ฟิคกระเรียน = เกรียนฟิค
#ฟิคกระเรียน
เงิบจย้าาาา
-26-
Sakura Soup
ทรมาน… ทรมานเหี้ยๆอ่ะ
ไม่ชอบเลยความรู้สึกแบบนี้
กูเกลียด!
ผมหรี่ตามองไปในความมืด
ความรู้สึกหนักอึ้งที่หัวมันถาโถมเข้ามาทันทีที่พยายามจะลุกขึ้นนั่ง
แล้วก็ต้องทิ้งหัวตัวเองลงหมอนไปใหม่… นอกจากปวดหัวแล้วตอนนี้ยังคอแห้งชิบหาย
ผมกะจะเดินไปหาน้ำกินข้างนอกห้องสักหน่อย แต่พอเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟหัวเตียง
ก็ดันเจอขวดน้ำวางอยู่พร้อมแก้วน้ำที่โต๊ะหัวเตียง
“กูเอามาวางไว้หรอวะ?”
ผมพึมพำเบาๆด้วยเสียงแหบพร่า.. มองขวดน้ำอย่างงงๆ แล้วตัดสินใจลุกขึ้นนั่งแล้วหยิบขวดน้ำกับแก้วมาถือไว้...
หมับ
อยู่ๆก็มีมือมาแย่งแก้วกับขวดน้ำไปจากมือผม…
ผมขมวดคิ้วแล้วมองอย่างขัดใจ
“พี่มาร์ค?”
เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใคร ผมก็ยิ่งขมวดคิ้วเข้าไปใหญ่
มันนั่งลงข้างๆเตียงแล้วรินน้ำจากขวดใส่แก้ว จากนั้นก็เอามาจ่อปากผม
“นี่ผมฝันอยู่หรือว่าเมื่อกี้มันคือฝัน?”
ผมพูดเบาๆแบบเบลอๆก็พอรู้ตัว… แต่ที่จำได้ล่าสุดคือ
พี่มันเข้าลิฟท์ไปแล้ว...
“กินน้ำก่อน...”
มันพูด ผมเลยทำตามอย่างว่าง่าย
แล้วจับเข้าที่มือมันที่กำลังถือแก้วให้ผมอยู่
“ผมไม่ได้ฝันนี่...”
ผมขมวดคิ้วอีกรอบก่อนจะผลักมือพี่มันออกจนน้ำกระฉอกออกมาจากแก้ว
“แบมแบม...”
“พี่เข้ามาห้องผมได้ไง?
กลับไปแล้วไม่ใช่หรอ?” ผมสะบัดมือมันออกผมแล้วแค่นหัวเราะ…
กูจำได้ว่ามึงไปแล้ว...
“ยูคยอมเล่าให้พี่ฟังหมดแล้ว” มันวางแก้วลงที่โต๊ะแล้วใช้มือทั้งสองข้างล็อคมือผมไว้เพื่อไม่ให้ผมผลักมัน
“เล่าเรื่องอะไร?” ผมพยายามขืนแขนทั้งสองข้างของตัวเองออกจากการเกาะกุมของมัน
“รูป… ยูคยอมบอกพี่หมดแล้ว”
ผมขมวดคิ้วแล้วเลิกดิ้นเพราะหมดแรง แถมยังปวดหัวหนักมากด้วย
“ยูคยอม?” ผมมองหน้ามันเพื่ออยากให้มันยืนยันกับสิ่งที่ผมถาม…
“ใช่ พี่เข้าใจผิดเอง...”
“งั้นก็แปลว่าพี่เชื่อที่มันพูด… แต่พี่ไม่เชื่อผม?”
“ตอนนั้นพี่โกรธมาก...”
“ก็เลยไม่เชื่อที่ผมพูด...”
“แบมแบม..”
“กลับไปเหอะพี่มาร์ค
ผมอยากพัก” ผมทำท่าจะนอนแต่พี่มันก็รั้งไว้
“แบม...”
“กลับไปได้แล้ว!!!”
ผมตะโกนใส่หน้ามันทั้งๆที่ไม่มีเสียง… อีเหี้ย
พูดเลย กูเสียใจอ่ะ!
“พี่แม่งใจร้ายว่ะ!”
ผมพูดเสียงสั่นน้ำตาคลอ ตอนนี้หัวเริ่มหนักอึ้งอีกครั้ง… เหมือนหัวจะระเบิดเลย… ทรมานชิบหาย
“ขอโทษ...” มันเข้ามากอดผมไว้แล้วพูดย้ำๆอยู่ข้างหู ผมพยายามผลักมันออกอยู่พักใหญ่
แต่มันก็ไม่ยอม ผมเลยเอามือทุบไปที่หลังมันแทน... ทุบไปก็ร้องไห้ไป...
