ฟิคกระเรียน = เกรียนฟิค
#ฟิคกระเรียน
-17-
Jackson Wang
เพียะ!!!!
“โอ้ยเหี้ย!” ผมสะดุ้งตื่นและลุกขึ้นนั่งพลางเอามือกุมหน้าผากตัวเอง เป็นการตื่นที่มาพร้อมกับความตกใจและความเจ็บที่หน้าผาก
ไอ้สัส! ใครเอาเหี้ยไรมาฟาดหน้ากูวะเนี่ย!!
เมื่อมองไปหาไอ้คนที่มันยืนอยู่ใกล้โซฟาที่สุดก็ไม่แปลกใจเลย
“ไอ้เชี่ยยักษ์!!” ผมแยกเขี้ยวใส่มัน มันยืนเท้าเอวมองผมด้วยท่าทางกวนส้นตีน
“จะนอนให้เซเว่นปิดก่อนเลยมั้ยมึง!” มันบอก
“แล้วมึงปลุกกูดีๆไม่ได้ไงวะ! เอาขาหน้ามาฟาดกูเพื่อ?”
“มือก็พอ! ขาหน้าเชี่ยไร...กูไม่ใช่กระต่ายนะ จะได้เอาขาหน้าไปฟาดมึงอ่ะ”
โห เชี่ย... เปรียบตัวเองได้เหี้ยมาก ถ้าอย่างมึงเป็นกระต่าย กูว่าโลกคงตัดมันออกจากบัญชีสัตว์โลกผู้น่ารักแล้วล่ะ...
กูจะบอกให้ถ้ามึงเป็นกระต่าย มึงต้องได้อยู่ในแท็ก #สัตว์โลกอมตีน แน่ๆ กูบอกเลย!
“เอ้า! นี่มือหรอกเหรอ? กูนึกว่าตีน!” ผมลูบหน้าผากตัวเองก่อนจะมองหาคนอื่น... ก็ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าหาใคร.. ไอ้คนที่กูหนุนตักอยู่ก่อนจะหลับนี่แหละ... ว่าแต่ตอนนี้มันไปไหนแล้วล่ะ?
“ไม่ต้องหาหรอก เข้าไปคุยกับพี่แจ็คในห้องแล้ว”
“ห้ะ? พี่แจ็คมันตื่นแล้วหรอ?”
“เออ! มัวแต่นอนตูดบานอยู่นี่ รู้มั้ยว่าโลกเค้าไปถึงไหนกันแล้ว!” ผมลุกขึ้นแล้วเอามือผลักหน้ามัน ไอ้สัส นับวันปากมึงยิ่งร้าย เดี๋ยวก่อน... เดี๋ยวมึงเจอกู!
แต่ตอนนี้ขอไปเผือกเรื่องในห้องโน้นก่อนแล้วกัน ผมค่อยๆเดินย่องไปที่หน้าประตูห้องนอน แล้วเอาหน้าแนบประตู เงี่ยหูฟังตามซอกประตู...
ไอ้สัส เงียบเป็นเป่าสาก มึงโทรจิตคุยกันหรอวะ? เสียงห่าไรไม่มีเล็ดรอดออกมาเลย
เชี่ยยยย อยากแปลงร่างเป็นยุง จะได้บินเข้าไปเผือกได้ถนัดๆหน่อย
ผมเงี่ยหูฟังอยู่สักพักก็เริ่มถอดใจล้ะ... กูอยากรู้นะ แต่กูเมื่อยแล้วอ่ะ.. บอกพี่มาร์คแม่งเปิดสตรีมให้กูหน่อยได้มั้ยวะ?
