงไม่มีโอกาสเห็นหน้าคนที่ผมรักอีก
แต่ผมก็มีความจำเป็นที่ต้องจากมาแบบนี้…
เพราะผมไม่มีทางเลือก... หมอบอกว่าผม… ผมอาจจะใช้แขนข้างขวาไม่ได้เหมือนเดิม…
กระสุนทะลุเอ็นหัวไหล่ผมไป… ผมไม่อยากให้ตัวเองเป็นภาระของใคร…
โดยเฉพาะเขา… มาร์คต้องคิดว่าเป็นความผิดเขาแน่ๆ
เขาต้องพยายามรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น…
ซึ่งผมไม่ต้องการแบบนั้น….
ไม่ว่ายังไง… ผมก็ไม่อยากเป็นตัวถ่วงในชีวิตเขา…
ผมเลยเลือกที่จะหายไป...
ผมขอให้คุณอาส่งตัวผมกลับมาที่ประเทศไทย…
ตอนแรกคุณอาไม่ยอม.. ผมเลยขอให้ยูคยอมมาช่วยพูดกับท่านอีกแรง…
ทีแรกยูคยอมก็จะไม่ทำตามคำขอของผม… แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ยอม
เพราะผมบอกเขาว่า
‘ฉันจะกลับมา’
และผมขอให้ทุกคนเก็บเรื่องของผมไว้เป็นความลับ…
ตลอดเวลาที่ผมอยู่ที่ประเทศไทย..
ผมต้องเข้าทำกายภาพบำบัดทุกวัน
และเมื่อแขนเริ่มจะกลับมาใช้งานได้ดีในระดับหนึ่งแล้ว…
ผมก็กลับมาที่เกาหลี และสอบเข้ารับราชการ...
ผมอยากหายเป็นปกติ…
ผมอยาก…
อยากเป็นตำรวจเหมือนพ่อ…
และ…
ผมอยาก…
ผมอยากกลับไปหาเค้า…
เมื่อถึงเวลา…
ผมสอบบรรจุได้… และเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดี…
มีพ่อบุญธรรมที่รักผมเสมือนลูกแท้ๆ
มีเพื่อนสนิทที่เป็นทั้งเพื่อนและพี่น้องของผม… มีเพื่อนร่วมงานที่ดี...
และในที่สุด
ก็ถึงเวลาที่ผมจะได้กลับมาหาเค้าจริงๆเสียที... ผมเสียใจที่ต้องโกหกเขา
แต่มันดีกับทั้งตัวเขาและตัวผมเอง…
ทำแบบนี้มันดีกับเราทั้งคู่...
แต่ผมว่าเวลาที่ห่างกันไปแปดปี…
มันคุ้มนะ…
กับการที่ผมหายไป มาร์คอาจเริ่มต้นชีวิตใหม่กับใครก็ได้…
แต่เขาก็รอผม…
และเขายังไม่เปลี่ยนใจไปจากผม…
คุณเคยสงสัยกับคำว่ารักแท้…
ใช่ไหม?
ผมเองก็เคยหัวเราะให้กับคนที่คิดว่าตัวเองเจอรักแท้…
ผมเคยคิดว่ามันไม่มีจริงหรอก....
แต่ตอนนี้…
ผมเปลี่ยนความคิดนั่นไปแล้ว…
เพราะผมว่าผมเจอแล้วล่ะ
รักแท้ที่เป็นรักของผม… คนรักที่เป็นคนของผม
รักแท้ที่เป็นรักของผม… คนรักที่เป็นคนของผม
….มาร์ค ต้วน
#ฟิคสั้นมาร์คแบม
เสียน้ำตา ใจจะขาดกะบทที่8มากค่ะ
ตอบลบรู้สึกดีมากๆ ท้ายที่สุดเราก็ไม่เสียใคร