“พี่แม่ง! ฮึก
รู้ป้ะ… ตอนที่ประตูลิฟท์ปิดสนิทอ่ะ… ฮืออ
ผมแม่งรู้สึกได้ว่า ฮึก... พี่จะไปจริงๆ...”
“ผมก็บอกตัวเองว่า…
ช่างแม่ง! ฮึก ถ้าพี่อยากไป… ก็แค่ปล่อยพี่ไป...”
“แต่พี่ไม่รู้หรอกว่าแม่งโคตรเจ็บอ่ะ
พี่ไม่รู้หรอก… ฮึก ฮือออ เพราะผมเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน
ว่ามันเจ็บเหี้ยๆ”
“ทำไมทุกคน... ฮึก
ชอบทิ้งผมไปทั้งๆที่ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ฮืออ”
ผมร้องไห้หนักมาก…
ร้องหนักจริงๆไม่ได้กวนตีนแต่อย่างใด… พี่มาร์คมันลูบหัวผมเบาๆเพื่อปลอบ
แต่มันทำให้ผมยิ่งร้องหนักเข้าไปอีก
“ขอโทษ พี่ขอโทษ…
ขอโทษนะครับ”
แล้วผมก็ด่าอะไรพี่มันไปอีกเยอะเลย
จำได้ไม่หมดหรอก เพราะพูดเองก็พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง… แถมฟังก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอีก
ผมว่าน่าจะเพราะพิษไข้อ่ะที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้… พูดในสิ่งที่รู้สึกขนาดนี้...
ปกติผมเก็บความรู้สึกเก่งจะตายไป… แล้วปกติ… ผมไม่ยอมให้ใครเห็นน้ำตาผมง่ายๆหรอก
.
.
.
ย้อนกลับไปตอนที่มาร์คลงจากลิฟท์มาที่ชั้นหนึ่ง
เขาโมโหจนแทบจะล้มช้างได้ทั้งตัว… แต่ใครจะคิดว่าพอประตูลิฟท์เปิดออก
เขาจะเจอกับคนในภาพที่ทำให้เขาโมโหอยู่ตอนนี้… คิมยูคยอม
“พี่มาร์ค!”
ยูคยอมตกใจเมื่อเห็นมาร์คเดินออกมาจากลิฟท์…
มาร์คไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร
ปล่อยหมัดไปที่หน้ายูคยอมทันทีด้วยความโกรธ
ยูคยอมที่ไม่ทันได้ตั้งหลัก
เซไปด้านหลังเล็กน้อย... แต่มาร์คก็ทำท่าจะเข้ามาต่อยเขาอีกเป็นครั้งที่สอง
ยูคยอมจึงรับหมัดของมาร์คไว้แล้วผลักมาร์คออกด้วยแรงที่มีมากกว่า
“เป็นบ้าไรเนี่ยพี่!”
เขาขมวดคิ้วมองมาร์คอย่างไม่เข้าใจ
แต่มาร์คก็จะพุ่งเข้ามาต่อยเขาอีกครั้งจนเขาตั้งรับแทบไม่ทัน
แต่ก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรไปมากนอกจากผลักมาร์คออกไปเท่านั้น
“เป็นอะไรของพี่วะ?!!” ยูคยอมเริ่มทนไม่ไหว… แต่อยู่ๆเขาก็นึกขึ้นมาได้...
“อย่าบอกนะว่าเรื่องรูปอ่ะ…” ยูคยอมอึ้งไปแล้วกระโดดหลบมาร์คที่พุ่งเข้ามาใส่เขา
“เฮ้ยหยุดก่อนพี่!” ยูคยอมร้องห้าม…
พอเขาเห็นมาร์คเป็นแบบนี้เมื่อพูดเรื่องรูปเขาก็ยิ่งแน่ใจว่ามาร์คต้องเห็นรูปแน่ๆ
เพราะเขาเองก็เพิ่งได้รับรูปก่อนจะตัดสินใจลงจากรถแล้วขึ้นมาหาแบมแบมแทนการกลับหอ
“ถ้าเป็นรูปผมกับไอ้แบมบนรถ
พี่เข้าใจผิดนะเว้ย!” มาร์คปล่อยหมัดใส่ยูคยอมอีกครั้งโดยที่ยูคยอมไม่คิดจะหลบ
“นี่อย่าบอกนะว่าพี่โมโหใส่แบมเรื่องรูปลงมาเนี่ย..”
ยูคยอมยกมือขึ้นเช็ดเลือดที่มุมปากแล้วมองหน้ามาร์ค
ตอนนี้คนที่โมโหไม่ได้มีแค่มาร์คซะแล้วล่ะ
“อยากให้ผมต่อยพี่คืนบ้างมั้ยพี่มาร์ค!!