ผมเลิกเอาหน้าแนบประตูก่อนจะจิ๊ปากเบาๆ แล้วหันไปมองหน้าเชี่ยยูค มันยักไหล่มาให้
“มึงนี่ขี้เสือกเนอะ...” ผมเลยถอนหายใจแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาตามเดิม เชี่ยยูคมันเดินตามมานั่งลงข้างๆ
“ไม่ต้องไปเสือกเรื่องคนอื่นเค้าหรอกมึง ตอนนี้กูหิว มีไรให้กินบ้าง?”
“ตีนกูไง แดกมั้ยล่ะ?”
ไม่ต้องแปลกใจที่บทสนทนาของผมกับไอ้ยักษ์วัดแจ้งนี่มันเหมือนเดิมทุกประการ...
สำหรับผมกับมันอ่ะนะ...
แมนๆ คุยกัน จบคือจบ!
“ไปหาดูในตู้เย็นโน่น”
“นี่มึงคิดหรอว่ากูไม่ได้เปิดตู้เย็นมึงดูแล้วอ่ะ มีแต่ขนมปัญญาอ่อน! มึงนี่แดกอะไรเหมือนตัวมึงเลย..”
ไอ้สัส!!!
“ถ้าแดกไม่ได้ก็ลงไปเซเว่น... ไปเลยมึง ซื้อข้าวมาฝากกูด้วย”
ณ ตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงเช้า ตื่นมาก็ต้องหาอะไรรองท้องสิ จริงมั้ย?
“ไม่! มึงอยากแดกก็ลงไปด้วยกัน เพราะกูจะไม่ซื้อมาเผื่อมึงแน่ๆ” ผมหันไปแยกเขี้ยวใส่เชี่ยยักษ์
ไอ้สัส เพื่อนเลว ไม่มีน้ำใจ
“นี่กูใส่ชุดนอนอยู่นะเว้ย เข้าห้องไปเปลี่ยนไม่ได้” พูดก็พูดเถอะ ชุดนอนกูก็ไม่ได้อะไรมาก ก็บอกแล้วไงว่าใส่เสื้อยืดกางเกงขายาวนอน แต่ที่ยกมาพูดเพราะมันเป็นข้ออ้างนะเผื่อใครยังไม่รู้
“หืมม ชุดมึงเหี้ย? แล้วมึงดูชุดกู เสื้อผ้าที่มึงให้กูเปลี่ยนเมื่อวาน เสื้อฟิตเหี้ยๆ กางเกงนี่ยังดีที่มันเป็นยางยืด ไม่งั้นไข่กูคงลีบไปตามตะเข็บกางเกงมึงแล้ว!” ผมหัวเราะร่วน...
ไอ้เหี้ยย #หัวเราะหนักมาก
แม่ง! พูดซะกูเห็นภาพ เออ.. จะว่าไปชุดมึงน่าอายกว่าเยอะเลย ไม่ได้ล้ะ... กูต้องหาข้ออ้างอื่น!
“แล้วเกิดกูกะมึงลงไปซื้อของ.. แล้วพวกพี่มันออกมาแล้วไม่เจออ่ะ?”
“มึงเองรึเปล่าที่อยากเจอ...”
ผมนี่เงิบเลยจย้าาาา
“พี่มันไม่ใช่เด็กล้ะนะที่ตื่นมาต้องร้องไห้หาแม่อ่ะ แล้วมึงก็ไม่ใช่แม่พวกมันด้วย... แล้วไอ้เซเว่นมันไม่ได้อยู่ไกลจากหอมึงเป็นสิบยี่สิบกิโล... มันอยู่แค่เนี้ยะ! เดินไปกลับสิบห้านาทีก็เหลือเฟือแล้ว... ไปกะกูนี่แหละ มึงจะได้ไม่ต้องฟุ้งซ่านว่าจะไปเสือกเรื่องพี่แจ็คยังไง” เชี่ยยูคร่ายยาว... ผมนี่พูดไม่ออกเลยครัช
โอเค.. สัส กูจะยอมมึงก็ได้ เห็นว่าพูดจาดี(?) มีเหตุผล(?)