เอาให้สมกับที่พี่มันโง่ เชื่อรูปไร้สาระ
ถ้าอยากรู้มากว่าในรถมันเกิดอะไรขึ้นไปดูกล้องวงจรปิดหน้าหอไอ้แบมไป… มันไม่ได้เป็นอย่างในภาพ!!!” ยูคยอมเอ่ยอย่างเดือดดาลแล้วผลักมาร์คกระเด็น
“เดาว่าไอ่แบมมันคงปฎิเสธมาแล้วว่าไม่ใช่อย่างนั้น…
แต่เห็นพี่เป็นแบบนี้... ผมก็เดาได้ไม่ยากอีกนั่นแหละ
ว่าพี่ไม่เชื่อมัน…” มาร์คนิ่งไป
เพราะยูคยอมพูดเหมือนรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
“คิดว่าตอนนี้ไอ้แบมมันจะเป็นยังไงวะพี่!
ตั้งสติแล้วคิดทบทวนให้ดี” ยูคยอมบอก
“แบมแบม..” มาร์คพึมพำแล้ววิ่งเข้าลิฟท์ไปอีกครั้ง โดยมียูคยอมวิ่งตามเข้าไปด้วย..
ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาที่มาร์คทันทีที่เขานึกถึงตอนที่เขาไม่เชื่อแบมแบม
ทำให้แบมแบมโดนลิฟท์หนีบ แถมยังผลักแบมแบมออกมาจากลิฟท์… เมื่อประตูลิฟท์เปิดมาร์คก็รีบวิ่งออกมาที่ห้องแบมแบมทันที...
“แบมแบม!!”
มาร์คที่เห็นร่างเล็กของแบมแบมนอนอยู่ที่หน้าประตูห้องก็รีบวิ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว
เขาจับตัวแบมแบมขึ้น แล้วก็รู้สึกถึงความร้อนจากร่างกายของอีกคน
“พี่เอามันเข้าไปในห้องก่อน
กุญแจอยู่ในกระเป๋าเสื้อมันอ่ะ” ยูคยอมบอกก่อนที่มาร์คจะล้วงมือลงไปหยิบกุญแจห้องส่งให้ยูคยอม
มาร์คอุ้มแบมแบมมาวางลงที่เตียง
“ว่าแล้วว่ามันต้องไม่รอดแน่ๆ” ยูคยอมบอก มาร์คหันขวับไปที่ยูคยอมทันที
“อะไร!!?” มาร์คตวาดจนยูคยอมสะดุ้ง
“โทษที ใช้คำผิดไปหน่อย..
ว่าแล้วว่ามันต้องไม่ไหว… มันตัวเย็นๆตั้งแต่อยู่ในรถแล้ว
แถมหน้ามืดอีก ผมสังหรณ์ใจแปลกๆเลยจะตามขึ้นมาดูมันว่าถึงห้องแล้วแน่ๆรึเปล่า
สุดท้ายก็ไม่รอดจริงๆ” ยูคยอมถอนหายใจ
“ขอโทษนะที่ต่อยนายไป” มาร์คบอกก่อนจะถอดรองเท้าของแบมแบมออก
“ช่างมันเหอะพี่
แต่ถ้ามีอีกเป็นครั้งที่สองผมต่อยคืนนะ… มันเจ็บนะเว้ย!”
“ต่อยคืนตอนนี้ก็ได้นะ”
“ไม่อ่ะ..