“เออๆ ไปก็ไป” ผมลุกขึ้นเดินไปหยิบกระเป๋าตังสำรองที่อยู่หลังตู้เย็น... เพราะทุกสิ่งทุกอย่างกูอยู่ในห้องนอนหมดเลย ทั้งกระเป๋าตัง ทั้งโทรศัพท์... ตอนนี้มีแค่โทรศัพท์พี่แจ็คนอนแอ้งแม้งอยู่บนโต๊ะเพราะเมื่อคืนหยิบติดมือออกมาด้วย อ้อ.. ยังมีโทรศัพท์เชี่ยยูคมันอยู่อีกเครื่องนึง... เดี๋ยวมีเรื่องอะไรพี่มันก็โทรหาเชี่ยยูคเองแหละมั้ง
ผมกะเชี่ยยูคเดินลงจากหอมายังเซเว่น วันนี้วันอาทิตย์... ย้ำอีกรอบ... ที่ย้ำเพราะ... คนแม่งพลุกพล่านเหี้ยๆ!
โอ้ยยย มึง แล้วดูสภาพกูกะเชี่ยยูคดิ!
สัส... พวกมึงไม่ต้องมามองพวกกูเลย สภาพพวกกูก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากขนาดนั้นมั้ง... แค่ลงมาซื้อของเซเว่นกูคงไม่ต้องใส่สูทผูกไทด์มาหรอกนะ... ชิ!
ช่างแม่ง! กูเดินมาครึ่งทางแล้ว ไม่อายใครอีกต่อไปแล้วแหละ
พอถึงเซเว่นผมก็เดินเข้าไปหาของกินทันที... แน่นอนว่ากูไม่แดกมาม่าอีกแล้วแน่ๆ กูยังจำได้ว่าน้ำร้อนมันลวกมือกูหน้าเซเว่นแห่งนี้!
ผมกับเชี่ยยูคแยกกันไปหยิบของ.. แล้วนี่กูต้องซื้อไปเผื่อพี่หวังกับพี่มาร์คป่าวว้ะ? ซื้อๆไปเหอะ! ซื้อไปติดตู้เย็นไว้ก็ไม่เสียหายอะไร ถ้าพวกมันไม่กินก็แช่เย็นเก็บไว้กินเองได้ ผมหิ้วของพะรุงพะรังจนเชี่ยยูคมันเข้ามาช่วยถือ
“ซื้อไปถมที่หรอมึง?” มันแซะผมเบาๆ ผมเลยจิ๊ปากใส่มันไปแทน พอซื้อของครบทุกอย่างแล้วก็จะจ่ายตัง แต่ไม่ต้องเสียเวลาเปิดกระเป๋าตังตัวเองออกมาเลยเพราะเชี่ยยูคมันบอกว่ามันจะจ่ายให้หมดทุกบาททุกสตางค์เลยจย้าา
โอ้ยยย ไอ้เพื่อนประเสริฐ!
“รับขนมจีบ ซาลาเปาเพิ่มมั้ยครับ? หรือจะเป็นหมูยอพริกสดส่งตรงมาจากประเทศไทยเลยนะครับ” ผมส่ายหน้าให้พนักงานที่กำลังร่ายยาว
อีเหี้ย.. มาจากประเทศแม่กูเลยด้วย กูจะบอกให้ พ่อกูกลับไทยทีนึงซื้อหมูยอ กุนเชียง มาให้กินจนกูเอียนแล้ว ปึงหงี่เชียงอ่ะมึงรู้จักมั้ย!
“หรือจะจับคู่ใช้สิทธิ์แลกซื้อก็ได้นะครับ มีทั้งบราวนี่กับนมจืด แซนวิชกับโออิชิ แล้วก็...”
ยังอีก… ยังไม่หยุดอีก...
“ไม่เอาครับ” ผมบอกมันอย่างสุภาพ ไอ้นี่หนิ.. กูส่ายหัวไปแล้วมึงดูไม่ออกรึไงวะ ว่ากูไม่เอา!
แต่… ความพยายามขายของมันไม่สิ้นสุด
“มีกาแฟด้วยนะครับ อเมริกาโน คาปูชิโน ลาเต้..” ไอ้สัส!
“ไม่เอา!!”
ไอ้เหี้ย! กูว่าจะไม่ของขึ้นล้ะนะ… มึงดันมาขายกาแฟกูอีก!! กูตั้งใจว่ากลับห้องไปจะไปนอนต่อ แดกกาแฟให้โง่สิ พ่องมึง! แล้วกาแฟเซเว่นแม่ง รสชาติส้นตีนมาก! บอกเลย! รสชาติไม่น่าให้อภัย มึงไม่สมควรเกิดมาเป็นกาแฟเลย เสียชาติเกิด!
แม่ง! หงุดหงิด! พนักงานเซเว่นเป็นเหมือนกันทุกที่มั้ยวะ? ขายของหนักมาก ฮาร์ดเซลล์ที่สุด...
นี่มึงขายแข่งกะไอ้พาวเวอร์ฟูลโวคอลวงก็อตเจ็ดป้ะเนี่ย จนตอนนี้มันปิดไอจีไปเพราะโดนแซะเรื่องขายของนี่แหละ
ขายหนักๆงี้… มึงรับซักรีดด้วยเลยมั้ยล่ะ! ถุ้ย!
มันเงียบไปเลยทีนี้ ผมมองหน้ามันแบบ.. เอาสิมึง จะขายอะไรอีกพูดมา กูจะได้แดกหัวมึงตรงนี้แหละ! มันรีบเอาของใส่ถุงให้ผมอย่างไวอ่ะ
ก็แค่เนี้ย อีสลิดดกเอ้ย!
พอเชี่ยยูคจ่ายตังเสร็จ มันก็เอาไปหิ้วเองสองถุงใหญ่ๆ ผมบอกจะหิ้วเองมันก็ไม่ให้... ผมเลยเดินตัวปลิว... เออดี กูรู้ว่ามึงแรงเยอะ งั้นเชิญหิ้วไปตามอัธยาศัยเลยนะมึง.. หิหิ
“ไอ่แบม..” เชี่ยยูคมันเรียกผมระหว่างเดินกลับหอ
“อะไร?”
“มึงรู้สึกเหมือนโดนจ้องมั้ย?”
“กูรู้สึกจนเลิกรู้สึกล้ะมึง... สภาพมึงกะกูนี่ ใครไม่มองก็แปลกล้ะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นดิมึง...” ไอ้ยูคว่า มันขมวดคิ้วด้วย เฮ้ย! นี่มึงเครียดหรอ?
ผมเลยเหลียวซ้ายแลขวา มองไปรอบๆตัวเอง
“ไม่เห็นจะมีไรแปลกเลยมึง”
“เออ ช่างเหอะ! มึงมันโง่อยู่แล้วนี่ รีบๆเดินกูอายเค้า”
“สัสยูค!” เชี่ยแม่ง! ด่ากูโง่ตลอด นี่ถ้าไม่เห็นว่ามึงถือของหนักเต็มสองมือแบบนี้ล่ะก็... บอกเลย กูจัดมึงไปแล้ว!
ในที่สุดก็มาถึงห้องตัวเองสักที ใช้เวลาไม่เกินสิบห้านาทีอย่างที่เชี่ยยูคมันบอกจริงๆนั่นแหละ พอไขกุญแจเข้าห้องไปได้ก็เอาของไปวางและมานั่งกินอยู่ที่โซฟา และเช่นเคยไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น.. ในห้องมันก็ยังคงเงียบ
ผมเลยตัดสินใจรอมันอีกพักนึงแล้วค่อยไปเคาะประตูเรียก... คือนี่ห้องกูนะ... พวกมึงยึดห้องกูไปแล้วหรอ?