ผมว่าพี่เช็ดตัวให้ไอ่แบมมันก่อนเหอะ เดี๋ยวไข้จะขึ้นหนักกว่านี้
แล้วเดี๋ยวผมไปหายามาให้” ยูคยอมบอกก่อนจะเดินออกจากห้องไป
หลังจากที่มาร์คเช็ดตัวให้แบมแบมเสร็จแล้วเขาก็ให้แบมแบมกินยา…
โดยการใช้ปากกรอกลงไปเพราะอีกคนยังคงหลับอยู่
มาร์คใช้หมอนรองหัวแบมแบมให้สูงขึ้น ก่อนจะอมน้ำและยาในปากตัวเองก่อนจะใช้มือบีบเบาๆที่แก้มของแบมแบมเพื่ออ้าปาก ส่วนมืออีกข้างก็บีบจมูกแบมแบมไว้กันสำลักน้ำ.. ก่อนที่จะประกบปากตัวเองลงไปบนปากของอีกคน ลิ้นร้อนของมาร์คดันเอาเม็ดยาและน้ำใส่ปากแบมแบม ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้นยาเม็ดและน้ำก็ไหลลงสู่คอของแบมแบมไป… มาร์คเช็ดน้ำที่ไหลรินออกมาจากปากอีกคนอย่างเบามือ แล้วกดจูบซ้ำลงไปบนริมฝีปากอิ่มนั่นอีกครั้ง แต่ก็ต้องผละออกอย่างห้ามใจตัวเอง… ก่อนจะจัดแจงหมอนให้อีกคนหนุนอย่างสบายแล้วปล่อยให้นอนพัก.. มาร์คมองแบมแบมที่นอนหลับอยู่อีกครั้งก่อนจะเดินออกมานอกห้อง
มาร์คใช้หมอนรองหัวแบมแบมให้สูงขึ้น ก่อนจะอมน้ำและยาในปากตัวเองก่อนจะใช้มือบีบเบาๆที่แก้มของแบมแบมเพื่ออ้าปาก ส่วนมืออีกข้างก็บีบจมูกแบมแบมไว้กันสำลักน้ำ.. ก่อนที่จะประกบปากตัวเองลงไปบนปากของอีกคน ลิ้นร้อนของมาร์คดันเอาเม็ดยาและน้ำใส่ปากแบมแบม ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้นยาเม็ดและน้ำก็ไหลลงสู่คอของแบมแบมไป… มาร์คเช็ดน้ำที่ไหลรินออกมาจากปากอีกคนอย่างเบามือ แล้วกดจูบซ้ำลงไปบนริมฝีปากอิ่มนั่นอีกครั้ง แต่ก็ต้องผละออกอย่างห้ามใจตัวเอง… ก่อนจะจัดแจงหมอนให้อีกคนหนุนอย่างสบายแล้วปล่อยให้นอนพัก.. มาร์คมองแบมแบมที่นอนหลับอยู่อีกครั้งก่อนจะเดินออกมานอกห้อง
ยูคยอมที่นั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟาเห็นมาร์คเดินออกมาจากห้องนอนก็เอ่ยถามทันที
“ไอ่แบมมันเป็นไงบ้างพี่?”
“เพิ่งให้กินยาไป”
“โอ๊ะ อย่าบอกนะว่า...ใช้ปาก” ยูคยอมยกนิ้วมือทั้งห้านิ้วขึ้นมากัดเอาไว้ด้วยความเขินแทนเพื่อนตัวเอง
ถ้าแบมแบมตื่นขึ้นมาแล้วรู้ว่าตัวเองกินยายังไงหน้าคงแดงเป็นลูกตำลึง
“เรื่องรูป...” มาร์คเอ่ยแล้วนั่งลงข้างๆยูคยอม
“แปลกใจอ่ะดิ เพิ่งเคยได้ใช่มั้ย?” ยูคยอมถอนหายใจ มาร์คขมวดคิ้ว
“ผมได้รูปประมาณนี้มาสักพักแล้ว
ไอ้แบมมันก็รู้ด้วย...”
“มันมาจากไหน? ใครเป็นคนทำ”
“อย่างที่พี่รู้เรื่องเพจยูคแบมนั่นแหละ…
แต่ผมไม่คิดว่าครั้งนี้พี่จะได้รูปด้วย…”
“มันส่งมาจากไลน์นี้” มาร์คยื่นโทรศัพท์ให้ยูคยอม ยูคยอมชะโงกหน้าดูแล้วพยักหน้า
“คนเดียวกันจริงๆด้วย...
ผมว่าพี่ควรรู้นะว่าใครทำ”
“ใคร?”
“น้องเทคพี่ เพื่อนเทคผม.. แทยอง
มันชอบพี่อ่ะ” พี่มาร์คขมวดคิ้วน้อยๆก่อนจะถอนหายใจ
“เอาไงต่ออ่ะพี่?” ยูคยอมถาม
“ก็ไม่เอาไงหรอก… ไม่ต้องไปสนใจ”
ยูคยอมยักไหล่… ในใจก็สงสารแทยองอยู่เหมือนกันที่พี่มาร์คเองยังเอ่ยปากเองเลยว่าไม่ต้องสนใจ...
“ก็แล้วแต่พี่นะ… แต่ผมกับไอ้แบมก็จัดมันไปอยู่เรื่อยๆเหมือนกัน...
มันส่งรูปยูคแบมมาให้ ผมก็แชร์รูปมาร์คแบมกลับไป หายกัน..
แล้วไม่อยากจะบอกผมมีเป็นเซ็ต ภาพงี้HDทั้งนั้น ฮ่าๆ”
ยูคยอมหัวเราะ มาร์คเองก็ยิ้มออกมา
“ขอโทษที่เข้าใจผิดนะ เรื่องนายกับแบมแบม”
“เฮ้ยพี่ช่างมันเหอะ ตอนนี้นะ..
ผมอยากเห็นมันมีความสุข ฝากมันด้วยนะพี่” มาร์คยิ้มให้ยูคยอมก่อนจะรับปาก
.
.
.
ผมหรี่ตาขึ้นมามองแสงที่แยงผ้าม่านเข้ามาในห้อง…
ก่อนจะยกมือขึ้นนวดขมับตัวเอง ผมยังรู้สึกมึนหัวอยู่เลย… แถมตาก็ยังหนักๆอีกด้วย
“แอ่กๆ” ผมไอออกมาอย่างเสียไม่ได้ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบขวดน้ำที่โต๊ะหัวเตียง…
แต่ก็ไม่มี… อ้าว มันเคยมีไม่ใช่หรอวะ?
ผมเลยตัดสินใจลุกจากเตียงแล้วเดินไปหาน้ำกินที่ตู้เย็นในห้องครัวแทน…
หืมม ฟังไม่ผิดหรอก กินน้ำเย็นนี่แหละ มันชินแล้วอ่ะ
“อย่าแม้แต่จะคิด!”
ผมสะดุ้งเมื่อเสียงที่ได้ยินดังอยู่ข้างหูขณะที่ผมกำลังจะกรอกน้ำเย็นเข้าปากตัวเอง
หมับ
พี่มาร์คมันแย่งแก้วในมือผมไปวางบนเค้าท์เตอร์แล้วกอดเอวผมแน่น
“ผมหิวน้ำ” ผมบอกขณะที่พี่มันลากผมไปนั่งที่โซฟา… ลากกูถอยหลังนั่นแหละ
อีห่า! เล่นเหี้ยอะไร
“ห้ามกินน้ำเย็น
นั่งรอตรงนี้” มันว่าแล้วเดินกลับไปที่ครัวแล้วกดน้ำร้อนใส่แก้วเดินเอามาให้ผม
ผมเบะปากใส่แก้วที่มีไอร้อนพวยพุ่งขึ้นมาทันที
“ไม่เอาอ่ะ”
ผมทำหน้าเหยเก.. อีสัส
กินน้ำร้อนที่มันไม่มีรสชาติอะไรเลยแบบนี้กูกินไม่ลงอ่ะ… มันไม่มีอะไรเลยนอกจากความร้อนอ่ะมึง
อย่างน้อยมึงเอาโอวันตินหรือโกโก้ชงใส่ลงไปให้กูหน่อยไม่ได้หรอ?
“ไม่กินน้ำเย็นก็ได้... แต่ไม่เอาน้ำร้อนได้มั้ย?” ผมอ้อนมันแล้วไอค่อกแค่กๆอีกรอบ
พี่มันเลยรีบไปเปลี่ยนเอาน้ำธรรมดามาให้ผมอย่างไวเลย… เออ
มันต้องงี้ดิ่ ตามใจกูหน่อย กูป่วยอยู่
“จะไปเรียนหรอ?”
ผมถามพี่มันที่นั่งลงมาข้างๆกัน… ที่ถามเพราะพี่มันใส่ชุดนิสิตแล้วเรียบร้อย…
“มีเทสย่อย
ขาดไม่ได้” ผมพยักหน้า… ก็ไม่ได้น้อยใจอะไร... คือกูป่วยอยู่ป้ะ แต่มึงก็จะไปสอบ… โอเคกูไม่งี่เง่าหรอก
กูแยกแยะออกอยู่
“สอบเสร็จจะรีบโดดมาหาเลย”
มันบอก
“ไม่ต้องหรอกพี่มาร์ค
ผมอยู่ได้” ผมบอกแล้วจิบน้ำลงคอ
“เมื่อคืนยังบอกอยู่เลย
ว่าอยู่ไม่ได้ถ้าพี่ไป...”
“แอ่กๆ” ผมสำลักน้ำทันที...
อีเหี้ยยย ผมนี่ตาเหลือกเลยครัช
ตายห่าแล้ว…
เมื่อคืนกูพ่นอะไรไปบ้างวะเนี่ย? จำได้ว่าด่าอีพี่ต้วนไปเยอะมาก...
กูพูดแบบนั้นไปหรอวะ? กูพูดหรอวะ?
อีเหี้ยย จำรายละเอียดไม่ได้เลย อีดอก! แม่งยิ่งคิดยิ่งปวดหัว.. ผมยกมือขึ้นมาแปะไว้บนหน้าผากตัวเอง
อีเหี้ยย จำรายละเอียดไม่ได้เลย อีดอก! แม่งยิ่งคิดยิ่งปวดหัว.. ผมยกมือขึ้นมาแปะไว้บนหน้าผากตัวเอง
“แบมแบม..” พี่มาร์คดึงมือผมออกไปจับไว้
“เมื่อคืนพี่พูดไปแล้ว..