มึงรู้มั้ยว่าน้ำกูก็ยังไม่ได้อาบ ฟันกูก็ยังไม่ได้แปรง แต่กูนั่งแดกข้าวไปล้ะ.. รู้สึกสงสารตัวเองขึ้นมาทันใด... อีพี่หวัง มึงจะเอายังไงก็รีบๆบอกกูเถอะ พี่มาร์คมึงด้วยอีกคน... คุยกันให้กูรู้หน่อยไม่ได้ไง
เอาล่ะ! กูว่าถึงเวลาที่กูจะทวงห้องกูคืนแล้ว กูจะไม่รอให้ขี้กลากแดกกูก่อนแน่.. กูอยากอาบน้ำ แปรงฟัน เปลี่ยนชุด!
“จะไปไหนมึง?” เชี่ยยูคมันถามทันทีที่ผมลุกขึ้นยืน
“ไปเคาะประตู!” ไอ้เชี่ยยูคมันดึงให้ผมนั่งลง
“มึงไม่เข้าใจหรอวะไอ้แบม? ถ้าพี่มันโอเคจริงๆมันออกมานานแล้ว”
“แล้วทำไมกูต้องรอให้มันเป็นฝ่ายโอเคด้วยวะ! ถ้ามันไม่โอเคก็ทำให้มันโอเคดิ่ กูไม่ได้รู้สึกดีหรอกนะ... กูเข้าใจว่าตอนนี้พี่มันกำลังรู้สึกแย่... แต่มึงก็อย่าทำให้มันดูแย่ไปกว่านี้ดิวะ! ชีวิตแม่งมีเหี้ยอะไรตั้งเยอะแยะที่มันดีกว่านั่งจมปลักกับอะไรที่ทำให้มันดูแย่อ่ะ”
แกร๊ก
อีพี่แจ็คมันเปิดประตูออกมาแล้วยืนมองผมกับเชี่ยยูค ดูจากสภาพมันตอนนี้นะ… เหมือนผักกาดเหี่ยวๆที่กำลังจะแห้งตายยังไงไม่รู้สิ... พี่มันเดินตรงมาทางผมโดยมีพี่มาร์คเดินตามมาด้วย
“หิวข้าวมั้ยพี่แจ็ค กินไรก่อนมั้ย ไอ่แบมมันซื้อมาเผื่อ” เชี่ยยูคเดินเข้าไปหาพี่หวัง
“ขอบใจมากนะยูคยอม” อีพี่แจ็คว่าและหันมาพูดกับผม
“พี่แจ็คสันขอโทษนะครับน้องแบมแบมที่มารบกวน” พี่แจ็คมันพูดแล้วยิ้มแห้งๆให้ผม ทำไมกูรู้สึกว่ามันพยายามร่าเริงใส่กูวะ? มึงยังไม่รู้ใช่มั้ยว่ากูรู้เรื่องมึงแล้วอ่ะ... แล้วที่กูรู้คือมึงไม่ได้ม่อกูไง...
“นี่ถ้าไม่ได้น้องแบมแบมพี่แย่แน่ๆเลย ไอ้ยูคยอมมันรู้ใจพี่จริงๆ..” มึงไม่ต้องพยายามม่อกูได้มั้ยวะ? กูยิ่งรู้สึกไม่ดี
ผมหยิบโทรศัพท์พี่แจ็คที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วเดินไปส่งคืนให้เจ้าของ มันรับไปถือไว้...
“พี่กลับก่อนนะครับน้องแบมแบม...” มันพูดจบและจะเดินออกไปอย่างที่มันว่า แต่ระหว่างที่มันเดินสวนกับผม
“รหัสพี่ง่ายไปนะพี่แจ็ค...” พี่แจ็คมันชะงักไป... รู้แล้วใช่มั้ยว่ากูรู้เรื่องมึงระดับไหน...