แต่แบมแบมอาจจะอยากฟังอีกรอบตอนมีสติ” ผมมองหน้าพี่มาร์ค
มันทำหน้าจริงจังจนผมแปลกใจ…
“พี่ขอโทษนะที่ไม่เชื่อ…
ต่อไปนี้จะเชื่อแบมแบมคนเดียว” มันบอกแล้วจ้องตาผม
“ขอโทษนะครับ”
มันพูดอีกครั้งแล้วยื่นหน้าเข้ามาจูบหน้าผากผมเบาๆ
“ห้ามทำแบบนั้นอีกนะพี่มาร์ค...”
ผมบอกก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างไปยืดแก้มมันออกจนมันร้องโอดโอย
แล้วก็ไม่วายทำหน้าดุใส่กูอีกตามสไตล์… กูอ้อนมึงอยู่นะสึด!
แม่ง! ไม่เข้าใจกูเลย ตอนท้องแม่มึงไม่แดกหวานหรือไงวะ?
“ดุจังเลย
ที่บ้านเลี้ยงล็อตไวเลอร์หรอพี่มาร์ค?” ผมเบะปากใส่มันไปทีนึงแล้วเลิกดึงแก้มมัน
“พี่มาร์ค... หิวอ่ะ” ท้องผมมันร้องตรงเวลาดีจริงๆ ตอนนี้เก้าโมงกว่า น้ำย่อยเริ่มทำงาน
เอาดีๆเมื่อวานก็ไม่ได้กินอะไรเลย หิวมาก!
“นั่งรอตรงนี้แปปนึง
เดี๋ยวทำให้กิน” มันบอก ผมนี่ตาลุกวาวเลยครัช..
อีเหี้ยย พี่มาร์คจะทำอาหารให้กูกินอ่ะมึง ครั้งแรกเลยนะเนี่ย…
แต่พอมันยกออกมาวางที่โต๊ะหน้าโซฟาแล้วกูรู้สึกผิดหวังทันที.. อีห่า ข้าวกล่องเซเว่นอ่ะมึง แค่เอาไปเวฟแล้วยกออกมาให้กูแดก เปลี่ยนแค่ภาชนะที่ใส่อ่ะมึง แม่งโคตรเลว คุณหลอกดาว!
อีเหี้ยย พี่มาร์คจะทำอาหารให้กูกินอ่ะมึง ครั้งแรกเลยนะเนี่ย…
แต่พอมันยกออกมาวางที่โต๊ะหน้าโซฟาแล้วกูรู้สึกผิดหวังทันที.. อีห่า ข้าวกล่องเซเว่นอ่ะมึง แค่เอาไปเวฟแล้วยกออกมาให้กูแดก เปลี่ยนแค่ภาชนะที่ใส่อ่ะมึง แม่งโคตรเลว คุณหลอกดาว!
“เดี๋ยวตอนเย็นทำให้กิน”
อีพี่ต้วนมันบอก สงสัยคงจะเห็นสีหน้าผิดหวังของกูล่ะมั้ง
“จริงนะ?” ผมถาม
“จริงๆ”
“ไม่เอาข้าวกล่องแล้วนะ”
มันพยักหน้า แล้วนั่งมองผมกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย(?) อีห่า นั่งมองกูเวลากินข้าวกูก็เขินนะ! แต่กูหิวมากกว่า… ณ จุดๆนี้
พอกินเสร็จมันก็ให้ผมกินยาแล้วพาไปนอน… แต่ผมก็มิวายขอแปรงฟันก่อน ซึ่งพี่มันก็ไม่ว่า ยอมให้ผมแปรง… คือกูรู้สึกว่าช่องปากไม่สะอาด เพราะเมื่อวานก็ไม่ได้แปรง กร๊ากกกกกก
พอกินเสร็จมันก็ให้ผมกินยาแล้วพาไปนอน… แต่ผมก็มิวายขอแปรงฟันก่อน ซึ่งพี่มันก็ไม่ว่า ยอมให้ผมแปรง… คือกูรู้สึกว่าช่องปากไม่สะอาด เพราะเมื่อวานก็ไม่ได้แปรง กร๊ากกกกกก
ผมเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าแปรงฟัน
แต่ทันทีที่มองเห็นตัวเองในกระจกกูก็แทบร้อง…
อีเหี้ยยยย นี่มันใครวะแม่ง!
“ตากูบวมขนาดนี้ โอ้ยย ไอ้เย้ดโด้!”
ผมเปิดก็อกน้ำแล้วรีบล้างหน้าตัวเองอย่างไว
ก่อนจะแปรงฟันด้วยความเร็วแสง เมื่อคืนกูต้องร้องไห้หนักมากแน่ๆอีสัสเอ้ย
หน้ากูบวม ตากูบวมเหมือนโดนต่อยมาเลย หมดหล่อกันพอดี.. ไม่ได้ละกูต้องนอน…
พอผมออกจากห้องน้ำอีพี่มาร์คมันก็เดินมาบอกว่าจะไปเรียนแล้ว..
ตอนแรกผมก็พยักหน้าเออๆออๆไปแล้วทิ้งตัวลงบนเตียง
แต่มันก็อิดๆออดๆไม่ยอมไปสักทีจนผมที่นอนอยู่บนเตียงต้องเอ่ยถาม
“มีอะไรรึเปล่าพี่มาร์ค?”
“วันนี้สอบอ่ะ” มันบอกแล้วเดินมายืนข้างเตียง
“แล้ว?”
“ขอกำลังใจ” ดีออก!
“สู้ๆนะพี่” ผมยกมือทำไฟต์ติ้งส่งไปให้มัน
แต่มันก็ทำหน้าตึงๆส่งกลับมาแทน… ไม่พอใจอะไร...
“ให้ผมเป่ากระหม่อมให้มั้ย? มาก้มลงมา”
อีห่า! กูประชด… กูก็บอกสู้ๆไปแล้วมึงจะเอาไงกับกูอีก? อีหอยเอ้ย
อีห่า! กูประชด… กูก็บอกสู้ๆไปแล้วมึงจะเอาไงกับกูอีก? อีหอยเอ้ย
พี่แม่งเสือกก้มลงมาจริงๆ กูนี่เลยไม่รู้จะทำไง จุ้บหน้าผากมันไปทีนึง..
อีสัส ตลก! คนอย่างมาร์ค ต้วน มาให้กูเป่ากระหม่อมให้ โอ้ย!
อีสัส ตลก! คนอย่างมาร์ค ต้วน มาให้กูเป่ากระหม่อมให้ โอ้ย!
“ขอให้คะแนนท็อปคลาส” ผมบอก.. พี่มันยิ้มให้แล้วเอามือมาลูบหัวผมเบาๆ แล้วก็เดินออกไป...
หลังจากนั้นผมก็หยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่หัวเตียงมาเล่นเพราะยังไม่ค่อยง่วง…
ขออัพเดทข่าวสารบ้างอะไรบ้าง... แต่ทำไมมันเงียบจังวะ… อย่างที่รู้ว่าวันนี้ไม่ใช่วันหยุด.. คนอื่นเค้าก็มีเรียนกันหมด...
แต่กูต้องหยุด แล้วนอนอยู่ห้องเพราะป่วย อีดอก! ไม่ต้องเรียนกูโอเคนะ… แต่กูเหงาอ่ะ เห้อม~
ผมนอนกลิ้งไปกลิ้งมาไถทามไลน์ทวิตไปเรื่อยๆก็เริ่มง่วงเพราะยาที่กินเข้าไปเริ่มออกฤทธิ์…
นี่กูต้องหลับอีกแล้วสินะ… เพื่อตาบวมๆของกูจะได้หายไป...
บรัยส์เวิล์ด
.
.
.
“อือ” ผมงึมงำพลางปัดป่ายมือไปที่แก้มตัวเองอย่างรำคาญ
เมื่อรู้สึกว่าแก้มตัวเองมีอะไรมาโดนอยู่บ่อยๆ
“อือออ” ผมขมวดคิ้วพลางหรี่ตาขึ้นมามองไอ้สิ่งที่ชนแก้มผมอยู่อย่างหงุดหงิด
แล้วกูเจออะไรรู้มั้ย?
หน้าอีเชี่ยพี่มาร์คอยู่ใกล้กูแค่คืบ
ฟอด
มันหอมแก้มผมฟอดใหญ่ๆจนผมตื่นเต็มตา…
“พี่มาร์ค..” ผมยกมือขึ้นจับแก้มตัวเองข้างที่มันเพิ่งหอมมาเมื่อกี้
“ขี้เซาจริงๆ ปลุกนานมาก” มันบอก
อีเชี่ยยย อย่าบอกนะว่ามึงหอมแก้มกูเพื่อปลุก
ไอ้เย้ดเข้!!! แก้มกูช้ำหมดมั้ยสาส!
“ปลุกดีๆก็ได้ ต้องหอมแก้มเพื่อ?” ผมบ่นกระปอดกระแปดพลางเอามือแนบแก้มตัวเองแล้วลุกออกจากเตียง อีสัส กูเขิน
ใครใช้ให้มึงเอาสันเขื่อนมึงมาชนแก้มกูบ่อยๆวะ
“ก็กลัวจะหลับลึก” มันบอกแล้วเดินมาจูงมือผมก่อนจะลากมาที่ครัว
แล้วจับผมกด(?) เดี๋ยวๆอย่าเพิ่งคิดไปไกล
กดกูนั่งลงบนเก้าอี้นี่แหละ
“ทำซุปไก่ซากุระไว้ให้..