“อะไรที่มันง่ายไป คนมักจะเดาออกถูกมั้ย?... ถ้าพี่ไม่อยากให้ใครรู้... พี่ก็แค่ทำให้มันยาก” ผมหมายถึงทั้งเรื่องรหัส และชีวิตมันอ่ะ หวังว่ามันจะคิดได้บ้าง...
ผมไม่รู้หรอกว่าความสัมพันธ์ตอนนี้ของพี่แจ็คกับพี่แตงเป็นยังไงแล้ว... ถ้าผมเป็นมัน... ผมคงอยากรักษามิตรภาพความเป็นเพื่อนไว้มากกว่าอย่างอื่น... เหมือนที่เชี่ยยูคมันเคยทำไง ถ้าผมเป็นเชี่ยยูค ผมก็ทำแบบมันแหละ... แค่ไม่ให้ใครรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง...
“พี่จะลองดูนะ...” แล้วพี่มันก็เดินออกไปจากห้อง
“เฮ้ยพี่เดี๋ยวผมไปส่ง!” ไอ้ยูควิ่งตามพี่หวังไป ตอนนี้ก็เหลือแค่ผมกับพี่มาร์ค
“พี่แจ็คว่าไงบ้าง?” พี่มันส่ายหน้าแล้วไม่พูดอะไร… เมื่อมึงไม่อยากพูดกูจะไม่ถามอีก… ยังไงเรื่องนี้มันก็ไม่เกี่ยวกับกูตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
“โอเค... พี่จะกลับพร้อมไอ้ยูคเลยก็ได้นะ ลงไปตอนนี้ยังทัน” พี่มันเอามือวางบนหัวผม
“ขอบใจมากนะ” หืมมม? ขอบใจเรื่องไร? เรื่องพี่แจ็คหรอ?
“อืมม ผมควรได้รางวัลมั้ยอ่ะ?” ถามไปงั้นแหละ… ก็ทำความดีสมควรได้รับรางวัลไม่ใช่หรอม?
พี่มันทำท่าจะเดินเข้ามากอดผม ผมเลยผลักมันออก
“จะทำไรอีกเนี่ยพี่มาร์ค!!”
“ก็รางวัลไง”
“ไม่เอารางวัลแบบนี้ดิ่!”
“งั้นเดี๋ยวให้รางวัลพรุ่งนี้ที่ม.แล้วกัน” ผมพยักหน้า.. ก็ไม่รู้ว่ามันจะให้อะไร เลี้ยงข้าวมั้ย? หรือพาไปเที่ยว?
“พี่ไม่กลับพร้อมพี่แจ็คจริงหรอ?” พี่มันส่ายหน้า
“เดี๋ยวจะไปธุระต่อ...” ผมพยักหน้าอีกรอบ
“โอเค งั้นเจอกันพรุ่งนี้เนอะ” พี่มันเดินไปที่ประตูก่อนจะหันกลับมาทางผม
“เรื่องแจ็คอย่าบอกใครนะ”
“รู้แล้วน่า… ขนาดพี่ผมยังไม่บอกเลย” อุ้ปส์ หลุดปาก ผมเลยหัวเราะแหะใส่มันไป มันทำหน้าตึงใส่ผม
“ผมเก็บความลับเก่งน่า ไม่ต้องห่วงหรอก” พี่มันเลยพยักหน้าเบาๆก่อนจะออกจากห้องไป…
เฮ้อ… สู้ๆนะพี่แจ็ค เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเอง
.
.
.
#ฟิคกระเรียน
.
มีอะไรกันอ่ะ
ตอบลบใครมองอะไร
แจ็คยังพยายามจะฝืนม่อแบมเนาะพ่อคุณ
ตอบลบแจ็คสันรีบกลับมาร่าเริง เน๊าะๆ
ตอบลบ