กินซะจะได้หายไวๆ” มันบอก… แล้วเดินไปที่เคาท์เตอร์
“ทำเองหรอ? มันเหมือนอาหารปลาซากุระป้ะพี่มาร์ค?” กวนตีนไประดับสาม
“จะเก็บปากไว้กินหรือจะให้ทำอย่างอื่น”
มันหันมามองผมค้างไว้… อู่ยยยย
ผมหนีเหยินขึนเหรยย *สำเนียงพี่เนียร์*
“กวนนิดกวนหน่อยก็ไม่ได้”
ผมเบ้ปากใส่พี่มัน...
“กินซุปเร็วจะได้กินยา”
พี่มันยกหม้อเซรามิกกลมๆสีขาวขึ้นมาวางไว้ที่โต๊ะกินข้าว
“ไม่กินยาแล้วไม่ได้หรอ? ผมเพิ่งตื่นมาเองนะ... นี่ถ้ากินยาแล้วเดี๋ยวก็ง่วง..
ง่วงแล้วเดี๋ยวก็ต้องนอนอีกแล้วอ่ะ... ยังไม่อยากนอนตอนนี้อ่ะ เบื่อแล้ว.. นะๆๆ”
ผมเอาหน้าไปไถแขนพี่มันประหนึ่งลูกแมวอ้อนเจ้าของ..
“ไม่ได้!”
สาส เชื่อล้ะว่าตอนท้องแม่มึงไม่แดกหวานจริงๆ
สาส เชื่อล้ะว่าตอนท้องแม่มึงไม่แดกหวานจริงๆ
“โหยย...
คนอะไรใจร้ายชะมัด อุตส่าห์อ้อนแทบตาย” ผมปล่อยมือจากแขนพี่มันแล้วยู่ปากใส่
“แล้วใครบอกให้ป่วย”
“ของแบบนี้ต้องมีคนบอกด้วยหรอ?
มันนึกอยากป่วยมันก็ป่วยเอง ใครจะไปอยากป่วย
วันๆทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนๆๆ ปวดหัวก็ปวด ทรมานจะตาย..”
จุ้บ
ใบ้แดกสิครัชกู...
“ทำไมเงียบแล้วล่ะ...
อีกทีมั้ย?”
มึงจะให้กูพูดอาร้ายยยย ก็มึงอ่ะแม่ง! จุ้บตรงไหนไม่จุ้บ มาจุ้บปากกู... ให้กูพูดอะไรได้อีกล่ะอีเควี่ยย
มึงจะให้กูพูดอาร้ายยยย ก็มึงอ่ะแม่ง! จุ้บตรงไหนไม่จุ้บ มาจุ้บปากกู... ให้กูพูดอะไรได้อีกล่ะอีเควี่ยย
“รู้ตัวมั้ยว่าตอนป่วยอ่ะ...น่ารักขนาดไหน”
“รู้ตัวมั้ยว่าไอ้ปากแดงๆเพราะพิษไข้เนี่ย
มันน่า... ขนาดไหน”
“แล้วรู้ตัวมั้ยว่าไอ้ที่อ้อนๆอยู่เนี่ย
ถ้ายังไม่หยุดทำ.. คืนนี้จะไม่ได้นอน”
มาเป็นชุดเลย...
แล้วแต่ละชุด ถามว่ากูเงิบมั้ย?
“หนะ...ไหนซุปไก่พี่อ่ะ”
หน้าตัวเองตอนนี้แม่งคงตลกมากอ่ะ ทั้งเขิน ทั้งอาย
ทั้งต้องเก็บอาการ ทั้งกลัวว่าพี่มันจะทำอะไรที่กูคาดไม่ถึง...
จุ้บ
“ตอนนี้ยิ่งน่ารักใหญ่”
พูดอย่างเดียวก็ได้ มึงจะจูบกูอีกเพื่อ!!!!!
พูดอย่างเดียวก็ได้ มึงจะจูบกูอีกเพื่อ!!!!!
อีเชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
กูเขิน TT’
กูเขิน TT’
“ผมถามหาซุป
ไม่ใช่จุ้บ”
“พี่ก็ไม่ได้ฟังผิดนะ...”
พูดงี้แสดงว่าตั้งใจสินะ..
โอ้ยยย อีเชี่ยยยย ขยันรุกกูจั๊งงงง
กูเพิ่งหายป่วยนะอีสัสนี่! พี่คุณณณ ช่วยผมด้วยยยย
แล้วกูก็ก้มหน้าก้มตากินซุปไก่ซากุระของมันอย่างเอาเป็นเอาตาย..
แดกแม่งในหม้อนี่แหละ กะยกซดให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย ฮือออ
หวานนนนนนนนนนน
ตอบลบโอ้ยย รุกหนักขนาดนี้ บอกแม่มาขอเถอะมาร์คต้วน
ตอบลบกูเนี่ยเขินจนตัวแตกแล้ว~